บทที่ 48 Chapter 47 นางบำเรอ

เช้าของวันใหม่มุขลินตื่นขึ้นมา เธอพบเพียงความว่างเมื่อชายตัวโตที่เคยนอนเคียงข้าง ไม่รู้ว่าหมอหนุ่มหายไปไหน เมื่อตอนนี้เพิ่งจะรุ่งสางเอง เขาไม่น่าจะออกไปทำงานตั้งแต่เช้ามืดขนาดนี้

มุขลินพลิกกายตะแคงข้างหยิบหมอนที่หมอหนุ่มใช้หนุนนอนเข้ามากอด ก่อนจะเผยอมยิ้มออกมา เมื่อเธอไม่คิดมาก่อนว่าจะได้สัมผัสกับอกอุ่นกลิ่นกายของหมอหนุ่ม ที่หอมละมุนชวนให้หลงใหลแบบนี้มาก่อน

หญิงสาวลุกไปอาบน้ำทำธุระส่วนตัวเสร็จ ก่อนจะมานั่งไดร์ผมที่โต๊ะเครื่องแป้ง แล้วต้องสะดุดตากับโน้ตที่หมอหนุ่มเขียนแปะเอาไว้ที่กระจก มุขลินถึงกับฉีกยิ้มกว้างกับข้อความในโน้ต เมื่อหมอหนุ่มกำลังแสดงออกถึงความใส่ใจห่วงใยและเทคแคร์เธอ

“ผมมีเคสผ่าตัดด่วน! อาหารทำไว้ให้แล้ว อุ่นทานได้เลยมื้อเที่ยงจะมาทานข้าวด้วยนะครับ... จากหมอภาคิน”

มุขลินอ่านจบถึงกับฉีกยิ้มกว้าง หมอหนุ่มกำลังจะทำให้เธอตัวลอยกับสิ่งดีๆ ที่เขาทำให้เธอ ประหนึ่งเจ้าหญิงก็ไม่ปาน ราวกับเธอคือคนสำคัญที่แสนจะพิเศษสำหรับเขา ใจของมุขลินมันช่างสุขล้น จนแทบจะทะลักออกมา เมื่อความสุขที่ได้นั้นมาจากชายคนแรก และคนเดียวที่เธอยอมบำเรอปรนเปรอให้กับเขา

ทางด้านหมอภาคินเมื่อผ่าตัดเสร็จเขาได้แวะไปที่ชานเมือง เพื่อดูว่าสกายนั้นได้สำนึกในสิ่งที่เขาได้ทำกับมุขลินหรือยัง แต่ดูจากสภาพแล้วคงหลาบจำไปอีกนาน หมอหนุ่มนั่งลงที่เก้าอี้ก่อนจะออกคำสั่งไปยังลูกน้อง

“ปล่อยมันลงมา!”

“ครับนาย”

พอมาถึงหมอหนุ่มได้สั่งลูกน้องปล่อยสกายลงมาจากโซ่ตรวน เพราะดูจากสภาพเวลานี้แล้ว ชายตรงหน้าไม่ต่างอะไรกับซากศพ มันคงจะสาสมแล้วกับสิ่งที่สกายทำกับผู้หญิงของเขา ที่สำคัญเธอคือคนของใจที่หมอภาคินทะนุถนอม สกายจึงสมควรได้รับโทษทัณฑ์จากหมอหนุ่มในสิ่งที่เขาได้ทำกับมุขลิน

"ฉันหวังว่าแกคงจะไม่ย้อนกลับไปทำร้ายเธออีก หากแกต้องการออกไปจากที่นี่ ครบสามสิบสองบอกมานายใหญ่แกคือใคร” สกายแทบจะลืมตาไม่ขึ้นอยู่แล้ว เวลานี้แรงจะยืนยังไม่มี ข้อมือข้อเท้ารวมไปถึงแผ่นหลังมันเริ่มแดงและบวม เพราะการอักเสบ หากไม่มีลูกน้องของหมอภาคินจับปีกพยุงไว้คนล่ะข้าง ป่านนี้เขาคงทรุดลงไปกองอยู่กับพื้นเรียบร้อยแล้ว

“หึ..หึ!...” เสียงในหัวเราะในลำคอของสกายดังขึ้น แม้จะเจ็บปวดระบมไปทั้งตัวสกายก็ยังมีแรงฮึดอยู่

“ถ้าไม่บอกแกจะได้ออกไปจากที่นี่เพียงแค่ร่างที่ไร้วิญญาณ!” คำพูดเรียบเฉยแต่เย็นชาปนความแข็งกร้าวนั้น ทำให้คนฟังรู้สึกได้ว่าเขาไม่ได้พูดเล่นแน่

“นายเมฆา!” เสียงแหบพร่าของสกายที่เปล่งออกมานั้น หมอหนุ่มฟังไม่ผิดเพี้ยน ก่อนจะแสยะยิ้มที่มุมปาก แววตาคมดุจพญาเหยี่ยวจิกมองไปที่ร่างซีดเซียวของสกาย

“ฝากไปบอกนายแกด้วย ฉันหมอภาคินหากไม่อยากเป็นศัตรูกับฉัน อย่าบังอาจมายุ่งกับมุขลิน!” หมอหนุ่มลุกขึ้นยืนก่อนจะส่งสายตาไปยังลูกน้อง เพื่อบ่งบอกถึงสิ่งที่ต้องทำต่อจากนี้ แล้วเดินออกมาขึ้นรถ ขับออกไปจากไร่ทันที สาเหตุที่เขาไว้ชีวิตสกาย เพราะต้องการให้สกายไปบอกนายของมันจะได้ไม่กล้ามายุ่งกับมุขลินอีก

