บทที่ 14 บทที่5.เกมสนุกๆ ของเศรษฐีขี้เบื่อ 1
บทที่5.เกมสนุกๆ ของเศรษฐีขี้เบื่อ
แค่ย่างเข้าต้นเดือนพฤษภาคมของปี ฝนก็พรำไม่หยุด เหมือนกับว่ามันอั้นมานาน...ปีก่อนระหว่างทางกลับบ้านเธอไม่เคยเจอฝนสักวัน เพราะเทวดาของฤดูฝนทำเหมือนจะอู้งาน...เขาลืมหน้าที่ตัวเอง จนเกิดภัยแล้งไปทั่วทั้งประเทศ พอนึกขึ้นได้ท่านก็เร่งทำหน้าที่ชดเชย มากมายเสียจนคนทำมาหากินพลอยลำบากไปด้วย เมื่อต้องคอยตั้งท่ารับกับสายฝนเย็นชื่นที่เทกระหน่ำลงมาแบบไม่ลืมหูลืมตา...
แล้วมันก็เป็นเหมือนทุกวัน เมวิกาเดินออกมาจากที่ทำงานพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองละอองฝนที่โปรยลงมาจากฟากฟ้า
“ตกอีกแหละ!!” เธอบ่น พร้อมกับล้วงมือเขาไปในย่ามสะพายไหล่ กระเป๋าโดเรม่อนของเธอเมื่อมีทุกสิ่งที่ต้องการ ใครๆ ก็ชอบว่าแบบนั้น
ร่มราคาถูกแม้จะคุ้มฝนได้ไม่มากพอ แต่ก็ทำให้เธอไม่ต้องกลายเป็นลูกหมาตกน้ำเหมือนทุกวัน...
พรึ่บ! เธอกดปุ่มที่ปลายคันร่ม จนสวิตช์ทำงานดีดผึ่งออกไป ร่มกาง แต่ก็ได้แค่นั้น พอลมกรรโชกมาแรงๆ ครั้งเดียว ‘กร็อบ!!’ ไม่ต้องเดาก็พอรู้ เสียงลั่นแบบนั้น ขาร่มคงหักก็มันแค่ร่มถูกๆ อันละไม่ถึงร้อย หญิงสาวโยนมันทิ้งถังขยะใกล้ตัวโดยไม่จำเป็นต้องตรวจสภาพ เธอเตรียมพร้อมเก็บของที่เปียกน้ำไม่ได้ใส่ในซองพลาสติก...เงยหน้ามองสายฝนครั้งสุดท้าย...เมื่อตัดสินใจจะวิ่งสู้ฝน จะเปียกเหมือนลูกหมาก็ช่าง เพราะเธอกำลังจะกลับบ้าน
“เดี๋ยวสิ! ฝนตกไม่เห็นเหรอ?”
มือแข็งๆ รั้งไว้ พร้อมกับเสียงห้าวๆ เอ่ยท้วงดังๆ
หญิงสาวผ่อนลมหายใจช้าๆ “เห็น...แต่หากยืนรอตรงนี้ ก็ไม่ได้กลับกันพอดี ฝนแบบนี้คงอีกนานกว่าจะหยุด ฉันอยากนอนพัก” กว่า12 ชั่วโมงในการทำงาน เธอยืนทนจนเมื่อยขา...อยากจะกลับไปพักก่อนที่จะล้มพับไป
“ทำเหมือนไม่รักตัวเอง...ตากฝนทุกวันเดี๋ยวก็ไม่สบายไปหรอก”
ความรู้สึกอุ่นวาบแทรกเข้ามาในใจ น้ำตาร้อนๆ ไหลเอ่อ...จนต้องรีบสะบัดทิ้ง เพราะหากเธออ่อนแอเช่นนี้อาจจะเผลอตัวเข้าสักวัน...และคนที่เสียใจคือตัวเอง
“ฉันหัวแข็งค่ะ ว่าแต่คุณเถอะมาทำอะไรแถวนี้” เธอย้อนถามพร้อมกับหยุดรอคำตอบ
“มารับ...เห็นฝนตกเลยเป็นห่วง” กระแทกเข้ามาอีกครั้งกับความรู้สึกร้อนวาบ เหมือนไม่ได้อยู่คนเดียวในโลก เธอยังมีเพื่อน แม้จะยังไม่ไว้ใจเจตนาของเขาเลย
“ขอบคุณค่ะ แต่ฉันชินเสียแล้วล่ะ...วันหลังไม่ต้องนะคะ คุณเองก็อาจจะไม่สบาย ฉันแน่ใจว่าคุณคงไม่ชิน”
หญิงสาวติงเสียงเรียบ ความเป็นอยู่ของเขากับเธอน่าจะแตกต่างกัน...และเมวิกาคิดว่าเขาไม่น่าจะคุ้นกับเหตุการณ์แบบนี้...
