บทที่ 2 หนี้สินครอบครัว
ณ บ้านของโจเซฟเซเบอรัส เจ้าของธุรกิจนวดแผนโบราณที่กำลังจะล้มลายในไม่ช้าก็กำลังนั่งเครียดอยู่กับพิริมาภรรยาคนสวยของเขา เพราะตอนนี้เขาไม่มีเงินไปใช้หนี้ให้กับเสี่ยกำธร ซึ่งเป็นเศรษฐีเจ้าพ่อเงินกู้รายใหญ่
“อย่าเครียดไปเลยนะคะคุณ พิมว่ายังไงเราก็ต้องหาทางออกจนได้” พิริมาเอ่ยปลอบใจสามีออกไปอย่างเห็นใจ เพราะเธอก็ไม่รู้จะช่วยสามีเธออย่างไร
ด้านสาวสวยหน้าหวานอย่างพิชชาภา นามไทสงค์ หลานสาวของพิริมากำลังจะเดินผ่านห้องนั่งเล่นเพื่อออกไปเรียนหนังสือก็ต้องหยุดอยู่ที่ขอบประตูห้องนั่งเล่น เพื่อแอบฟังน้าทั้งสองของเธอคุยกัน เพราะทั้งสองจะต้องมีปัญหาอะไรกันอยู่แน่ น้าสาวของเธอถึงพูดแบบนั้นออกมา
“มีเรื่องอะไรนะ” พิชชาภาเอ่ยพูดเบาๆอย่างสงสัย ก่อนจะตั้งใจแอบฟังน้าทั้งสองของเธอพูดคุยกัน
“จะไม่ให้ผมเครียดได้ยังไง เงินตั้งสิบล้าน ผมจะไปหามันมาจากไหน ไอ้เสี่ยกำธรมันก็เจ้าเล่ห์มันคิดจะเอาลูกสาวเราไปขัดดอกกับมัน” โจเซฟเอ่ยพูดออกไปด้วยเสียงเข้ม เขาจะไม่ยอมให้ลูกสาวคนเดียวของเขาไปลงนรกแบบนั้นเด็ดขาด
“พิมก็ไม่ยอมค่ะ พิมจะไม่ยอมให้ยัยพลอยหรือยัยพิชไปเป็นเมียไอ้เฒ่านั่นเด็ดขาด” พิริมาเอ่ยบอกออกไปอย่างไม่ยอม เพราะเธอจะไม่ส่งลูกสาวหรือหลานสาวของเธอไปให้ไอ้แก่ตัณหากลับนั่นเด็ดขาด
“ผมว่าถ้าเราไม่มีเงินคืนมันจริงๆ ผมจะปล่อยให้มันยึดร้านของเราไป” โจเซฟพูดออกมาเสียงเศร้า เพราะเขาก็จนปัญญาจะหาเงินมาชดใช้ให้เสี่ยกำธรแล้ว
“เหลือเวลาอีกตั้งสองอาทิตย์ เราค่อยๆคิดกันไปก่อนนะคะคุณ” พิริมาบอกสามีออกไป ก็คิดในใจอย่างเสียดาย เพราะเธอเปิดร้านนี้มาสิบกว่าปีแล้ว
“เรื่องนี้อย่างให้เด็กสองคนนั้นรู้นะ ผมไม่อยากให้พวกแกมาเครียดกับเรา” โจเซฟเอ่ยบอกไปเสียงเศร้า เขาไม่อยากให้ลูกกับหลานสาวต้องมารับรู้เรื่องนี้ พิชชาภาถึงจะเป็นสาวสาวของพิริมาแต่เขาก็เลี้ยงมาตั้งแต่แบเบาะเขาก็รักพิชชาภาดังลูกคนหนึ่งของเขาเอง เขาจึงไม่คิดที่จะส่งพิชชาภาให้กับเสี่ยกำธร
