บทที่ 4 ตอนที่ 4

แต่ก็เหมือนกับว่าพูดคนเดียว เพราะว่าสันต์ยังคงนิ่ง ไม่ตอบ สีหน้าและแววตาของเขาในตอนนี้ไม่ต่างจากรูปปั้นไร้อารมณ์ความรู้สึก

ใบหน้าของสันต์ยังคงนิ่งราวกับประติมากรรมเทพบุตรกรีกสุดหล่อเหลา ไม่สะทกสะท้านต่อสายน้ำเย็นเยียบ พร่างพรมลงมาอาบทั่วร่าง แต่ระรินน์ไม่เชื่อว่าเขาจะไร้ความรู้สึก

ครู่สั้นๆ ต่อมา…

ระรินน์บีบสบู่เหลว ค่อยๆ ไล้ลูบฟองสีขาวไปทั่วเรือนร่างกำยำกล้ามของพ่อสามี

“เอ่อ… ร่างกายของพ่อสันต์ไม่มีความรู้สึกเลยหรือคะ… ”

ระรินน์ไม่เชื่อว่าเขาจะไร้ความรู้สึก…

เพราะเท่าที่อยู่ด้วยกันมาตลอดสองสัปดาห์กว่า หล่อนก็เห็นว่าอาการของสันต์นั้นไม่ได้แย่มากถึงกับไร้ความรู้สึก

“พ่อสันต์ไม่พูดกับหนู… แล้วหนูจะรู้ได้ยังไงคะว่าพ่อสันต์รู้สึกยังไงบ้าง… ”

หล่อนลองไล้ลูบฟองสบู่สีขาวมาที่อกของเขาที่เต็มไปด้วยเส้นขนสีดำสุดเซ็กซี่เป็นแพปกคลุมไปทั่ว

กระทั่งถึงตอนที่มือของหล่อนไล้ลูบมาที่หัวนม ตอนนี้เองระรินน์จึงจับความรู้สึกได้ว่าสันต์ไม่ใช่คนที่ไร้อารมณ์

เพราะว่าหล่อนรู้สึกได้ว่ารูขุมขนรอบๆ หัวนมของเขามีการขยายตัว เช่นเดียวกับปลายหัวนมที่กำลังตื่นตัวแข็งขึ้นมาจนมีขนาดเท่าเม็ดถั่วลิสง เสียดสีกับอุ้งมือน้อยๆ ของหล่อน

“รู้สึกอะไรบ้างไหมคะพ่อสันต์… ”

ระรินน์ถามขณะคลึงฝ่ามือไปมากับหัวนมของเขา แต่เมื่อเห็นว่าสันต์เงียบหล่อนก็นึกอยากแกล้ง

“หนูขออนุญาตนะคะ… พ่อสันต์อย่าว่าทะลึ่งเลนนะคะ หนูอยากทดสอบ แค่อยากจะรู้ว่าพ่อสันต์ยังมีความรู้สึกอยู่บ้างไหม… ”

บ้าจริง…

ระรินน์นึกตำหนิตัวเองอยู่ในใจ ที่เผลอใจทำกำลังจะทำสิ่งน่าอายเช่นนี้

หล่อนเอื้อมมือเข้ามาที่ง่ามขาของสันต์ ค่อยๆ ลูบไล้ลำเอ็นขนาดใกล้เคียงกับกล้วยหอมใหญ่ๆ ห้อยลงมากลางหว่างขา

‘ใหญ่มาก… ’

ระรินน์อุทานในใจ…

นี่ขนาดว่ายังไม่แข็งตัว แต่ก็ใหญ่และยาวมากจนน่าตกใจ ถ้าแข็งตัวเต็มที่ก็น่าจะใหญ่พอๆ กับท่อนแขนของหล่อนอย่างไม่ต้องสงสัย

ความเป็นชายของสันต์ใหญ่มากจนของแทนไทผู้เป็นลูกชายไม่อาจเทียบได้

ระรินน์ค่อยๆ เอามือรูดส่วนปลายของความเป็นชาย ถอกออกมาอวดหัวสีม่วงถอกบานเป็นมันวาวคล้ายดอกเห็ดใหญ่ๆ

หล่อนใจเต้นแรง…

ค่อยๆ บีบสบู่เหลวใส่มือแล้วถอกถู รูดไล้สาวชักไปมาจนลำเนื้อสีน้ำตาลสะอาดสะอ้านเริ่มตื่นตัว

