บทที่ 6 ขอพลังใจ

“โอ้ มองป่าป๊าตาโต กำลังคิดถึงนางฟ้าแม่ทูนหัวสินะ” พ่อพูดแบบนั้น แต่เฉินรุ่ยเผิงอยากค้าน ทว่ากลับไม่มีแรงส่งเสียงเสียดื้อๆ

“อาม่ายใจดี ต้องทำอาหารอร่อยให้เผิงน้อยกินทุกวันแน่นอน”

เขาไม่เชื่อ อยู่กับหลี่ชิงม่าย น้องจากจะถูกดุ ลู่เพ่ยเพ่ยยังชอบพาอาเค่อมาแกล้งเขาด้วย

“หิว... เผิงน้อย จะอยู่กับ มะ หม่า มะ ม้า”

เฉินรุ่ยเผิงย้ำเรื่องเดิม และยังไม่หยุดพูดถึงแม่ คนเป็นพ่อจึงพ่นลมหายใจร้อนๆ ระบายความเครียด

“หม่าม้ายังไม่กลับนะเผิงน้อย ออกจากโรงพยาบาลแล้ว อาม่ายจะอยู่กับลูกเข้าใจไหมครับ”

พ่อเสียงเข้มกว่าเดิม และนั่นทำให้เขารู้ว่าเป็นคำสั่ง จะขัด หรือแสดงความอ่อนแอไม่ได้ ไม่อย่างนั้นเขาจะไม่ใช่ลูกของผู้บัญชาการ และถูกห้ามไม่ให้ใช้นามสกุลเฉิน

“หม่าม้า สะ สวย และ ปะ เป็นนางฟ้าไหม”

แม่ของเขาสวยกว่าใคร ถึงไม่ชอบอาบน้ำให้เขา หรือหาอาหารให้กิน แต่แม่ไม่ดุ ไม่ตี หรือทำเขาเจ็บตัว มีเรื่องเดียวที่เขาโกรธแม่ก็คือ เอาจักรยานไปเก็บในห้องและห้ามไม่ให้ขี่ นั่นเป็นเพราะเขาปั่นมันออกไปไกล จนแม่ต้องไปตาม

“เอาไว้หม่าม้ากลับบ้านเมื่อไหร่ เผิงน้อยลองถามดูนะครับ”

พ่อบอกเขาอย่างนั้น ฝ่ายเขาเลยมุ่งมั่นรอให้แม่กลับบ้านไวๆ

เฉินรุ่ยเผิงเดินวนเวียนไปมา กระทั่งถึงคอกไก่ของป้าอิง ซึ่งเป็นแม่บ้านคนที่เคยดูแลเขาช่วงเวลาหนึ่ง แต่แม่บอกว่าป้าอิงจู้จี้ ชอบบ่น เลยให้พักอยู่บ้านตัวเองเฉยๆ ห้ามเข้าไปวุ่นวายเรือนพักของผู้บัญชาการ

เด็กชายรู้ว่าอิงซินเลี้ยงไก่ และมีเป็ดที่ออกไข่ฟองโตๆ ด้วย เขาเคยเก็บไข่เป็ด และชอบกิน

เฉินรุ่ยเผิงชะเง้อคอมองห้าอิงซิน แลซ้ายขวา ก็ไม่เห็นใคร

“ป้าอิง... ปะ ป้า”

เขาร้องหา แต่ไม่มีเสียงตอบ ตอนนี้คิดว่า ถ้ามีไข่สักสองฟอง เขาจะเอากลับบ้าน แล้วไปนั่งรอแม่ บางทีแม่อาจใจดี ทอดไข่หอมๆ ให้เขากินก็ได้

เด็กชายเข้าเอาไปในเล้าเป็ด และตอนนี้ พวกมันออกไปหากินอยู่ข้างนอก บ้างก็เล่นน้ำในคลอง เขาจึงไม่โดนไล่จิก

ดวงตากลมโตมองไปทั่ว กระทั่งเห็นว่า บนกองฟางมีไข่ฟองโตๆ อยู่หลายฟอง

“มะ ม่าย มีขี้ ปะ เป็ด เอา ดะ ได้”

