บทที่ 5 Chapter 5

“ไปพร้อมกันปราง...อา...โอ้ว” ก้องเกียรติครางยาว กระชั้นเข้าออกถี่ยิบ ก่อนกดตัวตนชายเข้าไปสุดเส้นทางสวาท ระเบิดความสุขเป็นสายน้ำธรรมชาติเข้าสู่ดอกไม้งามทุกหยาดหยด ซบหน้าเหนื่อยหอบบนอกนุ่มที่หอบหายใจแรงไม่ต่างจากเขา

“พอใจหรือยัง ถ้าพอใจแล้วก็ลุกไปจากตัวฉัน”

“แหม พอเสร็จสมอารมณ์หมายก็ไล่ฉันเลยนะ เมื่อกี้ยังครางจนหูฉันแทบดับ ไม่เห็นมีทีท่ารังเกียจฉันเลย เรียกคุณก้องคะ คุณก้องขาตั้งหลายครั้ง” เขาเอาเรื่องจริงมาพูด มะปรางตีแขนเขาจนเกิดรอย ทว่าก้องเกียรติกลับยิ้ม จูบปากหล่อนหนักๆ “ทำให้ฉันเจ็บ เธอต้องถูกลงโทษ”

ร่างมะปรางปลิวไปตามแรงดึงของก้องเกียรติ เขาช้อนอุ้มร่างสวยทั้งที่ร่างยังไม่คลายออกจากกัน

“ไอ้เฒ่าลามก ไม่รู้จักพอ” มะปรางต่อว่าขณะเขาอุ้มร่างตนไปห้องน้ำ

“เดี๋ยวจะลามกทั้งคืนเลยคอยดู” เขาขู่กลับ “เธอมีหน้าที่เป็นนางบำเรอของฉัน ถ้าฉันอยากเธอต้องสนองจนกว่าฉันจะพอใจ ห้ามต่อปากต่อคำ ไม่งั้นครอบครัวเธอหนาวแน่”

มะปรางเงียบเสียง เก็บความรู้สึกไว้ภายใน ตอนนี้ก้องเกียรติถือไพ่เหนือกว่าตนทุกทาง หล่อนไม่มีอะไรไปต่อรองกับเขาได้ ทำได้เพียงแค่ยอม จนกว่าก้องเกียรติจะเบื่อและปล่อยให้ตนเป็นอิสระ น้ำตามะปรางไม่ได้ไหลออกมา แต่มันไหลเข้าไปในหัวใจและจิตใจของหล่อน เป็นความกล้ำกลืนที่ต้องแบกรับ โดยไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดวันใด

มะปรางนั่งหงุดหงิดอยู่ตรงโต๊ะหินหน้าคณะ สาเหตุเป็นเพราะเจ้าโน้ตบุ๊กคู่ใจดันเกเร ติดๆ ดับๆ อยู่หลายครั้ง อีกทั้งยังทำอะไรไม่ได้ดังใจ โหลดภาพ โหลดข้อมูลช้าสุดๆ แต่ก็เข้าใจว่ารุ่นที่ตนใช้เป็นรุ่นเก่า แถมตอนที่ซื้อมาเป็นราคามือสอง คงใช้ดีเหมือนรุ่นใหม่ๆ ไม่ได้ ทว่าความที่ไม่มีเงินซื้อใหม่ หล่อนก็ต้องนั่งทนข่มอารมณ์หงุดหงิด เพื่อให้งานที่ทำเสร็จ

“ทำไมโหลดนานจังเนี่ย รอจนเหงือกแห้งแล้วนะ” เจ้าของเครื่องบ่นอุบ นั่งเท้าคางมองดูจอโน้ตบุ๊ก “เสร็จงานเมื่อไหร่แม่จะทุ่มทิ้งคอยดู”

“เออฉันจะคอยดูว่าแกจะทุ่มมันจริงไหม เห็นพูดแบบนี้เป็นสิบครั้งแล้ว” นภาพรที่ได้ยินประโยคเพื่อนรักพอดีจึงพูดเหน็บเล็กๆ “บอกให้เอาเครื่องฉันไปใช้ก่อนก็ไม่เอา ถ้าเอาป่านนี้งานคงเสร็จไปนานแล้ว”

“แกก็ต้องใช้มันนี่ ฉันจะเอามาได้ไง” มะปรางโต้เพื่อน

“พูดถึงไอ้โน้ตบุ๊กจอมอืดของแก ถ้าตอนนั้นแกเอาเงินของฉันเพิ่มไปสามพันห้าก็ได้อีกเครื่องที่ดีกว่าเครื่องนี้ แกก็คงไม่มานั่งหงุดหงิดอย่างนี้หรอก”

“ฉันไม่อยากกวนแก อีกอย่างไม่ใช่ว่าแกจะมีเหลือเฟือ ฉันคิดว่าใช้ได้ก็ใช้ไปก่อน แต่ไม่คิดว่ามันจะเป็นแบบนี้” มะปรางมีเงินน้อย จะซื้อของดีคงไม่ได้ มีงบเท่าไหนก็ซื้อเท่านั้น “ว่าแต่บ่ายนี้แกว่างหรือเปล่า เราจะได้ทำงานให้เสร็จ”

