บทที่ 9 พ่อเพื่อนบำเรอรัก 9

เธอรู้ว่ากำลังถูกแกล้ง แต่ยิ่งแกล้งเธอก็ยิ่งพูดไม่ออก หน้าตาเธอเห่อร้อนเหมือนโดนไฟลน เนื้อตัวเต้นเร่าอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

“ก็ได้ๆ ฉันคงเร็วไป เธอเลยตกใจ” ว่าแล้วก็ขึ้นนั่งประจำที่คนขับรถจนฝากระโปรงห้องเครื่องปิดลงและเดินทางต่อ

“รถไม่ได้เสียนี่คะ” มายาวดีอุทาน

“เอ้อ...จริงด้วย”

เธอขมวดคิ้วเหลียวมองเขาอย่างขุ่นใจ

“คุณพ่อแกล้งหยาหรือคะ”

“เปล่านะ เมื่อกี้รถดับไปจริงๆ ไม่รู้ทำไมสตาร์ทติด” คนตีหน้าซื่ออมยิ้มให้กับต้นไม้ข้างทาง

“คุณพ่อไม่ได้สตาร์ทรอบสอง”

“นั่นสินะ ลืมไปว่าถ้าไม่สตาร์ทรถก็ไม่วิ่ง”

มายาวดีแน่ใจแล้วว่าถูกแกล้ง ตั้งแต่ทำเครื่องดับ และให้หาเครื่องมือในรถ เธอโง่จึงเสียรู้คนฉลาดเข้าให้

เดโชเห็นแก้มป่องๆ ของคนงอนก็เม้มปาก เขาแค่จะดูว่าหญิงสาวมีใจตรงกันบ้างหรือเปล่า อาจเพราะแน่ใจในเสน่ห์ที่มีมากมายมาตลอดจึงคิดว่าเธอจะต้องโอนอ่อนยอมให้อย่างที่ควรจะเป็น ทว่าหญิงสาวกลับหวาดกลัวจนตัวสั่นงันงก และตอนนี้ก็งอนใส่เสียอีก

จะจีบเด็ก ควรเริ่มจากตรงไหนดี

“ขอโทษ”

มายาวดีไม่ยอมมองหน้าเขาอีกเลย

“โกรธกันขนาดนั้นเลยเหรอยะหยา”

“เปล่าค่ะ หยาไม่ได้โกรธคุณพ่อ”

“แล้วแก้มป่องทำไม”

“แก้มของหยาก็เป็นแบบนี้แหละค่ะ ไม่ได้แปลกอะไร”

“งั้นเหรอ”

พอรู้ว่าหญิงสาวจะไม่ยอมใจอ่อน เดโชก็เลยยื่นหน้ามาหอมแก้มป่องฟอดใหญ่

“คุณพ่อ!!!” หญิงสาวยกมือกุมแก้มนุ่มทำตาโตอ้าปากหวอ “คุณพ่อทำแบบนี้ทำไมคะ”

“อย่าคิดมากสิ เธอก็รุ่นเดียวกับกึ้งนะ”

อ๋อ...จะบอกว่าเหมือนหอมแก้มลูกสาวงั้นสิ

มายาวดียิ่งเคืองขุ่นใจ ส่งสายตาต่อว่ากลับไปอย่างลืมตัว

“ยิ่งงอนไปอีกกู”

หลังจากนั้นเดโชก็เลือกที่จะเงียบตามหญิงสาวจนกระทั่งรถจอดสนิท มายาวดีลงจากรถทันทีก้าวเร็วๆ เข้าบ้านพัก

พรุ่งนี้เธอจะขอย้ายบ้าน!!!

“ยะหยา” เดโชดันประตูบ้านไม่ให้ปิดและรีบแทรกตัวเข้าไป มายาวดีรีบเดินหนีกำลังจะหมุนลูกบิดเปิดห้องนอนตัวเอง แต่มีมือใหญ่มากุมไว้ก่อน

“คุณพ่อทำแบบนี้ทำไมคะ พรุ่งนี้หยาจะย้ายบ้าน หยาจะไปอยู่บ้านหลังอื่น”

“จะไปอยู่ไหน” เสียงของเดโชฟังราวจะร้อนใจ

“อยู่ไหนก็ได้ที่ไม่ใช่บ้านนี้”

“ถึงขั้นเกลียดกันเลยหรือไงยะหยา” นายหัวหนุ่มลากเสียงอ่อน

“คุณพ่อแกล้งหยาเกินไป แกล้งแบบ...แบบที่ไม่ควรแกล้ง มันไม่ดี” เธอเปิดอกพูดแล้วนะ “ปล่อยมือหยาค่ะ คุณพ่อคิดว่าหยาง่ายเหมือนผู้หญิงคนอื่นของคุณพ่อหรือคะ”

“เอ่อ...” ทำเอาเดโชพูดไม่ออก “ไม่ใช่อย่างนั้น” ไม่คิดว่าการจีบสาวมันยากขนาดนี้

“ถ้าหยาอยู่ที่นี่ หยาจะปลอดภัยไหมคะ” ในแง่ของเธอคิดว่าเขาตั้งใจจะหลอกฟันแล้วทิ้ง ไม่ได้คิดจริงจังกับเธอแน่ ใครกันจะจีบสาวที่เจอหน้ากันครั้งแรกเพราะหวังจะแต่งงานด้วย เฮอะ ไม่มีหรอก

“ปลอดภัยสิ ฉันจะดูแลเธออย่างดีเยี่ยม ใครที่มันเกาะแกะเธอได้กินลูกปืนฉันแทนข้าวแน่”

“หยาไม่ได้หมายถึงคนอื่นค่ะ” เธอทำเสียงเข้ม

“เอางี้แล้วกันยะหยา ฉันจะไม่รังแกเธอถ้าเธอไม่ยอม”

ถ้ายอมแล้วจะเรียกรังแกเหรอ!

