บทที่ 2 ครอบครัว(1)

"อีกแล้วเหรอลูกตาล!" "ตาลขอโทษจริง ๆ ค่ะ" "แต่ตาลจำเป็น" "เฮ้อ...ถามจริง ๆ ไม่เหนื่อยบ้างรึไง" "เอาไป...ถ้าไม่เห็นว่าเป็นลูกตาลพี่ไม่ให้เบิกนะ" "ขอบคุณค่ะพี่เดียร์"

"ไป ๆ ไปทำงานได้แล้ว มีอะไรก็บอกพี่" พี่เดียร์เจ้าของผับที่ทำงานอยู่ วันนี้ก็เหมือนทุก ๆ เดือนคือขอเบิกเงินล่วงหน้าเพราะต้องเอาไปให้พ่อ

"ขอบคุณอีกครั้งนะคะ" ฉันยกมือไหว้พี่เดียร์แล้วออกไปทำงาน ถึงจะไม่อยากทำงานในผับแบบนี้ แต่มันก็จำเป็นเพราะลำพังเงินเดือนเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ที่ทำอยู่คงไม่พอเลี้ยงพ่อเลี้ยงน้อง แต่ดีที่พี่เดียร์ใจดีและเมตตาให้รับเข้าทำงาน

ฉันทำงานที่นี่ได้ไม่กี่เดือนเองและพ่อก็ขู่เอาเงินตลอด ถ้าไม่ให้พ่อก็จะทำร้ายน้อง ๆ เลยต้องยอมพ่อตลอด

🎶 เพลง You don’t call me baby... 🎶

ฉันเดินเข้าไปในผับเพื่อทำงานตามหน้าที่เหมือนทุกวัน ตอนนี้ DJ เปิดเพลงเสียงดังลั่นเพราะวันนี้ลูกค้าจองร้านเพื่อฉลองวันเกิด วันนี้คนเลยมากเป็นพิเศษ

หน้าที่ของฉันแค่ยืนยิ้มหวาน ๆ พูดคุยกับลูกค้าบ้าง เป็นเด็กเสิร์ฟบ้าง ที่จริงถ้าดื่มเหล้าเป็นรายได้คงจะดีกว่านี้ เหมือนพี่เปียโนที่ทำหน้าที่ชงเหล้าคอยเชียร์นั่งดื่มกับลูกค้า แต่สำหรับฉันแค่นี้ก็พอแล้วเพราะต้องทำงานตอนกลางวันด้วย

"น้องครับ!" ระหว่างที่กำลังจะเดินไปหาเพื่อน ๆ คนอื่นที่ยืนถ่ายรูปกับลูกค้า ก็มีผู้ชายคนหนึ่งเดินถือแก้วเหล้าเข้ามาหา

"ค่ะ" ฉันยิ้มให้เขา

"พี่ขอถ่ายรูปด้วยได้ไหม" และนี่คืออีกหนึ่งหน้าที่

"ได้ค่ะ" ฉันก็ได้แต่ฉีกยิ้มหวานและถ่ายรูปกับเขา

"ขอแบบถ่ายใกล้อีกนิดได้ไหม" กฎของที่นี่คือห้ามถูกเนื้อต้องตัวพนักงาน

"นะครับ พี่แค่อยากถ่ายรูปกับน้องนิดเดียว" แต่ผู้ชายคนนี้ดูเขามีมารยาท ต่างกับคนอื่น ๆ ที่ไม่มีหรอกที่จะขอแบบนี้

"ได้ค่ะ" เขาขยับเข้ามาหาแล้วถ่ายรูปต่อ

"ขอบคุณนะน้อง" เขายิ้ม ๆ แล้วเดินออกไปหาเพื่อนเขาทันที

ส่วนฉันก็เดินไปหาเพื่อน ๆ คืนนี้คนเยอะเลยเหนื่อยหน่อยเพราะต้องเดินไปเดินมา กว่าจะเคลียร์ร้านเคลียร์ทุกอย่างเสร็จก็ ตี 2 และมันก็เป็นแบบนี้วนไปทุกวัน

ตอนเช้า 06:00 น.

