บทที่ 8 Chapter 8

Chapter 8

“แน่ใจนะว่าไม่คิดอะไรเกินเลย อย่าให้อารู้ทีหลังนะ อาเอาตาย” เขาขู่เธอไว้ก่อน แม้จะรู้ว่า อิงฟ้าไม่มีนิสัยโกหก

“แน่ใจสิคะ ฟ้ามีอาดินทั้งคน ฟ้าจะไปมีใครได้ล่ะคะ”

เธอไม่ได้อ้อนแค่น้ำเสียง เอี้ยวตัวไปหาร่างหนา ยื่นหน้าหอมแก้มเขาอย่างประจบ อ้อนชายหนุ่มด้วยการซบหน้าลงบนหัวไหล่แล้วถูไปมาเบาๆ คล้ายกับแมวน้อยกำลังอ้อนเจ้านาย เธอทำเช่นนี้มีหรือจักรินทร์จะไม่ใจอ่อน ใจเขาอ่อนยิ่งกว่าขี้ผึ้งรนไฟเสียอีก

“อาคงต้องทำโทษฟ้าที่ทำให้อาคิดมาก ใจไม่ดีซะแล้ว ฟ้าจะได้หลาบจำ” เขาทำเสียงเข้ม ขับเคลื่อนรถไปยังถนนเบื้องหน้า

“อยากรู้จังเลยว่า บทลงโทษของอาดินจะเป็นยังไง บอกฟ้าได้ไหมคะ”

เธอทำเสียงอ่อนหวาน ทั้งที่รู้คำตอบดีว่าคืออะไร ไม่เพียงแค่นั้น อิงฟ้ายังทำให้ตัวเขาสั่น ความใคร่ลามเลียไปทั่วร่าง ด้วยการขบติ่งหูเขาเบาๆ ใช้ไรฟันกัดหยอกเย้า ส่งท้ายด้วยปลายลิ้นเล็กไล้เลีย

“ยั่วเก่งขึ้นทุกวัน อย่างนี้ต้องจัดให้สักดอกก่อนกลับถึงบ้าน”

เขาหันมายิ้มให้อิงฟ้าที่หน้าแดงระเรื่อ อึดใจต่อมาจักรินทร์เคลื่อนตัวรถมุ่งหน้าไปยังจุดหมายปลายทางที่ตนตั้งใจ แต่หาใช่เหมืองอัยรา

“อาดินจะไปไหนคะ ทางนี้ไม่ได้ทางกลับบ้านนี่คะ” อิงฟ้าถาม เมื่อเห็นว่าเขาออกนอกเส้นทาง

“เดี๋ยวฟ้าก็รู้”

เขาตอบเชิงมีปริศนา อิงฟ้าไม่ได้ถามอะไรต่อ เธอคิดว่า ไม่ว่าเขาจะพาไปไหนก็พร้อมจะไปที่แห่งนั้นด้วยความเต็มใจ

จักรินทร์ขับรถขึ้นมาบนเขาลูกหนึ่ง ที่มีความลาดชันเป็นระยะ บางจุดเป็นจุดอันตรายก็จะมีป้ายสัญญาณบอก เขาขับรถขึ้นมาบนเขาลูกนี้อย่างชำนาญ จนกระทั่งเกือบถึงยอดเขา จักรินทร์ได้เลี้ยวรถเข้ามาในเขตรั้วที่ไม่มีประตู นำรถมาจอดหน้าบ้านหลังหนึ่งที่ยังปลูกไม่เสร็จตรงเชิงเขา

“บ้านใครคะอาดิน”

เธอถามด้วยความอยากรู้ จักรินทร์ไม่ตอบ เขากลับเปิดประตูรถแล้วก้าวลงไป ทำให้เธอต้องลงจากรถตามไปด้วย

“มานี่สิ อาจะพาไปดูวิวสวยๆ” มือใหญ่กุมมือเล็ก ก่อนจะพาเดินไปยังริมหน้าผา ที่มีม้านั่งตั้งอยู่ “สวยไหม”

เขาถามอิงฟ้าที่สายตามองไปยังวิวทิวทัศน์ด้านล่าง จากจุดที่ทั้งสองยืนอยู่ สามารถมองเห็นตัวเมืองชุมพรได้เกือบทั้งหมด แม้ว่าเวลานี้จะเป็นเวลาดึก แต่ความสวยงามไม่ได้ลดเลือน แสงสีของไฟที่ประดับตามบ้านเรือนและสถานที่สำคัญ ทำให้ความงามมีมนต์เสน่ห์มากขึ้น