3วันกับความเฉยชาที่ยังคงเส้นคงวา แวซ็องเริ่มหงุดหงิดเขาไม่เคยต้องเสียเวลานานเท่านี้ หากคิดจะ ‘ฟัน’ ใครสักคน ขณะนี้มันเกิดขึ้นแล้ว ยัยดื้อตรงหน้าเขานี่พยายามถอยหนี...แทบทุกครั้ง หล่อนขีดเส้นชัดเจน...จนเขาชักเบื่อ แต่กลับไม่คิดถอดใจ...คงเพราะอยากจะเอาชนะนั่นแหละ...ชายหนุ่มคิดแบบนั้น มันไม่น่าจะมีอย่างอื่น เมื่อตัวเองไม่เคยคิดจะผูกติดอยู่กับใคร? ผู้หญิงทุกคนคือทางผ่าน หล่อนทั้งหมดคือเครื่องบันเทิงอารมณ์ และจุดจบของพวกหล่อนย่อมเหมือนกัน...
“ใช่! ฉันไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน...แต่ฉันคิดว่าตัวเองสามารถผ่านมันไปได้”
ชายหนุ่มพูดย้ำ บอกทั้งตัวเองและเมวิกา เขาต้องผ่านมันไปได้สิ ไอ้ความรู้สึกน่ารำคาญแบบนี้จะได้หมดไปเสียที
“ฉันจะวิ่งฝ่าฝนไปล่ะ...คุณจะรอตรงนี้ก็เชิญนะ...ฉันอยากนอน เพลียจะแย่”
ชีวิตคนทำงานมีรายได้ไม่แน่นอน...เธอแกร่งพอและมั่นใจว่าแค่ฝนตกคงไม่ทำให้ตัวเองถึงกับล้มหมอนนอนเสื่อ
“ฉันมีร่มมาด้วย” ชายหนุ่มยัดร่มขนาดใหญ่ใส่มือเจ้าหล่อนพร้อมกับสำทับเสียงเข้ม “ฉันรู้ว่าตัวเองกำลังล้ำเส้น ชอบวุ่นวายกับเธอ แต่มันช่วยไม่ได้นะเม ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร...อะไรที่ทำให้ฉันใส่ใจเธอมากกว่าคนอื่น” ชายหนุ่มพูดเสียงเหนื่อยหน่าย...เขายังจัดการความรู้สึกเหล่านั้นไม่ได้ เลยได้แต่พยายามทำใจและหาทางกำจัดมัน แวซ็องคิดว่าหลังตัวเองได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ...ความรู้สึกเช่นนี้คงหายไปเอง
เมวิกาช้อนสายตามองชายหนุ่ม เธอผ่อนลมหายใจช้าๆ แล้วจึงยอมรับร่มคันนั้นมา มันเป็นการเปิดใจครั้งแรกของตัวเอง...ร่มถูกกาง เธอเดินฝ่าสายฝนมาโดยมีร่มคันใหญ่ที่เขาเอามาให้ป้องกันสายฝนที่ซัดใส่
“เซดริก...คุณคิดจะกลับบ้านเมื่อไรคะ?” หญิงสาวถามระหว่างเดินย่ำน้ำที่เจิ่งนองบนพื้น
ไม่มีเสียงตอบกลับ จนเธอต้องหมุนตัวกลับไปมอง เรียวคิ้วโก่งๆ ขมวดแน่นเมื่อชายหนุ่มเดินตามมาแต่เหมือนกับว่าเขาไม่ได้ยิน
“เซดริก!!” เธอลองย้ำอีกครั้งแล้วก็เริ่มไม่มั่นใจว่าชายหนุ่มได้ยินหรือไม่ เมื่อเขาเฉยสนิท
แวซ็องกะพริบเปลือกตาปริบๆ เขามองหน้าเมวิกาแล้วจึง...ตายโหง!! ดันบอกหล่อนด้วยชื่อของน้องชายนี่หว่า แล้วดันทะลึ่งลืมเอง... “มีอะไรเหรอเปล่า?”
“เปล่า? คุณคงไม่ได้ยินที่ฉันถาม” เขาคงไม่ได้ยิน เธอคงคิดมากไปเอง คนบ้าที่ไหนล่ะจะมาหลอกลวงด้วยการบอกชื่อปลอม...หากเป็นเช่นนั้นจริงๆ ผู้ชายคนนี้ก็ไม่น่าไว้ใจเลย
“เสียงฝน เสียงรถยนต์มันอาจจะดังขึ้นช่วงเวลาที่เธอพูด ฉันเลยไม่ได้ยิน” เป็นการแก้ตัวที่ห่วยบรม ชายหนุ่มคิดในใจเช่นนั้น ครั้งต่อไปเขาจะเพิ่มการระวังตัว ขณะนี้เขาชื่อเซดริก... “เธอมีอะไรหรือเปล่า”
“แค่อยากรู้ว่าคุณจะกลับบ้านคุณเมื่อไร...ไม่มีอะไรหรอก ไม่จำเป็นต้องตอบหรอกนะ หากคุณลำบากใจ”
เมวิกาหมุนตัวกลับไป เธอออกเดินอีกครั้ง เมื่อใกล้จะถึงที่พัก