"พ่ออยู่ไหม" ฉันตื่นแต่เช้าแวะไปที่บ้านเพื่อจะเอาเงินไปให้พ่อ

"อยู่ มีอะไร" ลูกกวางน้องสาวคนละแม่ ตอนนี้เธออายุ 16

"แล้วทำไมแต่งตัวแบบนี้ไม่ไปเรียนเหรอ" ฉันเดินเข้าไปในบ้าน

"เรียนทำไมขี้เกียจ"

"สู้หาผัวรวย ๆ ดีกว่าจะได้สบายไม่ต้องทำงานงก ๆ เหมือนพี่" ลูกกวางพูดอย่างหน้าตาเฉยแล้วทิ้งตัวลงนอนที่โซฟากลางห้อง

"ทำไมคิดอะไรแบบนั้น รู้ไหมถ้าไม่มีความรู้จะโดนหลอกเอาง่าย ๆ" ฉันก็พูดเตือนน้องแบบนี้ทุกครั้ง

"เป็นแค่พี่! ไม่ใช่แม่ อย่ามาสอน!"

"เอาเงินมาจะไปเที่ยว!"

"นี่!! ลูกกวาง! หยุดนะ!"

"หยุดก็โง่ดิ จะเรียนไปทำไมนั่ง ๆ นอน ๆ อยู่บ้านก็มีคนหาให้ใช้" ลูกกวางแย่งเงินในกระเป๋าแล้วรีบวิ่งออกไปหน้าบ้าน

แวน ๆ ๆ แงน ๆ "ไปกันที่รัก!!" "มาช้าอะ!" แงน!!!!!

"ละ...ลูก" ฉันเดินออกไปจะเรียกน้องแต่ไม่ทันแล้ว ลูกกวางซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ออกไปกับผู้ชายท่าทางน่ากลัว ๆ แล้วดูแต่งตัวเข้า เสื้อเกาะอกกางเกงขาสั้น แต่งตัวแบบนั้นมันอันตรายไม่รู้รึไง

"อีตาล!!!" "ไหนเงินกู!" พ่อตะโกนเสียงดังลั่นบ้าน เดินโซเซออกมาจ้องหน้าตาเขม็ง

"พ่อตาล บอกแล้วใช่ไหมว่าให้เพลา ๆ ลงบ้าง" นี่คงจะเมาข้ามวันอีกแล้ว

"แส่!!" "เรื่องของกู!!" พ่อเดินมาเอามือจิ้มหน้าผากอย่างแรง

"ที่ตาลบอก ตาลเป็นห่วงพ่อนะ" ฉันได้แต่ถอนหายใจ

"เป็นห่วงก็เอาเงินมา" พ่อแย่งกระเป๋าจากมือ

"พ่อ!! เอามา!" ฉันรีบแย่งคืนแต่พ่อไม่ให้

"มีแค่นี้เองเหรอวะ?" พ่อนับเงินแล้วมองหน้าฉันอย่างไม่พอใจ

"มีแค่นี้แหละ"

"นี่เพิ่งจะกลางเดือนเองนะ"

"พ่อก็ใช้ประหยัด ๆ หน่อยแล้วกัน" เงินหมื่นกว่าบาทฉันใช้ได้สองเดือนเลยนะ

"แล้วลูกอมกับลูกเกดล่ะ" ฉันมองหาน้อง ๆ อีกสอง ปกติถ้ามาลูกอมกับลูกเกดต้องวิ่งมากอด

"ไม่รู้!" พ่อไม่สนใจยิ้มกริ่มกับเงินในมือ

"เงินที่ตาลให้ ตาลไว้ให้พ่อไว้ซื้อข้าวซื้อน้ำเลี้ยงน้องนะ ไม่ใช่ให้พ่อเอาไปกินเหล้า" ฉันก็ไม่อยากพูดเรื่องนี้หรอก แต่นับวันพ่อยิ่งดื่มหนักขึ้นเรื่อย ๆ

เพล้ง!!