มุขลินทำอาหารหลายอย่างรอหมอภาคิน เพื่อตอบแทนเขาบ้าง เมื่อหมอภาคินนั้นเขาทำให้เธอมากเกินกว่าขีดจำกัดที่ควรจะทำให้นางบำเรอ นอกจากเขาจะดูแลเอาใจใส่เธอแล้วเขายังห่วงใยเธออีกด้วย

กริ่ง!! อยู่ๆ ก็เหมือนมีคนมากดออดให้ไปเปิดประตู มุขลินทำหน้าสงสัย เพราะหากเป็นหมอภาคินเขาก็น่าจะรู้รหัสหรือไม่ก็มีการ์ดติดตัวไปด้วย แล้วจะเป็นใครหรือว่าผู้หญิงคนนั้นมุขลินเริ่มร้อนรนใจ เพราะไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามก็ไม่ควรจะเข้ามาเห็นเธออยู่ในห้องนี้ ซึ่งเป็นห้องของหมอภาคินเขาอาจจะโกรธเธอก็ได้ หากเปิดประตูให้ใครคนนั้นเข้ามาแล้วรู้ถึงความสัมพันธ์ของเขาและเธอ แน่นอนมุขลินเองก็ไม่ต้องการให้ใครมารับรู้ เพราะทุกวันนี้ที่เป็นอยู่ฐานะของเธอนั้นแค่นางบำเรอ

กริ่ง!! เสียงกดออดดังมาเป็นพักๆ หากเป็นคนอื่นก็น่าจะหยุดกดได้แล้ว หรือว่าจะเป็นหมอภาคินมุขลินเริ่มสงสัย เธอเดินไปเดินมาจนเวียนหัวไปหมดแล้ว มุขลินไม่รู้จะทำยังไงดี

กริ่ง!! เมื่อเสียงนั้นดังไม่หยุด มุขลินจึงตัดสินใจเดินไปที่ประตู เธอยังคงยืนอยู่ที่นั่นไม่กล้าเปิดให้กับแขกผู้มาเยือน เพราะไม่รู้ว่าเป็นใคร ส่องดูแล้วก็ไม่พบใคร มุขลินไม่รู้ว่าจะเปิดดีไหม

กริ่ง!! เมื่อเสียงนั่นมันดังไม่หยุด มุขลินแน่ใจแล้วว่าต้องเป็นหมอภาคินแน่ๆ ถึงได้กดกระหน่ำซ้ำแบบนี้ เธอจึงเอื้อมมือไปเปิดประตูให้ แล้วก็ต้องตกใจกับคนตรงหน้า

"เธอ!”

"คุณโยกิ!”  โยกิชักสีหน้าไม่พอใจใส่มุขลิน ผู้หญิงอย่างมุขลินมีสิทธิ์อะไรถึงได้มาอยู่ในห้องของว่าที่คู่หมั้น และสามีในอนาคตของเธอแบบนี้ ซึ่งงานหมั้นและแต่งนั้นจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่อาทิตย์ข้างหน้านี้

“หน้าด้านไร้ยางอาย รู้ว่าเขามีว่าที่คู่หมั้นอยู่แล้วยังจะมานอนถ่างขาให้เขาอีก!”

โยกิพูดกระแทกใส่หน้ามุขลินอย่างแรง ครั้งแรกที่เธอมาหาหมอภาคินที่นี่ เพราะว่าญาติผู้ใหญ่ได้เข้าไปพูดคุยเรื่องวันหมั้น และงานแต่งเรียบร้อยแล้ว เธอจึงได้กล้ามาหาเขามันช่างเป็นฤกษ์ไม่ดีเอาเสียเลย ที่อยู่ๆ ก็ต้องมาเจอกับผู้หญิง ที่ไม่รู้ว่าอยู่ในฐานะนางบำเรอของหมอภาคินมานานเท่าไหร่แล้ว

“หมอไปไหน” โยกิถามมุขลินออกไปด้วยน้ำเสียงที่แข็งกร้าวราวกับเป็นศัตรูกันมาแต่ชาติปางก่อน

“หมอไปที่โรงพยาบาลไปทำงาน”

“แล้วเธอมาเป็นนางบำเรอให้หมอนานแค่ไหนแล้ว..แต่ก็ช่างเถอะ นับจากวันนี้เป็นต้นไป เธอเก็บข้าวของออกจากห้องหมอไปซะ เพราะฉันจะย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ถาวร! "

คำพูดและคำบอกเล่าของโยกิช่างทิ่มแทงหัวใจมุขลินยิ่งนัก หมอภาคินที่เธอแสนรักกำลังจะตกไปเป็นของคนอื่น ทุกอย่างกำลังจะกลายเป็นอดีต สิ่งที่เธอเคยได้สัมผัสชายร่างสูงใหญ่ที่เคยเคียงใกล้ ไออุ่นของร่างกายกำยำ แขนที่เคยหนุนนอนทุกอย่างที่เป็นหมอภาคินเจ้าของเขากำลังมาทวงคืน

บทก่อนหน้า
บทถัดไป