บทที่ 53 หย่าสามีธงแดง 7
ซึ่งนอกจากที่ดิน ยังมีสมบัติอีกหลายอย่าง รวมถึงผู้หญิงในตระกูลหวังด้วย แต่ชิงหม่าเป็นคนโลภ บ้าตัณหา ภายหลังก่อตั้งลัทธิของตนขึ้นเพื่อยัดเหนี่ยวจิตใจผู้คน ขณะเดียวกันก็ใช้มันเป็นกลอุบายฮุบทุกอย่างไว้เป็นของตนเอง อีกทั้งยังขายความลับตระกูลหวังให้แก่พวกทหารกฎบ กองกำลังตระกูลหวังจึงถูกทั้งระเบิดถล่ม และตามไล่ล่าจนไม่เหลือรอดสักชีวิต
พอผู้หญิงตระกูลหวังขาดที่พึ่งทั้ง ไม่มีคนคอยให้คำปรึกษา พ่อของเธอก็แสดงตัวเป็นคนดี ก่อนล้างสมองทุกคนด้วยคำสอนของลัทธิจอมปลอม หลอกให้พวกเธอมาหลับนอนด้วย จนหลายคนเสียสติ บ้างก็ฆ่าตัวตาย...หนึ่งในนั้นคือแม่ของพี่”
ชิงม่านอี้ไม่อยากเชื่อ เธอยกมือปิดหูตนเอง บิดาของเธอใจดี ทั้งยังรักครอบครัว ถึงเธอจะพึ่งเข้ามาอยู่คฤหาสน์ตระกูลชิงได้เพียงสองปี ซึ่งเกิดขึ้นหลังชิงหม่าประกาศตามหาทายาทที่หายสาบสูญไป และชิงม่านอี้กลายเป็นคุณหนูรองที่มีชีวิตสุขสบายอย่างเจ้าหญิง ทว่าพอ บิดาเธอประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ทุกอย่างพลันเปลี่ยนไปอีกด้าน ถึงอย่างนั้นเธอมีกินมีใช้คล่องมือ ส่วนเรื่องลัทธิที่เขากล่าวถึง เธอจำได้ว่าบิดาถอนตัวออกมาหลังจากมีคดีความ และทำการปิดสถานที่เกี่ยวข้องกับลัทธิ คนที่นับถือกระจัดกระจายไปตามแนวคิดของตน
เมื่อไร้ซึ่งบิดา จึงได้ลุงกับป้าดูแลเธอและธุรกิจช่วย จวบจนเธออายุได้สิบเก้าปีเต็ม หวังเซียวหรงจิ่งก็เข้ามาในชีวิต และทำให้เธอหลงรักเขาจนโงหัวไม่ขึ้น
และเมื่อได้ย้อนคิดหลายสิ่ง ย้ำไปมา ความฉลาดน้อยนิดที่เธอมีจุดประกรายในหัว โอ้...หวังเซียวหรงจิ่ง ไม่เคยรักเธอ เขาเข้ามาหาเธอเพราะต้องการแก้แค้นและทวงทุกอย่างคืน
“ชิงหม่าคือผู้ชายเลวระยำ ที่ทำให้ตระกูลหวังพินาศ”
พูดจบหวังเซียวหรงจิ่งจึงกระชากเสื้อผ้าของชิงม่านอี้ เขาทำให้เธอกลัว ทว่าทั้งคู่เป็นพวกที่ชอบการแสดงออกบ้าคลั่ง ยิ่งมีเสียงต่อว่าด่าทอ ไฟร้อนแห่งตัณหาก็ลุกโชน นอกจากนั้นเขายังดื่มมามิน้อย ด้วยมีความเครียดสะสมมานาน