เขาว่าแล้วก็เหยียบบนก้อนอิฐ ค่อยๆ จับมันออกจากกองฟาง จากนั้นก็ใส่เข้าในกระเป๋ากางเกง ตอนแรกมันเกือบหล่นจากมือ หากสุดท้ายก็เข้าไปอยู่กางเกงข้างซ้ายและขวาได้สำเร็จ

เมื่อได้ของที่ต้องการ เขาก็ไม่รอช้า รีบออกไปจากคอกเป็ด

“กลับบ้าน...” เขาบอกตัวเอง แล้วก็เดินหน้ากลับบ้าน แต่ปัญหาอยู่ที่ว่า เหตุใดบ้านเขาถึงได้ไกลกว่าเดิม เขาเดินอยู่อีกเกือบยี่สิบนาที ก็เริ่มหิวจนตาลาย คอก็แห้ง ไข่ในกระเป๋ากางเกงก็หนักจนอยากโยนทิ้งไป

ยามนั้นขอบตาเขาผะผ่าวร้อน ขาก็ปวด และยังคิดถึงหม่าม้าเหลือเกิน

ร่างเล็กๆ ค่อยๆ ทรุดลงนั่งบนพื้น เขาพยายามกลั้นเสียงร้องไห้ กลั้นน้ำตาแล้ว แต่เฉินรุ่ยเผิงก็ไม่อาจทำได้

เขากลัวจะถูกพ่อดุ กลัวไม่ได้เป็นทหาร กลัวไม่ได้ใช้นามสกุลเฉิน ทว่าตอนนี้เด็กชาย เดินไม่ไหวจริงๆ

“หม่าม้า... เผิงน้อย ระ รอ อยู่ตรงนี้ นะ มา อุ้มเผิงเผิงที”

พูดจบเขาก็นอนราบลงไปบนพื้นหญ้า และเขานอนทับไข่เป็ด มันจึงแตกเปื้อนกระเป๋ากางเกง

อันหว่านถิงมาถึงบ้านพักของผู้บัญชาการเมืองฝูเจียง ซึ่งแต่เติมจากเดิมให้โอ่โถง แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจ นอกจากหน่วยรักษาความปลอดภัยด้านหน้าสองคน ด้านในไม่มีแม่บ้าน สาวใช้ หรือใครอีกเลย

พอหล่อนทำสีหน้าประหลาด เขาก็เอ่ยว่า

“ชอบความสงบ และไม่อยากให้ใครเป็นตากุ้งยิง เวลาเราจู๋จี๋กันไม่ใช่เหรอ รวมถึง คุณไม่อยากให้ผู้หญิงคนไหนเข้าใกล้ผัวสุดหล่อด้วย”

ประชด เฉินซือหยางเป็นคนประเภทนี้ หล่อนต้องคิดบัญชีกับเขาสักวัน

หล่อนเดินตามก้นคนตัวสูง ภาพในหัวของบ้านหลังนี้ไม่แจ่มชัดนัก กระทั่งเห็นรูปวางบนหลังตู้ และรูปครอบครัวติดฝาผนัง อันหว่านถิงพอจะโล่งใจว่า หล่อนเป็นได้แค่นางร้ายง่อยๆ ไม่ใช่สตรีชั่วช้า จนแก้ไขนิสัยเสียไม่ได้ แล้วที่หล่อนมีนิสัยไม่ได้เรื่อง หรือทำตัวน่าเบื่อส่วนหนึ่งคือการดูแลอย่างเอาใจจนเกิดเหตุของปู่ ซึ่งเป็นอดีตนายพล นอกจากนั้นยังแต่งกับผู้ชายที่แสนจะกวนประสาท ทั้งบ้าอำนาจและคลั่งไคล้ของสวยงามอย่างเฉินซือหยาง หากเข้าใจไม่ผิด คนๆ นี้ คิดว่าหล่อนคือผู้หญิงที่มีไว้สำหรับประดับบารมี และให้ความสนุกบนเตียงเท่านั้น

บทก่อนหน้า
บทถัดไป