บทที่ 3 3
“จะ จริงๆ สิคะ” เธอตอบเสียงอึกอัก ดิ้นกระแด่วๆ หวังให้พ้นจากพันธนาการแน่นหนา แต่มีหรือที่เขาจะปล่อยง่ายๆ มุมปากได้รูปกระตุกยิ้มมีเลศนัย ขณะเอื้อมมือข้างหนึ่งไปหยิบโทรศัพท์ซึ่งวางระเกะระกะบนโต๊ะมากดโทรออกหาบิดา ไม่นานนักทางปลายสายก็กดรับ พร้อมเสียงแก่ๆ ที่ลอดดังมา
/ว่าไงตาชาย นึกไงถึงโทรหาพ่อได้ละ หืม ?/
“พ่อครับ ผู้หญิงคนที่ยัดฟองน้ำใส่นมจนบวมเป่งนี่อะไรกันครับ”
นราพิมพ์ตาเหลือกกับคำว่า‘ยัดฟองน้ำจนบวมเป่ง’ หน็อย ! อีตาบ้า กล้าดียังไงมาว่าสุดสวยอย่างเธอแบบนี้
/ของขวัญจากพ่อไง เห็นแกคร่ำเคร่งกับงาน ไม่เคยสนใจผู้หญิงคนไหน บอกตรงๆ ว่าพ่ออยากอุ้มหลาน”
ชายหนุ่มปรายตามองคนในวงแขน แล้วตอบกลับไปว่า “อยากได้หลานที่เกิดจากผู้หญิงขายตัวหรือครับ”
/ไฮ้ ! ไม่ได้หมายความว่าจะให้แกกับพิมพ์มีลูกด้วยกัน พ่อแค่ส่งพิมพ์ไปเพื่อกระตุ้นให้แกมีอารมณ์กับผู้หญิง/
“นี่พ่อว่าผมเป็นเกย์เหรอครับ” เสียงทุ้มเริ่มดังขึ้นตามระดับความไม่พอใจ
/ก็พ่อเห็นแกไม่ยุ่งกับผู้หญิงที่ไหนเลย/
“ผมแค่เบื่อความวุ่นวายครับ”
/เอาน่า พิมพ์ก็สวยดีออก แกก็อย่ารังเกียจเขานักเลย/
“ผมไม่เอาผู้หญิงแบบนี้นะ”
/พ่อบอกพิมพ์แล้วว่าถ้าทำให้แกยอมมีอะไรด้วยได้ พ่อจะให้สองแสน/
“สองแสน !” ชายหนุ่มตะเบ็งเสียงลั่น “พ่อคิดอะไรอยู่ครับ”
/พ่อก็คิดแบบนี้ละ แค่นี้ก่อนนะ พ่อต้องทำงานต่อ แกเลิกบ้าเมื่อไหร่ก็กลับบ้านเรานะ พ่อเลี้ยงเพื่อให้แกเป็นทายาทบริษัท ไม่ได้เลี้ยงเพื่อให้แกเป็นศิลปินไส้แห้ง/
“พ่อจะไม่มีวันเสียสองแสนให้ผู้หญิงคนนี้แน่ๆ”
/พ่อจะรอดู/ ทรงภูมิหัวเราะในลำคอ ก่อนจะกดตัดสายไป
ชาวัตน์โยนเครื่องมือสื่อสารไว้ที่เดิม ก่อนจ้องเขม็งที่หน้าเรียวจนหญิงสาวชักจะอึดอัดใจ
“ทำไมมองฉันแบบนั้นละคะ”
“ผู้หญิงร้ายกาจ”
“ทำไมอยู่ดีๆ ต้องมาว่าฉันด้วย มันเป็นหน้าที่ของฉันนะคะ”
“อาชีพอื่นก็มี ทำไมต้องขายตัวด้วย หรือว่าไม่มีอาชีพอะไรที่สบายและได้เงินดีเท่าเอาร่างกายตัวเองมาเร่ขายอีกแล้ว”
คำถามเชิงหยันจากเขา ทำให้เธอถึงกับสะอึก หยดน้ำปริ่มที่หน่วยตา แต่เพียงแว่บเดียวก็หายไปจนสิ้น
“มันเรื่องของฉัน ฉันจะทำอะไรก็เรื่องของฉัน”
“คิดหรือว่าเงินสองแสนจะเป็นของเธอ”
“ยังไงฉันก็ต้องได้”
