บทที่ 8 ตอนที่ 8.เจ้าสาวตัวแทน/4

“ฉันว่า ใจเย็นๆ ก่อนนะคะ อาจจะมีการเข้าใจผิดกัน”

มัสลินพยายามไกล่เกลี่ย เธอเองก็เริ่มสงสัยว่าอาจจะถูกคนเป็นป้าหลอกเหมือนกัน คงต้องคุยกันต่อหน้า ให้ท่านอธิบายเรื่องราวทั้งหมด

“ก็ได้ ผมจะรอฟังคำอธิบายของคุณแพรพรรณ วันนี้เราควรกลับได้แล้ว ไม่ต้องถ่ายรูปบ้าบออะไรนี่แล้ว”

“ค่ะ ฉันก็อยากกลับเหมือนกัน”

มัสลินพยักหน้าเห็นด้วย ยิ้มอ่อนๆ ให้เขา พลางถอนหายใจแรง กิริยานั้น ทำให้คนมองคลายความโมโหลงไป “ไม่ต้องกลัวหรอกครับ ผมแค่ต้องการคำอธิบาย ท่าทางคุณดูเครียดกว่าผมเสียอีก”

“ป้าแพรท่านต้องโมโหฉันแน่ๆ เลย ท่านสั่งให้ฉันโกหกทุกคนว่าเป็นลูกสาวท่าน แต่ฉันขัดคำสั่ง”

มัสลินมีสีหน้าหนักใจ เธอขัดคำสั่งอีกทั้งยังเปิดเผยความจริงให้ภานุรู้ ป้าของเธอคงจะเล่นงานเธอหนักแน่ ดีไม่ดีอาจจะมีการลงไม้ลงมือ ซึ่งแพรพรรณเคยตบเธอหลายหนยามที่เธอไม่ทำตามคำสั่ง

“ขอโทษนะครับ ทำไมดูคุณกลัวคุณป้าของคุณมาก มีอะไรก็น่าจะคุยกันได้ ให้พ่อแม่คุณช่วยพูดก็ได้นี่ครับ”

ภานุมองท่าทีหวาดหวั่นของมัสลินอย่างสงสัย ดูเธอจะกลัวป้าของเธอมาก

“พ่อแม่ของฉันเสียไปหลายปีแล้วค่ะ คุณยายเลยรับฉันมาเลี้ยง พอท่านป่วยป้าแพรคือคนที่จัดการทุกอย่างในบ้านแทนท่าน ฉันในฐานะผู้อาศัยต้องเชื่อฟังคำสั่งป้าแพรค่ะ”

มัสลินจำต้องเล่าเรื่องราวของเธอให้อีกฝ่ายฟัง ยามนี้เธอไม่รู้จะพึ่งพาใครได้ การได้ระบายให้ใครสักคนได้ฟัง เป็นทางออกที่ดีที่สุด

“ท่าทางป้าของคุณคงร้ายกาจมาก คุณถึงได้กลัวหงอแบบนี้ นึกว่าจะมีแต่ในนิทานเรื่องนางซินกับแม่เลี้ยงใจร้าย นี่เป็นป้าใจร้ายกับนางซินสินะ” ภานุรู้สึกเห็นใจหญิงสาวขึ้นมา

“แต่ก็ยังดีกว่าเรื่อง สโนว์ไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ดนะคะ อย่างน้อยฉันก็ไม่ถูกไล่ออกจากบ้าน ไม่ถูกสั่งฆ่า หรือว่าถูกแม่มดหลอกให้กินแอปเปิ้ลอาบยาพิษ”

มัสลินยังมีอารมณ์ขัน ทั้งที่อยากร้องไห้เต็มทน เธอมองเห็นอนาคตตัวเองโดยไม่ต้องให้หมอดูทำนาย

“รันทดได้อีก” ภานุส่ายหน้าอย่างเวทนา

“ฉันชินแล้วค่ะ ยอมให้ป้าแพรด่าสักหน่อย ตบอีกทีสองที แลกกับการไม่ถูกไล่ออกจากบ้าน ได้อยู่ดูแลคุณยาย ฉันว่าฉันทนได้ค่ะ”