ระรินน์เอามือรูดเป็นจังหวะเบาๆ สันต์ไม่ได้ขัดขืน เขาเริ่มแข็งตัวสู้มือ

ครั้นพอรูดไปได้สักครู่…

หล่อนก็ได้ยินเสียงหายใจแรงของเขา ทำเอามือที่กำลังรูดเอ็นอยู่นั้นสั่นไปด้วย

เมื่อน้องชายของสันต์เริ่มขยายตัวสู้มือขึ้นมาทีละน้อยจนแข็งเต็มที่ ใหญ่มาก ใหญ่จนมือของหล่อนกำไม่รอบ

“โอ๊ว… พ่อสันต์ยังมีความรู้สึกจริงๆ ด้วย… ”

ระรินน์เผลอร้องอุทานออกมาด้วยความลืมตัว แล้วจู่ๆ ความคิดมืดดำบางอย่างก็ผุดวาบเข้ามาในหัวของหล่อน

ระรินน์ค่อยๆ คุกเข่าลงตรงง่ามขาของพ่อสามี ไม่รู้อะไรสิงสู่ให้หล่อนก้มลงกดริมฝีปากเอิบอิ่มรูดรัดส่วนปลายของเขาเสียงดังบล๊วบ รับเอาความแข็งแกร่งเข้ามาในอุ้งปากร้อนผ่าว

สันต์สะดุ้ง…

ระริน์ไล้ลิ้นเลียรอบๆ รอยบากบานอย่างห้ามใจไม่ไหว ไม่นานมันก็พองขยายขึ้นมาแน่นอยู่ในอุ้งปาก

“อู้ววว… ”

ระรินน์อุทาน…

จากนั้นค่อยๆ คลายส่วนปลายออกมา ดวงตาของหล่อนเบิกโพลง ตะลึงมองหัวเอ็นสีม่วงคล้ำถอกบาน ใหญ่และแข็งมาก แทงตุงอยู่ในกระพุ้งแก้มของหล่อนสองข้างสลับไปมาเมื่อสันต์เริ่มขยับบั้นเอวเบาๆ

“อ่า… ”

สันต์หายใจแรง กล้ามเนื้อทั่วกายเกร็งเป็นริ้ว โยกเอวอัดลำเอ็นกระแทกใส่ปากของระรินน์เป็นจังหวะซ้ายทีขวาที

บล๊วบ… บล๊วบ… บล๊วบ… บล๊วบ… บล๊วบ…

“อ๊า… ซี้ดดดดด… ”

เสียงครางหลุดออกมาจากริมฝีปากของคนที่ไม่ค่อยพูดกับใคร แต่ตอนนี้ครางเก่งและครางได้อารมณ์มาก

ระรินน์รู้สึกสะใจที่ได้ทำลายความหนักแน่นของเขาลงได้ในที่สุด

จะด้วยทิฐิในใจหรือความเจ็บป่วยใดๆ ที่ทำให้สันต์ไม่พูดกับใครก็ไม่อาจทราบได้ แต่ตอนนี้ระรินน์รู้ว่าเขามีปฏิกิริยาสนองตอบกับสิ่งที่หล่อนกำลังทดสอบ

ความเสียวซ่านเป็นความรู้สึกแท้จริงที่สันต์ไม่ได้เสแสร้ง หล่อนสะใจที่ได้แกล้งเขา

“ว้าว… แข็งขึ้นมาแล้ว… อู้วววว… ”

ใหญ่สุดๆ…

ระรินน์พึมพำกับลำเนื้อสีน้ำตาลตรงหน้า ตะลึงมองความเป็นชายของพ่อสามี เมื่อแข็งตัวขึ้นมาเต็มที่มันใหญ่ยาวพอๆ กับท่อนแขนของหล่อน

เมื่อเห็นว่าเขาแข็งตัว ความคิดบางอย่างผุดวาบเข้ามาในหัวของระรินน์

หล่อนค่อยๆ ลุกขึ้นยืน จากนั้นก็ถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกทีละชิ้นจนเปลือยเปล่าล่อนจ้อน อวดเรือนร่างเย้ายวนต่อหน้าพ่อสามี

บทก่อนหน้า
บทถัดไป