พิชชาภาที่ยืนฟังอยู่ก็อึ้ง เพราะที่ผ่านมาร้านนวดก็ไปได้ดีมาตลอดเพราะเวลาที่เธอไปที่ร้านเธอก็เห็นมีลูกค้าเสมอ แต่ทำไมน้าโจถึงไปติดหนี้เสี่ยกำธรเยอะขนาดนั้นกัน แล้วถ้าปิดร้านจริงๆน้าทั้งสองของเธอจะทำยังไง ไหนจะยัยพลอยที่กำลังจะเข้าเรียนมหาลัยอีก เธอจะต้องหาทางช่วยน้าของเธอให้ได้ เพราะท่านทั้งสองก็เป็นเหมือนพ่อกับแม่ของเธอ เธอจะไม่ยอมปล่อยให้สิ่งที่ท่านรักต้องกลายเป้นของคนอื่นแน่ คิดได้ดังนั้นพิชชาภาก็เดินออกไปทันที
พอมาถึงมหาวิทยาลัยพิชชาภาก็มานั่งอยู่กับปัทมาและนภัทรที่เป็นเพื่อนสนิทกับเธอมาตั้งแต่มอปลาย เธอก็นั่งเงียบจนเพื่อนทั้งสองเอ่ยถามเธออย่างสงสัย
“นี่แกเป็นอะไรรึเปล่าอ่ะพิช นั่งเงียบเชียว” ปัทมาเอ่ยถามเพื่อสาวที่นั่งตรงข้ามเธออย่างสงสัย เพราะปกติพิชชาภาจะเนคนช่างพูด ไม่ใช่นั่งเงียบแบบนี้
“เออใช่ แกมีเรื่องอะไรรึเปล่าพิช” นภัทรซึ่งเป็นเกย์แอ๊บแมนเอ่ยถามเพื่อนสาวออกไปอย่างเป็นห่วง
“ร้านน้าพิมกำลังจะเจ้งน่ะสิแก แล้วน้าโจก็ไปติดหนี้เสี่ยกำธรตั้งสิบล้าน ฉันก็เลยไม่รู้จะช่วยน้าฉันหาเงินที่ไหนมาจ่ายให้เสี่ยนั่น แล้วนี่ไอ้เสี่ยกำธรยังจะมาเสนอให้น้าฉันส่งฉันหรือยัยพลอยไปเป็นเมียน้อยมัน ดีนะที่น้าฉันไม่ยอมส่งฉันกับยัยพลอยไป ไม่งั้นฉันคงโดดน้ำตายไปแล้ว” พิชชาภาเอ่ยพูดบอกไปพร้อมกับสีหน้าเศร้า เพราะเธอไม่รู้จะทำยังไงให้หาเงินได้เยอะขนาดนั้นในเวลารวดเร็ว
“เห้ย สิบล้านเลยเหรอ เยอะขนาดนั้นจะไปหาทันได้ยังไง ไอ้เสี่ยนั่นก็ตัณหากลับจริงๆ” ปัทมาเอ่ยพูดย่างตกใจ เพราะสิบล้านมันเยอะมากจริงๆสำหรับคนธรรมดาอย่างพวกเธอ
“ก็นั่นแหละ ฉันถึงมานั่งกลุ้มอยู่นี่ไง” พิชชาภาพูดไปก็เอามือท้าวคางอย่างท้อๆ เพราะคิดหาทางที่จะหาเงินไม่ได้
“ถ้าต้องไปเป็นเมียน้อยไอ้เสี่ยนั่น ฉันว่าแกไปขายตัวให้ไฮโซหล่อๆรวยๆยังจะง่ายกว่าอีก” นภัทรเอ่ยพูดไปอย่างไม่คิด แต่มันทำให้พิชชาภาตาโตทันที
“ปากหมาจริงๆนะอีต้น เพื่อนกำลังเครียดอยู่นะยังจะมาพูดเล่นอีก” ปัทมาพูดไปก็เอื้อมมือไปตีแขนของเพื่อนหนุ่มอย่างอดไม่ได้
“อ่าว ยัยแป้ง แล้วแกคิดว่ามันจะมีวิธีไหนที่จะหาเงินตั้งมากมายขนาดนั้นได้ล่ะ อย่างน้อยก็ไม่ต้องนอนกับเสี่ยแก่ๆ ” นภัทรเอ่ยพูดออกไปอย่างไม่คิดอะไร เพราะเขาก็ไม่ได้คิดจะสนับสนุนเพื่อนสาวให้ทำแบบนี้