น้ำเสียงคนพูดแม้จะพยายามให้สดใส แต่ก็ซ่อนความปวดร้าวไว้ไม่มิด คนฟังสะท้อนใจสงสารหญิงสาวคนนี้เหลือเกิน บิดาของเขาอยากให้เขามีทายาทสืบสกุลให้ท่าน บังคับให้เขาแต่งงานกับหญิงสาวที่ท่านเลือกให้ แลกกับการยกมรดกทั้งหมดให้ ภานุจำยอมอย่างไร้ทางเลือก เขาทำใจแล้วกับการต้องแต่งงานกับผู้หญิงที่ไม่ได้รัก และคงต้องฝืนใจมีทายาทให้บิดาสมหวัง จากนั้นเขาอาจจะขอหย่า โยนเงินให้สักก้อนเพื่อแยกทางกัน แล้วกลับไปใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองต้องการ แต่มัสลินทำให้เขาเกิดความคิดบางอย่าง

“คุณเป็นคนดี ไม่ควรต้องทนให้ป้าคุณข่มเหง”

“ฉันมีคุณยายที่ป่วยเป็นอัมพาตต้องดูแล ฉันทิ้งท่านไม่ได้หรอกค่ะ ต่อให้ต้องอดทนมากกว่านี้ ฉันก็ยินดีขอเพียงได้ดูแลคุณยายก็พอ”

ยิ่งฟังภานุยิ่งสงสารมัสลินจับใจ ท่าทางของเธอดูซื่อๆ คงไม่กล้าปั้นเรื่องมาหลอกลวงเขาแน่นอน ผู้หญิงแบบนี้คงไม่มีปากเสียงอะไร และคงจะยอมทำตามคำสั่งได้อย่างง่ายดาย

“แล้วคุณไม่คิดพาคุณยาย ออกมาจากบ้านนั้น ออกมาให้พ้นจากป้าใจร้ายบ้างเหรอ”

คำพูดนี้ทำให้มัสลินยิ้มขื่น แววตาหมองเศร้าลงกว่าเดิม ทางออกที่เขาบอกทำไมเธอจะไม่อยากทำ แต่มันยากเหลือเกิน

“ฉันไม่มีปัญญาหรอกค่ะ ลำพังแค่ขายขนมคงไม่พอหาเงินมารักษาคุณยาย แถมอาจจะพาคุณยายไปลำบากอยู่ในห้องเช่าแคบๆ ฉันคิดว่าทนให้ป้าแพรดุด่าใช้งาน แลกกับความสุขสบายของคุณยาย ยังดีกว่า”

ภานุถอนหายใจแรง คนเราเลือกเกิดไม่ได้ คนดีแสนดีกลับต้องทนให้คนเลวรังแกเพราะเงื่อนไขชีวิต ตัวเขามีทางเลือกมากกว่ายังต้องถูกบิดาบังคับให้แต่งงานกับคนที่ไม่ได้รัก หากต้องแต่งงานแล้วอยู่กับคนที่ไม่ได้เลือก สู้เลือกคนที่เ¬ขาคิดว่าน่าจะอยู่กันได้อย่างมีความสุขจะดีกว่าไหม

“ผมมีข้อเสนอ” เขาเอ่ยขึ้น

“ข้อเสนอ... หมายความว่ายังไงคะ” มัสลินมองคนพูดอย่างสงสัย

“ไหนๆ คุณก็ถูกคุณพ่อเลือกให้แต่งงานกับผมแล้ว ทำไมไม่แต่งงานกับผมจริงๆ เลยล่ะ”

ข้อเสนอของทำให้มัสลินตกใจ อะไรทำให้ผู้ชายคนนี้เกิดอยากแต่งงานกับเธอขึ้นมา

“มันจะดีหรือคะ เราไม่ได้รักกัน ฉัน... ฉันไม่...” มัสลินส่ายปฏิเสธทันที

“ฟังผมก่อนนะ ที่ผมเสนอให้คุณแต่งงานกับผม เพราะผมอยากช่วยคุณ ถ้าคุณแต่งงานกับผมก็จะสามารถรับคุณยายมาดูแลได้ ไม่ต้องไปอาศัยป้าของคุณให้เขาโขกสับ ที่สำคัญผมเองก็ไม่คิดจะแต่งงานกับผู้หญิงที่ผมไม่ได้เลือกเอง ถ้าผมต้องแต่งงานกับผู้หญิงสักคน ผมขอเลือกผู้หญิงแบบคุณ”

ภานุอธิบายให้หญิงสาวฟังอย่างใจเย็น เขาท่าทีครุ่นคิดของมัสลินแล้วก็ยิ้มเอ็นดู

“ไม่ต้องกังวลเรื่องความสัมพันธ์ของเรา ผมจะแต่งงานกับคุณแต่ในนาม ความจริงแล้วผมมีคนรักอยู่แล้ว”

“แล้วทำไมคุณไม่แต่งงานกับคนรักของคุณล่ะคะ” มัสลินยังกังขา

บทก่อนหน้า
บทถัดไป