“แต่ถ้าเธอยังยืนยันจะไปอยู่ที่อื่น ฉันจะลดเงินเดือนเธอเหลือครึ่งเดียว”

“งั้นหยาจะกลับกรุงเทพฯ”

มายาวดีหันมาประจันหน้ากับเดโชตรงๆ เมื่อเขายอมปล่อยมือเธอแล้วเปลี่ยนไปเท้าสะเอว

“เธอยังต้องรับผิดชอบเรื่องกึ้งจะยังไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น และถ้าเธอยังดื้อจะไป ฉันจะพรากพ่อพรากลูกจากกันแน่”

“ใจร้าย!!!” มายาวดีตะโกนใส่หน้าแล้วผลุบเข้าห้อง

นายหัวหนุ่มวัย 40 อ้าปากค้างมองประตูห้องนอนเธอ ราวจะให้ทะลุเข้าไปเห็นคนข้างใน แล้วเกาหัวแกรกๆ บอกตัวเองว่าจีบเด็กนี่ยากฉิบหาย!!

เช้าวันรุ่งขึ้น มายาวดีออกมาจากห้องนอนก็ได้กลิ่นกาแฟหอมกรุ่น เห็นเจ้าของบ้านนั่งจิบกาแฟในชุดแต่งกายที่ผิดแผกไปจากเมื่อคืนลิบลับ วันนี้นายหัวเดโชใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวกางเกงยีนสีเข้ม และหันมามองทันทีที่เธอออกมา

“อรุณสวัสดิ์”

“อรุณสวัสดิ์ค่ะ กึ้งล่ะคะ” ถามหาเพื่อนรักทันที

“ยัยกึ้งบอกจะไปเดินเล่นกับผัวตั้งแต่เช้า ป่านนี้ก็ยังไม่กลับ ไม่รู้เลยไปไหนกันต่อ”

เออหนอ เขาเรียกวงศกรว่า ‘ผัว’ ของประกายแก้วได้ชัดถ้อยชัดคำเช่นนี้คือยอมรับลูกเขยแล้วสินะ

ถ้าไม่ติดตรงเงินเดือนยั่วใจขนาดนี้ เธอคงได้ข้ามฝั่งกลับกรุงเทพฯ ไปหางานทำเสียวันนี้แน่ๆ ยิ่งเห็นเขาทำไม่รู้ไม่ชี้ก็ยิ่งคิดมาก ถ้ายอมตกเป็นเบี้ยล่างคงไม่พ้นถูกฟันแล้วทิ้งชัวร์

“ดื่มกาแฟด้วยกันมั้ย” คนชวนยกถ้วยกาแฟขึ้นสูง

“หยาไม่ดื่มกาแฟค่ะ”

“แต่เมื่อกี้เห็นทำจมูกฟืดฟาดเหมือนจะดมกลิ่นกาแฟ ไม่ชอบกาแฟหรือไม่ชอบฉันกันแน่ยะหยา”

ทั้งสองอย่าง!!!

กาแฟชอบกลิ่นแต่ดื่มแล้วเสียดท้อง

ส่วนเขาที่ไม่ชอบเพราะกลัวใจตัวเองจะถลำมากไปกว่านี้ เพราะฉะนั้นควรอยู่ให้ห่างเอาไว้ดีกว่า

“ถ้าเธอยังไม่ลืมเรื่องเมื่อคืนนี้ งั้นวันนี้ฉันจะไม่อยู่ให้เธอเห็นหน้าก็แล้วกัน”

“คุณพ่อจะไปไหนคะ” ถามโดยไม่ทันคิด

“จะขึ้นฝั่งไปทำธุระนิดหน่อย มีแววว่ายัยกึ้งอาจจะพาผัวไปไกล อาจจะกลับเย็นๆ เลย ถ้าเธอเบื่อไม่อยากไปเล่นน้ำทะเลเพราะกลัวตัวดำในห้องฉันมีแผ่นหนังอยู่พอสมควร แต่เธอต้องเปิดดูในห้องฉัน เพราะเครื่องเล่นอยู่ในนั้น”

พูดราวกับรู้ว่าเธอชอบดูหนัง เธอดูได้ทุกแนวโดยเฉพาะหนังซุปเปอร์ฮีโร่ทั้งหลายแหล่ เสียดายที่ห้องนั่งเล่นไม่มีทีวี และห้องเธอก็ไม่มีเครื่องเล่นดีวีดี

“ตามสบายนะ คิดซะว่าที่นี่คือบ้านของเธอ จะเข้าออกห้องไหนก็ได้ แต่อย่าแอบขโมยของล่ะเพราะฉันเป็นคนขี้หวง”

“หยาไม่ใช่ขี้ขโมยแน่ค่ะ รับรองได้” เธอเถียงทันควัน จะดูถูกกันไปหน่อยแล้ว เห็นเธอเป็นหัวขโมยไปได้ยังไง

“ถ้าเธอหยิบติดไม้ติดมือไป ฉันคงไม่จับส่งตำรวจหรอก”

“หยาไม่กลัวหรอกค่ะตำรวจ เพราะแน่ใจว่าไม่ได้ทำผิด” ยืดอกชูคอตอบเสียงแข็ง

“เพราะงี้ไง ฉันถึงต้องตัดสินโทษให้เธอเองด้วยวิธีของฉัน”

บทก่อนหน้า
บทถัดไป