บทที่ 4 ภาคนิยาย - 4

“พะยะค่ะเสด็จแม่ แต่ลูกจะเข้าท้องพระโรงตามไปพร้อมกับเสี่ยวเจี๋ย” เว่ยเลี่ยงหรงเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น เขาจับมือของเซี่ยซูเจี๋ยแน่น บุรุษเช่นเขาเฟิ่งซีอวิ๋นย่อมรู้จักดี นางชื่นชมเขามานานจนกระทั่งฮองเฮาของทั้งสองแคว้นหมั้นหมายให้พวกเขาเป็นคู่หมั้นคู่หมายด้วยกัน แต่สุดท้ายแล้วเขากลับหักหน้านางด้วยการเดินจูงมือกับเซี่ยซูเจี๋ยต่อหน้าธารกำนัลเช่นนี้! ไม่ไว้หน้ากันเลยเสียจริง!

หากที่นี่คือแคว้นมู่แล้วล่ะก็ คนอย่างเซี่ยซูเจี๋ยไม่มีทางผยองได้เพียงนี้ ตอนนี้พวกนางอยู่ที่แคว้นเว่ยย่อมถือว่ารัชทายาทและไทเฮาถือหางข้างพวกนาง เซี่ยซูเจี๋ยถึงได้แสร้งทำตนหมายอยากประกาศศักดากับเฟิ่งซีอวิ๋น

เฟิ่งซีอวิ๋นกำมือแน่น...นางคือท่านหญิงอันดับหนึ่งของแคว้น แม้นางจะไม่งดงามเท่าเซี่ยซูเจี๋ย แต่หลักสามคุณธรรมสี่จรรยา หรือแม้แต่ศาสตร์ทั้งหกแขนงนางล้วนร่ำเรียนจนแตกฉาน ทุกสิ่งนางมีมากกว่าเซี่ยซูเจี๋ยแต่ญาติผู้พี่กลับได้ความดีความชอบจากผู้อื่นไป ส่วนนางก็กลายเป็นสตรีแสนร้ายกาจในสายตาของผู้อื่น

“ฮองเฮาเพคะ อย่าทรงเคืององค์ชายเลยเพคะ คงเป็นแค่ระยะเวลา

สั้นๆ เท่านั้น ประเดี๋ยวสักพักองค์ชายก็คงไตร่ตรองได้แน่นอนเพคะ” ด้วยความที่คิดว่ามีผู้มีอำนาจคอยถือหางหนุนหลังอยู่ รวมถึงเฉินฮองเฮาเองก็สนิทสนมกับหลี่ฮองเฮาอยู่มาก ดังนั้นเฟิ่งซีอวิ๋นจึงคิดเหิมเกริมลำพองใจทำตนมิไว้หน้าผู้ใดเช่นนี้

เฉินฮองเฮาทรงกุมมือเฟิ่งซีอวิ๋นอย่างปลอบโยน “อะไรกันอวิ๋นเอ๋อร์ อาหรงเป็นว่าที่พระสวามีของเจ้านะ มาเถิดๆ เจ้าตามข้ามา”

บรรยากาศภายในท้องพระโรงค่อนข้างครึกครื้นกันทีเดียว เนื่องจากกิตติศัพท์ของหลันซีจวิ้นจู่นั้นดังกระฉ่อนมาที่แคว้นเว่ยไม่น้อย รวมถึงกิตติศัพท์ความงดงามของเซี่ยซูเจี๋ย แม้จะไม่มียศฐานะใดเท่ากับผู้เป็นน้องสาว แต่สตรีแซ่เซี่ยผู้นี้กลับมีความงามเฉิดฉันยิ่งกว่าสตรีใดในใต้หล้าเสียอีก

เว่ยเลี่ยงหรงจูงมือเซี่ยซูเจี๋ยหมายจะพาไปนั่งข้างๆ ตนเอง แต่ทว่าฮองเฮาเฉินเป่าหลิงทรงตรัสห้ามเสียงนุ่ม “ที่นั่งตรงนั้นมีไว้สำหรับสถานะพระชายารัชทายาท แม่นางเซี่ยผู้นี้มีสถานะอันใดหรือไม่ถึงสามารถนั่งตรงนั้นได้”

คำกล่าวที่ไม่ยินดีของเฉินเป่าหลิงทำให้เซี่ยซูเจี๋ยรู้สึกเสียหน้าเป็นอย่างมาก อยู่ที่แคว้นมู่ หลันซีจวิ้นจู่ก็คือสตรีขี้อิจฉาพี่สาวอย่างนาง แต่ทว่าอยู่ที่นี่นางนึกว่าเว่ยเลี่ยงหรงจะสามารถปกป้องนางจากมารดาของเขาได้ แต่ทว่านางกลับคิดผิด เฉินเป่าหลิงมีอำนาจอย่างมากในราชสำนัก อีกทั้งยังเป็นสหายของหลี่ฮองเฮา ทั้งสองแคว้นต่างเป็นพันธมิตรกันเสมอมา หากนางจะเป็นต้นเหตุให้ทั้งสองแคว้นต้องแตกหักกันย่อมไม่เหมาะสม