“พวกแกไม่ต้องทะเลาะกันหรอก วันนี้เรามีอบรมก่อนไปฝึกงานไม่ใช่เหรอ รีบไปเถอะเดี๋ยวก็สายหรอก” พิชชาภาเอ่ยตัดบทไป เพราะไม่อยากให้เพื่อนทั้งสองต้องมาถียงกันเพราะเธอ แต่สิ่งที่นภัทรพูดมันก็ทำให้เธอสนใจมาก แต่มันติดที่ว่าเธอจะไปหาไฮโซที่ไหนที่จะมาสนใจเด็กธรรมดาๆแบบเธอกัน
“เออใช่ วันนี้ฉันจะได้เจอเทพบุตรของฉันแล้วในที่สุดฉันก็จะเจอตัวจริงๆของคุณฟรานติโน่เขาสักที” นภัทรพูดออกไปก็ทำหน้าเพ้อฝันอย่างหื่
“นี่อีต้น แอ๊บแมนอยู่ไม่ใช่เหรอคะ ออกสาวแบบนี้ฉันไม่เป็นแฟนแกแล้วนะ” พิชชาภาเอ่ยพูดออกไป เพราะตั้งแต่เรียนปีหนึ่งมาเธอก็แกล้งเป็นแฟนของนภัทรมาตลอด จนใครๆไม่สงสัยในตัวนภัทรแม้กระทั่งพ่อของนภัทรที่เป็นอาจารย์สอนที่มหาวิทยาลัยนี้ด้วย
“มันลืมตัวอ่ะแก ถ้าพวกแกเห็นคุณฟรานติโน่ของฉันนะ รับรองจิ๋มพวกแกสั่นสู้แน่ย่ะ หล่อ รวย เฟอร์เฟค พ่อของลูกชัดๆ” นภัทรพูดไปก็ทำหน้าเคลิ้มจนปัทมาและพิชชาภาส่าหน้าระอากับความแรดของเพื่อนหนุ่มที่ดูจะดี้ด้าออกนอกหน้า
“อาการหนักนะแกเนี่ย ไปลุกได้แล้ว จะไปดูพ่อของลูกไม่ใช่เหรอจ๊ะ อีกครึ่งชั่วโมงเขาจะอบรมแล้ว รีบไปสิคะ” ปัทมาพูดบอกไปพร้อมกับลุกขึ้นยืน
“เดี๋ยวพวกแกไปก่อนเลยนะ ฉันขอไปเข้าห้องน้ำก่อน จองที่ให้ฉันด้วยนะ” พิชชาภาเอ่ยพูดออกไปก็ลุกขึ้นตามเพื่อนทั้งสองคน
“อุ๊ป สั้นเสมอหูได้อีกนะย่ะหล่อน” นภัทรเอ่ยแขวะพิชชาภาเบาๆ เพราะเขามาทีหลังจึงไม่เห็นว่าพิชชาภานั้นใส่ทรงเอสั้นมาในวันนี้
“ก็อยากเชคเรตติ้งบ้างอ่ะ ผู้ชายคนอื่นเขาจะได้อิจฉาแกไงที่มีแฟนสวย แล้วก็แซ่บน่าฟัดขนาดนี้” พิชชาภาพูดไปก็เอามือเท้าเอวแล้วทำท่าท่างเซ็กซี่เหมือนโพสต์ท่าถ่ายแบบ
“เรื่องแซ่บฉันว่าไม่ แต่เรื่องแรดนี่ฉันว่าจริง ฮ่าๆ” ปัทมาเอ่ยพูดไปก็หัวเราะใส่พิชชาภาร่วมกับนภัทรอย่างขำๆ เพราะปกติพิชชาภานั้นก็เป็นสาวฮอตที่มีดีกรีเป็นถึงดาวคณะ จึงมีหนุ่มๆมาคอยตามจีบจนต้องแกล้งเป็นแฟนนภัทรเพราะไม่อยากจะมีแฟน แต่ก็ไม่วายมีหนุ่มๆมาแอบจีบเธอจนได้ แต่เพื่อนสาวของเธอก็เล่นๆไปไม่จริงจังกับใคร ขนาดพี่ชายเธอที่เป็นสารวัตรมาจีบเพื่อนของเธอยังไม่สนเลย ไม่รู้ว่าเพื่อนของเธอจะเลือกเยอะไปไหน
“ยัยแป้งไอ้ต้น เดี๋ยวเหอะ แกสองคนรีบไปเลยไป ฉันจะไปเข้าห้องน้ำแล้ว” พิชชาภาเอ่ยบอกไปก็โบกมือใส่ปัทมาและนภัร ก่อนจะเดินออกไปเข้าห้องน้ำที่อยู่หลังตึก
