บทที่ 8 บทที่3.ผู้ชายที่มาพร้อมกับสายฝน 2

หล่อนหลอกด่าตั้งแต่ประโยคแรก แล้วตบท้ายด้วยการพูดให้ฟังเหมือนกับว่ากำลังยกยอ หนุ่มโสดอายุเยอะเลยทำหน้าพิกล...ก่อนจะอ้อมแอ้มพูดใหม่ “เพิ่มให้อีก2000ก็ได้ เต็มที่แล้วนะสายใจ พี่อยากช่วยนะ เลยเทให้”

แวซ็องเข่นเขี้ยว มันโขกอามานี่ของเขาเสียสะบั้น หั่นแหลก...ขนาดมือสองที่ขายอยู่ในร้านหรู ราคายังแพงหูฉี่ แต่เมื่อกำลังแกล้งจน เขาก็ต้องทำให้เนียน

“เอาไหมพี่ฝรั่ง? หากไม่ เดี๋ยวสายใจรอถามลูกค้าคนอื่นๆ”

แวซ็องรีบพยักหน้ารับ เขายกมือขึ้นเหมือนกำลังไหว้ขอบคุณ

“ชิ! เขี้ยวจริงจริ๊งๆ ดูสิหากเขาไม่เข้าตาจน เขาจะขายไหมล่ะ” หลังรับเงินมาจากชัยทัต สายใจอดไม่ได้ที่จะกระแหนะกระแหน...

“กินข้าวก่อนพี่ฝรั่ง พอไหมแค่นี้...แล้วจะไปไหนต่อล่ะจ้ะ”

จานข้าวผัดมีข้าวกับไข่ ผัดใส่ผักสีเขียว กลิ่นพอใช้ได้และท้องของเขาร้องเตือน มันก็ยังดีกว่ากินน้ำเปล่า

ชายหนุ่มรับสตางค์มาจากสายใจ ยัดใส่กระเป๋ากางเกง ลงมือกินข้าวในจานด้วยความหิว มีสายใจเดินมาคอยเมียงๆ มองๆ อำนวยความสะดวกให้ แถมด้วยรอยยิ้มหวานฉ่ำ จนลูกค้าคนอื่นๆ ตะโกนแซว

“พี่สายใจวันนี้จะเล่นของนอกเหรอ? ไม่เห็นสนใจพวกผมเลย”

หญิงสาวหันขวับ เธอขยับปากด่าแบบไม่มีเสียง “@#%&!” ภาษาบ้านๆ ที่คนโดนด่าสะดุ้ง ถึงไม่มีเสียงแต่อ่านจากการขยับริมฝีปาก มันน่าจะใช่ จึงรีบก้มหน้าหลบ รีบกิน รีบไป ก่อนที่จะโดนหนักกว่านี้

“อารมณ์เสีย...ชอบสอดกันจริ๊ง!”

ข้าวผัดจานใหญ่ แวซ็องกวาดเรียบ รสชาติพอใช้ ไม่ได้อร่อยเลิศ แต่ก็พอถูไถไปได้เพราะเขากำลังหิวจัด

“อร่อยใช่ม๊า พรุ่งนี้มากินอีกหรือเปล่า สายใจจะได้รอ”

ชายหนุ่มพยักหน้า เขาชี้เสื้อที่ตัวเองใส่ พร้อมทั้งถามหาร้านขาย

“อยากได้เสื้อต้องซื้อที่ไหนล่ะ”

สายใจตั้งใจฟัง แม้ไม่ได้คำตอบที่เธอถามออกไป... “เลยออกไปอีกนิดมีร้านขายอยู่ เดี๋ยวสายใจพาไปเอง เดี๋ยวพี่ฝรั่งจะหลงทางน่ะจ้ะ” ได้ควงฝรั่งรูปหล่อ มันโก้หยอกที่ไหน สายใจเลยรีบอาสา เพื่อหวังผล หากฝรั่งรูปหล่อนี่สนใจเธอ แหมๆ มันคงเหมือนขึ้นสวรรค์

“แม่...หนูพาพี่ฝรั่งรูปหล่อไปซื้อของนะแม่ เดี๋ยวมา” หล่อนหันไปร้องสั่งผู้หญิงที่อาวุโสกว่า นางขยับปากด่าไม่ต่างอะไรกับบุตรสาว... “ไม่รู้เลือดใคร เห็นผู้ชายหล่อไม่ได้สิ! ระริกระรี้ขึ้นมาเชียว”

ชายหนุ่มเดินตามแรงจูงของสายใจ เขาจดจำภูมิทัศน์ เมื่อแถวนี้ตรอกซอก ซอยแทบจะเหมือนกัน หากเขาหลง คงไม่มีโอกาสได้เจอกับเมวิกาอีก เพราะฉะนั้นแวซ็องต้องระวังตัวดีๆ

“อีสาย!! จะไปไหน” ผู้ชายหน้าเหี้ยม ร้องถามเสียงดังลั่น

สายใจแอบเบ้ปาก...ยังไม่มีคำจำกัดความระหว่างความสัมพันธ์ของตัวเองกับ พี่วินมอเตอร์ไซน์หน้าเข้ม แต่ดูเขาจะออกตัวแรง!! ใบหน้าอวบอูมนั่นแดงก่ำ เธอจึงจำใจถอยห่างฝรั่งรูปหล่อ เสียดายใจแทบขาดแต่เมื่อประเมินผลได้ ผลเสีย เธอต้องเลือกที่มั่นคงมากกว่า