“สวยค่ะ สวยมากเลย ฟ้าไม่เคยมองวิวแบบนี้มาก่อนค่ะ” เธอตอบเขาตามความจริง “แล้วบ้านหลังนี้ของใครคะ”

จักรินทร์ยังไม่ตอบ เขาทรุดกายนั่งบนเก้าอี้ตัวยาว ให้เธอนั่งตักเขา แล้วกอดร่างสวยไว้

“บ้านหลังนี้ อาตั้งใจสร้างให้หลันน่ะ แต่พอหลันหนีไป อาเลยหยุดการก่อสร้าง มันก็เลยยังสร้างไม่เสร็จ”

จักรินทร์ตอบตามตรง บ้านหลังนี้เขาตั้งใจสร้างให้บุหลันเนื่องจากเธอชอบวิวตรงจุดนี้มาก ซึ่งเขาก็ตามใจบุหลัน แต่พอเธอทำร้ายจิตใจเขาอย่างสิ้นเยื่อใย จักรินทร์ได้ยุติการสร้างบ้านหลังนี้ทันที และไม่เหยียบย่างมาที่นี่อีกเลยนับจากวันนั้น

สีหน้าของเขาไม่มีความเคียดแค้นบุหลันดังวันวาน มีแต่ความว่างเปล่าทางแววตา ราวกับว่าลืมเรื่องที่บุหลันสร้างความเจ็บช้ำให้ตนหมดใจ

“ฟ้าขอโทษนะคะที่ถาม ฟ้าไม่รู้ว่า...” อิงฟ้ากล่าวคำขอโทษพร้อมกับพนมมือไหว้เขา

“ฟ้าไม่ผิดหรอก ถ้าอายังไม่ลืมเรื่องนั้น อาคงไม่พาฟ้ามาที่นี่” เขาหอมแก้มหอมๆ ของอิงฟ้า กอดร่างเธอแน่นขึ้น “ตอนนี้อามีฟ้า ฟ้าอยู่กับอานะ อย่าจากอาไปไหน”

เธอหอมแก้มสากบ้าง ยิ้มหวานท่ามกลางความมืด มีเพียงแสงจากพระจันทร์ที่เปรียบเสมือนเป็นแสงไฟ “ฟ้าไม่ไปไหนคะ ฟ้าจะอยู่กับอาดิน จนกว่าอาดินจะไม่ต้องการฟ้า”

“ไม่มีวันที่อาไม่ต้องการฟ้า อาต้องการฟ้ามากๆ อย่างเช่นตอนนี้ไง อาต้องการฟ้าจนร้อนไปทั้งตัวแล้ว”

ปากพูด มือใหญ่ก็ลูบไล้ไปตามแผ่นหลังเลื่อนต่ำมาคลึงบั้นท้าย ดวงตาประกายปรารถนา

“ที่นี่ไม่ได้นะคะ เดี๋ยวมีคนมาเห็น” เธอรีบห้าม เพราะรู้ว่าเขาต้องการอะไร

“ไม่มีใครเห็นหรอก เชื่ออาสิ อารู้ดีกว่าใคร”

จักรินทร์ไม่สนใจเสียงทักท้วงของอิงฟ้า เขาประกบปากจูบปากนุ่มนิ่มชวนหลงใหลทันที ก่อนที่เธอจะอ้าปากพูดคำใดออกมา แน่นอนว่า อิงฟ้าไม่มีทางปฏิเสธสัมผัสจากเขาได้ เธอตอบโต้จุมพิตกลับอย่างเร่าร้อน โรมรันลิ้นอย่างไม่มีใครยอมใคร ลืมเรื่องที่ตนเป็นกังวลเสียสนิท

มือแกร่งสอดเข้าไปในชายเสื้อสีชมพู เพื่อกอบกุมเต้าอวบใหญ่ที่ไม่ว่ากี่ครั้งที่จับต้อง มันจะเด้งรับน้ำหนักมือยากระชับบีบทุกคราไป ส่งผลให้เกิดความเมามัน ขยำเคล้นสนุกมือ ไม่นานนักเขาก็เลิกเสื้อในขึ้นสูงเหนือทรวงอก เพื่อที่จะได้จับต้องความนุ่มหยุ่นนั้นได้ถนัดมือ หมุนปลายถันเบาๆ สลับกับขยี้ช้าๆ เธอขนลุกซู่ วาบหวิวทุกรูขุมขน

บทก่อนหน้า
บทถัดไป