“ไม่ว่าง” นภาพรตอบสั้นๆ “ฉันมีนัดกับพี่ก้อง เดี๋ยวเขามารับตอนเที่ยง”

มะปรางชะงักนิ้วที่กำลังพิมพ์ลงบนแป้นโน้ตบุ๊ก หัวใจของหล่อนรู้สึกแปลกๆ เหมือนมีใครนำเข็มมาทิ่ม

“เธอแน่ในเหรอฟ้า” มะปรางถาม นภาพรทำหน้างง

“แน่ใจอะไร”

“แน่ใจที่คบกับคุณก้องไง เธอไม่รู้จักเขาดีพอหรอก เขาเป็นคนไม่ดีนะ”

มะปรางพูดเชิงเตือน เพราะโดนกับตัว หากนภาพรรู้ว่า ก้องเกียรติทำอะไรกับตน นภาพรอาจเปลี่ยนความคิด

“ไม่มีใครเป็นคนดีเต็มร้อยหรอกมะปราง คนเราทุกคนมีทั้งดีและไม่ดีปะปนกัน พี่ก้องก็เป็นหนึ่งในหลายล้านคนที่มีความไม่ดีอยู่ในตัว ตอนนี้ฉันยังมองไม่เห็นความไม่ดีของพี่ก้องนะ เท่าที่ฉันสัมผัสด้วยตัวเอง ฉันว่าพี่ก้องเป็นคนดีนะ เป็นคนไม่ดีที่กลับตัวไง” นภาพรไม่ได้เข้าข้างก้องเกียรติ หล่อนรู้ว่า ก้องเกียรติเป็นคนเคยนิสัยไม่ดีมาก่อน ทว่าตอนนี้ก้องเกียรติมีความรับผิดชอบมากขึ้น เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ซึ่งหล่อนคิดว่า เขาสมควรได้รับโอกาส “ครอบครัวเธอทำงานกับพี่ก้องมานาน ย่อมรู้ความเปลี่ยนแปลงของพี่ก้องดีกว่าใคร เมื่อหลายปีก่อนเป็นไง ตอนนี้เป็นไง มันก็มากพอแล้วนะที่จะทำให้เชื่อว่า พี่ก้องนิสัยดีขึ้น”

มะปรางหันมองหน้าคนพูด ที่ทำให้รู้สึกได้ว่า นภาพรรู้จักก้องเกียรติดี ทว่าคำพูดของเพื่อนก็มีส่วนถูก เมื่อก่อนก้องเกียรติเกเร ระรานเขาทั่ว ไม่ทำงานไม่ทำการ เอาแต่ลอยชายและผลาญเงินบิดามารดา ทว่าตอนนี้ก้องเกียรติเปลี่ยนไปมาก หน้ามือเป็นหลังเท้าก็ว่าได้ แต่เรื่องที่ไม่ดีในความหมายของมะปรางคือ เรื่องที่เขาข่มเหงตน

“แกเพิ่งรู้จักคุณก้องไม่ถึงเดือน รู้สึกจะรู้ลึกรู้จริงจังนะ”

“ที่ฉันรู้เพราะพี่ก้องเล่าให้ฉันฟังเอง ฉันถึงรู้ไง” นภาพรตอบ

“คุณก้องเล่าให้เธอฟังงั้นเหรอ” คนถามทำหน้าแปลกใจ

“ก็ใช่น่ะสิ พี่ก้องเล่าหมดแหละว่า เมื่อก่อนเขาเลว เขาชั่ว เขาเกเรมากแค่ไหน ผลาญเงินพ่อแม่อย่างไม่เห็นค่า ไม่คิดช่วยงานด้วย แต่ความคิดพี่ก้องเปลี่ยนเมื่อพี่รวีเข้ามาในชีวิต มาเป็นน้องสาวบุญธรรม ความคิด ความอ่านและการดำเนินชีวิตของพี่ก้องก็เปลี่ยนไป เปลี่ยนชนิดที่ว่า พ่อกับแม่ยังอึ้ง”

มะปรางฟังคำตอบแล้วคิดว่า ก้องเกียรติไม่ปิดบังอดีตของตนเลย เขาเปิดเผยให้นภาพรรู้ราวกับว่า อยากใช้ชีวิตร่วมกับนภาพร ถึงได้บอกให้อีกฝ่ายรับรู้

“สงสัยคุณก้องอยากให้เธอเป็นเมียมั้ง เลยเล่าทุกอย่างให้ฟัง” พูดไปก็เจ็บหัวใจไป

“ไม่ใช่หรอก” นภาพรตอบกลับทันที ส่งยิ้มให้เพื่อนรัก “สักวันแกจะรู้คำตอบเองว่า ทำไมพี่ก้องถึงเล่าให้ฉันฟัง ตอนนี้แกก็นั่งทำงานไปก่อนนะ ฉันต้องออกไปรอพี่ก้องตรงทางเข้าหน้าตึก”

พูดจบนภาพรก็ลุกขึ้นยืน ก้าวเดินออกจากคณะเพื่อไปยืนรอก้องเกียรติตรงจุดที่นัดหมายไว้ ทิ้งให้มะปรางจมอยู่กับคำพูดของนภาพรที่ฟังแล้วมีลับลมคมในเหลือเกิน

บทก่อนหน้า
บทถัดไป