“ไปด้วยไม่ได้แล้วล่ะนะ เดี๋ยวเขาไม่พอใจเอา” หล่อนส่งยิ้มแหยๆ ให้และแวซ็องก็พยักใบหน้ารับรู้

เขาไปคนเดียวก็สบายใจดี เมื่อตัวเองไม่ได้สนใจสายใจ หล่อนตกเกณฑ์ที่เขาต้องการ

ชายหนุ่มเดินโต๋เต๋ไปเรื่อยๆ หลังจากมีสตางค์อุ่นๆ อยู่ในกระเป๋ากางเกงแม้น้อยนิดแค่หยิบมือเท่าที่แวซ็องเคยพกติดก้นกระเป๋า ชายหนุ่มเดินไปเรื่อยเปื่อย พยายามจำตำแหน่งเดิมไว้ในสมอง แวซ็องต้องการที่สุดตอนนี้คือโทรศัพท์เพื่อติดต่อเซดริกน้องชาย เขาอยู่ไม่ได้...ถ้าตัวเองไม่สามารถใช้บัตรเครดิตได้...ก็ต้องมีเงินในกระเป๋า ร้านขายโทรศัพท์อยู่ไม่ไกลนัก ชายหนุ่มเดินเข้าไปในร้านและพยายามรวบรวมคำพูดง่ายๆ เพื่อเจรจาเป็นความโชคดีที่เขาเคยมีเลขานุการเป็นสาวไทย หล่อนสอนให้เจ้านายหนุ่มหัดพูด เพื่อจะได้พูดคุยรู้เรื่องโดยไม่เสียเปรียบ เพราะนักธุรกิจคนไทยส่วนมากเขี้ยวลากดิน มันเลยเป็นความโชคดีที่ดิดิเย่ร์ลงมือในประเทศที่เขาสามารถสื่อสารกับคนอื่นได้โดยไม่ต้องใช้แค่ภาษามือ...

“มีอะไรให้รับใช่ไหมครับ? เอ่อพูดภาษาไทยได้ไหมเอ่ย”

หนุ่มเจ้าของร้านทักเสียงใส เมื่อมีลูกค้าแวะเวียนเข้ามาในร้าน แต่เมื่อเห็นรูปร่างหน้าตาเต็มๆ เขาเริ่มปวดหัวจี๊ดเพราะลูกค้าคนที่เข้ามาตาสีฟ้าแจ่ม ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าไม่ใช่ชายไทย

“ได้นิดหน่อย!”

“แหมรอดตัวไปที...อยากได้อะไรครับ? โทรศัพท์หรือที่ชาร์จแบต” เขาบ่นเบาๆ ค่อยโล่งอก หากสื่อสารกันไม่รู้เรื่องมันจะพาลปวดหัวเปล่าๆ

“โทรศัพท์ฉันต้องการโทรศัพท์”

คนขายมองจากสภาพการแต่งตัวของลูกค้า ต่อให้เป็นฝรั่งมังค่า แต่มาแบบเสื้อยืดรองเท้าแตะหูคีบแบบนี้ คงไม่ค่อยมีเงินเท่าไร?

เขาหยิบโทรศัพท์ราคากลางๆ ขึ้นมาวาง พร้อมทั้งแจ้งราคาซึ่งแวซ็องพยักหน้าเข้าใจ งบในกระเป๋ามีจำกัด แต่เขาต้องรีบหาตัวช่วย

โทรศัพท์เครื่องเล็กราคาไม่แพง แต่ก็เล่นเอาเงินที่เพิ่งได้มาพร่องเกือบหมด มหาเศรษฐีอย่างเขาต้องมาคำนวนรายจ่ายอย่างกระเหม็ดกระแหม่เป็นครั้งแรก แค่คิดก็อยากหัวเราะ...ก็เพราะความสมเพชที่มีต่อดิดิเย่ร์ ยังไงไอ้หมอนั่นก็เป็นน้องชายเขา เรื่องที่เกิดขึ้นเพราะเข้าใจผิดรอให้ดิดิเย่ร์ใจเย็นลง เขาจะเข้าไปปรับความเข้าใจกับมันใหม่ แต่เวลานี้ต้องหาที่ซ่อนตัวหลบเพลิงโทสะของสามีขี้หึงให้พ้นเสียก่อน

แวซ็องเดินออกมาจากร้านขายโทรศัพท์ เขาหามุมสงบเพื่อต่อสายหาน้องชาย

ชายหนุ่มภาวนาในใจ...เขาแทบจะวิงวอนพระเจ้าเลยแหละ ก็ไอ้น้องชายตัวแสบมันรับสายคนแปลกหน้าที่ไหนกัน หากมีเบอร์แปลกๆ ที่ไม่ใช่คนในครอบครัวเซดริกกดทิ้งแบบไม่ใส่ใจ

“รับเถอะๆ ตังกูมีน้อยไอ้เวรเซดริก!”

เขาสบถสลับกับด่า ฟังเสียงสัญญาณที่ดังขึ้น แต่กลับไม่มีการกดรับจากปลายสาย

“โว้ย!! รับสิโว้ยยยย”

บทก่อนหน้า
บทถัดไป