ชาวัตน์มองหญิงสาวอย่างสมเพช มุมปากบิดโค้งเป็นเชิงหยัน จับคางเล็กไว้มั่นแล้วกระแทกริมฝีปากบดขยี้ปากอิ่มที่กำลังเผยอค้างด้วยความตกใจ
“อุ๊บ !” ดวงตาคู่งามเบิกโพลง มือเตรียมผลักไส แต่พอสิ่งแปลกปลอมชอนไชเข้ามาในโพรงปาก อารมณ์หวามก็พาเตลิด หัวใจเต้นระรัว เลือดสาวสูบฉีดไปทั่วร่าง มือที่ดันอยู่กับแผงอกกว้างเริ่มเปลี่ยนเป็นขยุ้มเสื้อเขาไว้ ดวงตาหรี่ปรือ ร่างกายอ่อนปวกเปียก…
ช่างเป็นจูบที่เผ็ดร้อนอย่างที่ไม่เคยพานพบจากที่ไหนมาก่อน จูบที่ราวจะกระชากวิญญาณเธอให้ปลิดปลิวจากร่าง
ไม่เพียงแค่จูบเท่านั้น มือใหญ่ยังไล้ลูบไปตามแนวชายโครงจนถึงต้นขาขาวเนียน จับบีบขยำ…น่าแปลกที่แค่โดนเขาจับกกขา เธอก็เสียววูบวาบที่กลางตัว
“อือ…” หญิงสาวครางกระเส่าเมื่อเขาเล้าโลมด้วยปลายลิ้นที่ไล้มาตามลำคอระหง หยุดที่แอ่งชีพจรแล้วขบย้ำจนเกิดรอย
หน้าท้องแบนราบโดนลูบคลำ ขอบกางเกงร่นต่ำเพราะโดนมือซุกซนดึงรั้งลงไปเผยให้เห็นกางเกงชั้นในตัวจิ๋ว
“อืม อ๊ะ…” นราพิมพ์สะดุ้งเมื่อเขาล้วงมือเข้าไปในกางเกงซับในแล้วแตะนิ้วกลางที่กึ่งกลางรอยแยก “ว้าย…อา”
หน้านวลแดงก่ำ เนื้อตัวไร้เรี่ยวแรง ดวงตาหลับพริ้ม ขณะที่เขาซุกจมูกโด่งที่ซอกคอระหง จูบวนไปเวียนมาแล้วมาจบลงที่เรียวปากอิ่มอีกครั้ง
คราวนี้จูบอ่อนหวาน ส่วนนิ้วยังคงกรีดไปตามรอยแยก ส่งผลให้เอวเล็กบิดไปมา บางครั้งก้นกระดกขึ้นสูง มือจับต้นแขนแกร่งยึดไว้
ทว่าในช่วงหฤหรรษ์ที่ความรู้สึกของเธอถูกปลุกให้ทะยานขึ้นสู่ห้วงเสน่หา จู่ๆ เขาก็ผลักเธอออกห่างจนร่างบางกลิ้งมานั่งกองบนพื้น
เขาลุกยืนเต็มความสูง หลุบตามองเธออย่างหยันๆ มองเรียวปากที่แดงช้ำ ผมที่ยุ่งเหยิง กางเกงที่โดนรูดต่ำจนหมดสภาพ แล้วกล่าวปนเยาะ
“เสียใจด้วยนะพิมพ์ ฉันทำให้เธอมีอารมณ์ได้ แต่เธอทำให้ฉันมีอารมณ์ไม่ได้หรอก น่าสมเพชเหลือเกิน… โสเภณีอย่างเธอ อย่าว่าแต่จะให้ทำอะไรลึกซึ้งเลย แค่จูบปากด้วย ฉันก็รู้สึกเบื่อเสียแล้ว !”
เขาจากไปพร้อมเสียงหัวเราะ ถ้อยคำดูถูกยังคงดังสะท้อนก้องในหัวเธอ
หญิงสาวกำมือแน่น เม้มปากเข้าหากันเพื่อกลั้นเสียงสะอื้นยามที่น้ำตารินไหลอาบแก้ม… อยากดูถูกนักก็ดูถูกไปเถอะ ต่อให้ต้องสูญเสียศักดิ์ศรีหรือหมดสิ้นความสาว เธอก็ต้องยั่วยวนเขาให้สำเร็จ ไม่เช่นนั้นพ่อของเธอจะต้องแย่แน่ๆ
เพื่อพ่อ… ต่อให้ต้องเสียน้ำตาอีกกี่หยด ต้องโดนดูถูกอีกสักกี่ครั้งเธอก็ยอม !