เสื้อผ้าของชิงม่านอี้ถูกกระชากขาดไปหลายชิ้น ยามนี้ร่างกายของเธอเย้ายวนให้เขาสัมผัสและทำสิ่งที่ต่ำช้า
จมูกโด่งซุกไซ้ลำคอระหง ก่อนที่เขาจะขบ เม้ม แล้วฝังเขี้ยวลงอย่างคนหื่นกระหาย
“โอ๊ย... จิ่งเกอ... ฉันเจ็บ” บอกเขาไปแล้ว และเริ่มออกแรงประท้วง หากชายหนุ่มกับใช้ร่างกายใหญ่โตกว่ากดร่างเธอให้อยู่นิ่งๆ พอเธอจะร้องเสียงดัง เขาก็เอานิ้วเข้าไปกวาดในโพรงปาก
ชิงม่านอี้แทบจะสำรัก หากมันเกิดขึ้นไม่กี่วินาที จากนั้นเธอถูกเขากระตุ้นด้วยแรงสิเน่หาเร่าร้อน นิ้วใหญ่ๆ แทงเข้าออกในโพรงปาก และสั่งให้เธอดูดเลีย คราแรก โกรธ ชิงชัง จึงไม่ยอมกระทำตาม แต่พอเขาจูบที่เนินหน้าอกอวบ และไล้ลิ้นลงมาเรื่อยๆ กระทั่งเริ่มดูดยอดหน้าอกด้านบนสีชมพูเข้มที่ตั้งชัน เธอก็สั่นผวาก่อนจะทำตามที่เขาต้องการ
“อย่านะ... จิ่งเกอ... ฉันไม่ต้องการแบบนี้”
ชิงม่านอี้กลัวอีกฝ่ายจับใจ เนื่องจากเขาไม่มีสติ ทั้งยังทำทุกอย่างด้วยความต้องการดิบเถื่อน ความรู้สึกว่าตนเองไร้ค่าเกิดขึ้นอีกครั้ง และเธอไม่อาจทนรับสถานการณ์เช่นนั้นได้อีก
“แล้วเธอต้องการแบบไหน น้ำหน้าอย่างเธอเก่งที่สุดก็คือเรื่องบนเตียง ออดอ้อนให้พี่นอนด้วยตลอด แต่...อย่างที่รู้ พี่เอาเธอไม่ลงจริงๆ เสี่ยวอี้ มันไม่ได้ขยะแขยง แต่พี่ไม่อาจฝืนใจทำเรื่องแบบนั้น กับลูกของชิงหม่า”
หญิงสาวไม่เคยนึกโกรธเกลียดหวังเซียงหรงจิ่งเช่นนี้มาก่อน ยามนั้นเธอจับที่ติ่งหูเขาซึ่งยังมีเลือดซึมอยู่ตั้งใจทำให้เขาเจ็บ ทว่าชายหนุ่มรู้ทัน จึงผลักเธอไปอีกทางก่อนพาไปนอนบนโต๊ะทำงานกว้าง แล้วฉีกกระโปรงเธอขาดจนเผยให้เห็นผิวนวลเนียน
“เธออยากให้ทำแบบนี้ใช่ไหม”
ในตอนนั้น หญิงสาวรู้สึกพะอืดพะอม อาการเช่นนี้เป็นมาพักใหญ่แล้ว ซึ่งอาการครั้งนี้แย่หนัก แล้วยังมีอาการคล้ายจะหมดสติลงไปด้วย
หวังเซียวหรงจิ่งพบความผิดปกติดังกล่าว จึงไม่ได้คิดข่มเหงเธออีก เขาปล่อยให้ชิงม่านอี้เป็นอิสระ ก่อนพบว่าเธอรีบพุ่งตัวไปอาเจียน
“เฮอะ... อาการเธอมันฟ้อง ไม่ผิดจากที่พี่คาดไว้... ซือซือ... บอกว่าเธอสวมเขาให้พี่เมื่อสามเดือนก่อน...เด็กในท้อง ก็คงเป็นลูกของชู้สินะ ไอ้ห่านั้น คือเถ้าแก่หยางใช่ไหม”