“เสด็จแม่...” เว่ยเลี่ยงหรงกำลังจะทูลทัดทาน เซี่ยซูเจี๋ยคือสตรีในดวงใจของเขา ความงดงามและความอ่อนหวานรวมถึงอุปนิสัยอันอ่อนโยนของนางทำให้เขาตัดสินใจแล้วว่าหากแต่งนางเข้ามาในตำหนักบูรพานั้นย่อมดีไม่

น้อย ดีกว่าเฟิ่งซีอวิ๋นที่มีสถานะสูงส่งแต่ทว่ากลับมีอุปนิสัยร้ายกาจอย่างมาก

เซี่ยซูเจี๋ยรีบกล่าวขึ้นมา “หม่อมฉันขอประทานอภัยเพคะฮองเฮา องค์รัชทายาท” นางส่งสายตาหวานให้เว่ยเลี่ยงหรงด้วยความน่าสงสาร

“มานั่งกับย่าเถิดเจี๋ยเอ๋อร์” อู๋ไทเฮาทรงกล่าวเชิญชวนเซี่ยซูเจี๋ย หญิงสาวยิ้มยินดีน้อยๆ แล้วเดินไปนั่งข้างๆ ถัดมาจากอู๋ไทเฮา

เว่ยเลี่ยหรงเดินหนีเฟิ่งซีอวิ๋นไปนั่งยังที่ประจำของตนเอง เขาไม่ชอบพฤติกรรมของนางผู้นี้ นางร้ายกาจสารพัด อีกทั้งยังชอบตบตีบ่าวไพร่ในจวนเป็นอาจิณจนเป็นที่เอือมระอาของผู้คนมากมาย คนทั่วทั้งเมืองหลวงและแคว้นมู่ต่างโจษจันชื่อเสียงของนางในทางที่ไม่ดีนัก

หลันซีจวิ้นจู่หรือเฟิ่งซีอวิ๋นหันไปมองเซี่ยซูเจี๋ยที่นั่งถัดมาจากไทเฮา นางหุบเก็บอาการไม่พอใจเอาไว้ในอกก่อนจะเดินตามเฉินฮองเฮาไปนั่งเคียงข้างกัน สายตาอันงดงามยังคงจับจ้องที่รัชทายาทเว่ยเลี่ยงหรงด้วยความชื่นชม

“หลันซีจวิ้นจู่ พวกเราสองคนก็เห็นเจ้ามาตั้งแต่เด็กๆ ไม่นึกว่าหลายปีผ่านไป เจ้าจะเติบโตเป็นสาวงาม ว่าที่ชายาของอาหรงเช่นนี้” เว่ยฮ่องเต้ทรงแย้มพระสรวลตรัสชมว่าที่ลูกสะใภ้ด้วยความอบอุ่น เฉินฮองเฮาทรงเอ่ยเสริมขึ้นมา

“นั่นสิเพคะ เหมาะสมกับอาหรงอย่างกับกิ่งทองใบหยก” พูดจบเฉินฮองเฮาก็หันพระพักตร์มามองเซี่ยซูเจี๋ย พร้อมกับรอยยิ้มอ่อนๆ ที่มุมปากของพระนาง

“ถ้าเสด็จแม่กับเสด็จพ่อจะพูดเรื่องนี้ เห็นทีลูกคงต้องขอตัวกลับตำหนักก่อนพะยะค่ะ” เว่ยเลี่ยงหรงเอ่ยอย่างเบื่อหน่าย สตรีอย่างเฟิ่งซีอวิ๋นมีดีแค่ความงามที่เขาเห็นพ้องต้องด้วยเท่านั้น แต่นอกจากความงามแล้วนิสัยของนางก็เป็นดั่งหมอนปักลายที่ขาดวิ่นเท่านั้น ไม่มีส่วนใดให้น่าพิสมัยดั่งเซี่ยซูเจี๋ยที่งดงามและอ่อนหวานกว่านางเลยสักนิด ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เขาเดินไปหาเซี่ยซูเจี๋ยแล้วจูงมือนางขึ้นมาอย่างทะนุถนอม ท่าทีอ่อนโยนที่เขาปฏิบัติต่อญาติผู้พี่ทำให้เฟิ่งซีอวิ๋นเกลียดชังอีกฝ่ายยิ่งนัก

เซี่ยซูเจี๋ยยิ้มอย่างพึงใจ ก่อนที่นางจะได้เดินออกมาพ้นจากตำแหน่งที่นั่งของตนเองเสียงของฮองเฮาเฉินเป่าหลิงดังขึ้นมาขัดเสียก่อน ต่อหน้าธารกำนัลมากมายเว่ยเลี่ยงหรงกล้าหักหน้าหลานสาวของสหายมารดาเช่นนี้ เซี่ยซูเจี๋ยคือสตรีสำคัญอันใดมากมาย ถึงทำให้บุตรชายของพระนางต้องทำตนอย่างไม่ไว้หน้ามารดาเช่นนี้

บทก่อนหน้า
บทถัดไป