"อีตาล!! มึงเป็นลูกมีหน้าที่หาเงินให้กูใช้ไม่ใช่มาสอนกูแบบนี้!" "กูเป็นพ่อมึง!! ไม่ต้องมาแส่สอนกู!!" พ่อคว้าขวดเหล้าที่วางเกลื่อนอยู่เต็มหน้าบ้านขว้างใส่

"อึก!!" "ที่ตาลพูด เพราะตาลเป็นห่วงพ่อนะ!" ฉันได้แต่ยืนร้องไห้ "ตาลแค่อยากให้พ่อเลิกกินมัน" นับวันพ่อก็แก่ขึ้นเรื่อย ๆ ทำไมพ่อไม่รักตัวเองบ้างก็ไม่รู้ "ตาลมีพ่อคนเดียวนะ อึก.." "แม่ก็ทิ้งตาลไปแล้ว ตาลไม่อยากเสียพ่อไปอีกคน" ฉันพูดพลางสะอื้น ทำไมพ่อไม่เข้าใจกันบ้าง ไม่ว่าตัวเองจะทำงานเหนื่อยแค่ไหน ก็ทนได้ แค่ได้เห็นครอบครัวกินดีอยู่ดี แต่ดูสิ่งที่พ่อทำสิ บางทีมันก็เหนื่อยนะ

"โวยวายอะไรแต่เช้า!" ระหว่างที่กำลังทะเลาะกับพ่อ น้าแพรว แม่ของลูกอมและลูกเกด ก็เดินนุ่งกระโจมอกออกมา

"แล้วมึงเป็นบ้าอะไร มาด่าผัวกูฉอด ๆ" ทันทีที่เห็นหน้า น้าแพรวก็ด่าสาดเสียงดังเสียจนชาวบ้านที่เดินไปเดินมาต่างมุงดู

"เจ้าข้าเอ๊ย!!!"

"มาดูอีลูกเนรคุณมันยืนชี้หน้าด่าพ่อด่าแม่!!"

"อุตส่าห์เลี้ยงมาอย่างดี ถ้ารู้ว่าโตมาปีกกล้าขาแข็งแล้วจะมาชี้หน้าด่ากูแบบนี้ กูไม่น่าเลี้ยงมึงมาเลย อีตาล!!" ฉันได้แต่ยืนร้องไห้กับคำด่าที่น้าแพรวพูดพร้อมตะโกนเสียงดังโวยวาย

"อีหนู ลูกไปเถอะ อย่าไปสนใจเลย มีพ่อแม่แบบนี้" ยายข้างบ้านที่รู้จักครอบครัวฉันดี เดินมาจูงมือออกจากตรงนี้

"อึก!!"

"ยายล่ะสงสาร เห็นมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย" ยายพาฉันไปนั่งที่เก้าอี้ตรงสวนสาธารณะเล็กทางเข้าหมู่บ้าน ฉันได้แต่กอดยายแล้วร้องไห้โฮออกมา

"ตาลเหนื่อยจังค่ะยาย" บางทีก็แอบคิดว่าจะมีชีวิตไปเพื่ออะไรในเมื่อไม่มีใครรักสักคน

"เห็นนั่นไหม" ยายชี้ไปที่หมาจรจัดตัวหนึ่งที่ตัวผอมโซ

"ยายจะพาไปดูอะไร" ยายพาฉันเดินไปที่พุ่มไม้เล็ก ๆ

แต่ต้องตกใจเมื่อเห็นชายชราคนหนึ่งที่นั่งอยู่กับลูกหมาตัวเล็ก ๆ 2-3 ตัว

"เอ้า ยายจันทร์วันนี้มากับใคร" ตาหันมายิ้มให้ฉันกับยาย

"แล้วแม่หนูเป็นอะไรลูกร้องไห้ทำไม" ตาพูดและแสดงความเป็นห่วงเป็นใย

"ปะ..เปล่าค่ะ" ฉันเช็ดน้ำตาแล้วยิ้มให้คุณตา

"วันนี้ตามีให้กินแค่นี้ ไว้พรุ่งนี้ตาจะไปขอที่วัดมาให้ใหม่" คุณตาพูดและยิ้มให้กับลูกหมาพวกนั้น ที่กำลังแย่งกันกินเศษอาหาร

บทก่อนหน้า
บทถัดไป