บทที่ 5 บทที่2.ปะทะ! 2

มุมปากเคลวินกระตุกยิ้ม เขาวาดแผนการในอากาศและ...รอเวลาลงมือ

ทิชากรขยับเข้าไปใกล้เคลวินอีกนิด เธอคิดว่าอาจจะเป็นเพราะเสียงเพลงดังกระหึ่ม มันเลยอาจจะเป็นสาเหตุที่ชายหนุ่มหูดับ และคงไม่ได้ยินเสียงคำตอบจากเธอเลย เธอจึงยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ พูดเสียงสั่นๆ เนื่องจากดวงตาสีคาราเมล หวานฉ่ำนั่นกำลังทำให้เธอเสียความตั้งใจ

“ฉันง่วงและอยากพักเข้าใจไหมคะ คุณจะไปไหนก็ไปเถอะ!! ฉันไม่ไปไหนกับคุณทั้งนั้น อุ๊บ!!”

สิ่งที่ทิชากรพยายามจะบอก ยังพูดไม่ทันจบ ชายหนุ่มฉกวูบ หน้าคมคายเข้าไปประชิดใกล้ๆ เขาทาบเรียวปากบางๆ ทาบทับกลีบปากนุ่มนิ่มที่หมายตา เพียงแรกสัมผัส… โอ้แม่เจ้ามันเหมือนมีปะจุไฟฟ้าแรงสูงซ็อตเขาเสียจนตัวสั่น ร่างกายกระตุกเยือก ผิวกายซาบซ่าน เขาอยากได้มากกว่าจูบแผ่วๆ แบบนี้ อยากสัมผัสเธอทั้งตัว ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าเลยทีเดียว

“คุณๆ!!”

ทิชากรพลิกตัวหลบ หลังอึ้งไปหนึ่งอึดใจ ร่างกายอ่อนบางถลาวูบ ล้มลงบนพื้น พอตั้งตัวได้ก็ยกมือเล็กๆ ขึ้นปิดปาก พร้อมทั้งยกนิ้วชี้หน้าเขา นิ้วเล็กๆ นั้นสั่นระริกอย่างเห็นได้ชัด

“คุณปล้นจูบผม เพราะฉะนั้นจ่ายค่าเสียหายมาซะดีๆ”

เคลวินพูดหน้าตาย เขาชะโงกหน้าไปใกล้ๆ คนตัวเล็กที่ถอยหลังกรูดๆ พร้อมทั้งยกมือปิดปากอิ่ม รอบๆ ตัวเงียบกริบ สายตาทุกคู่จับตามองสองคนเป็นพิเศษ พวกเขาพากันลุ้นระทึก ว่าใคร… จะเป็นฝ่ายควบคุมเกมและเป็นฝ่ายกำชัยชนะ

“เหอะ! ฉันอยู่เฉยๆ แค่ยื่นหน้าไปใกล้คุณ แต่ฉันไม่ได้จูบคุณ ตาบ้า!”

ทิชากรต่อว่าฉอดๆ เธอค้อนให้เคลวินประหลำประเหลือก อยากจะฟาดมือบนหน้าหล่อๆ นั่นให้สมกับที่เขาฉวยโอกาสกับเธอ แต่...ไม่กล้า! เธอกลัวว่าเขาจะย้อนเกร็ดเอาคืนเธออีกครั้ง

“อ้าว! เหรอ เมื่อสักครู่ฉัน ‘จูบ’ เธอเหรอไม่ยักรู้ แต่สนใจแบบฟลูคอร์สไหมล่ะ ฉันยินดีบริการแบบเอ็กซ์คลูซีฟเลยนะ”

เคลวินพูดเสียงแผ่ว เขาแสยะยิ้มให้กับทิชากร ดวงตาสีคราลาเมล กะพริบวิบวับ มันเต็มไปด้วยประกายสนุกสนาน

ทิชากรหยัดกายขึ้นยืน เธอหรี่ตาลงก่อนจะคลี่ยิ้มหวานให้กับเคลวิน จนชายหนุ่มตราพร่า เขา ‘ชอบ’ รอยยิ้มของเธอมันสดใสดี เหมือนกำลังยืนสูดอากาศบริสุทธิ์

“ไม่…รสจูบห่วยแตกอย่างเมื่อครู่ ฉันให้คะแนนคุณติดลบค่ะมิสเตอร์ เกิดมาฉันยังไม่เคยเจอใคร ‘จูบ’ ได้ห่วยเท่าคุณมาก่อน ฉันคิดว่าจูบกับเด็กๆ ยังได้รสชาติดีกว่าที่จูบกับคุณเสียอีกค่ะ”

เสียงเย็นๆ กับหน้านิ่งสนิท แต่คงไม่มีใครรู้ดีว่าทิชากรสั่นไปทั้งตัว เธออายจนอยากจะเอาหน้าหมุดดินหนี เพราะตั้งแต่เป็นสาวเต็มตัว ริมฝีปากนี้ไม่เคยมีใครได้แตะต้อง แต่...ผู้ชายตรงหน้าฉวยโอกาสเขาโขมยเอาเฟิร์สคิสของเธอไปเสียแล้ว เพราะฉะนั้นเธอจะไม่ยอมให้เขาได้ครอบครองความภูมิใจนั้น เขาจะต้องอับอายไม่กับแพ้เธอ

หะ! ยัยเด็กกะโปโลพูดอะไรออกมาน่ะ เขานี่นะ เขาที่ขึ้นชื่อว่าเป็นนักรัก เป็นคาสโนว่าที่หมายปองจากสาวๆ ทั่วโลก กลับถูกผู้หญิงธรรมดา ‘หยาม’ เธอหาว่าเขาจูบได้ห่วยแตกสิ้นดี จูบกับเด็กน้อยยังดีเสียกว่าจูบกับผู้ชายอย่างเขา เคลวินเดือดจัด เขาโกรธจนเส้นกระตุกไปทั้งตัว ถูกดูหมิ่นว่าไร้น้ำยายังไม่โกรธเท่า...กับว่าจูบของเขาไม่ได้เรื่อง ในเมื่อตกลงกันดีๆ ไม่ได้ ก็ต้องใช้ ‘กำลัง’ จะมาหาว่าเขาใจร้ายไม่ได้นะ เมื่อเขาต้องกู้ศักดิ์ศรีของตัวเองคืนมาบ้าง ลบคำสบประมาทที่ออกจากปากจิ้มลิ้มน่าจูบนั่น

บอดี้การ์ดที่ยืนอยู่ไม่ไกลพากันก้มหน้าลง ผู้หญิงคนนี้ใจกล้าเกินหญิง เธอกล้าที่จะกระตุกหนวดเสือ และไม่อยากจะคิดเลยว่าเธอจะต้องเจอกับอะไรบ้าง

ชายหนุ่มผุดลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว เขาขยับเข้าไปใกล้ และกระชากทิชากรด้วยมือข้างเดียวจนเธอถลาเข้ามาปะทะแผงอกของเขาจังๆ เธอรีบยันมือกับแผงอกไว้ พยายามขืนตัวเอาเต็มที่ แต่แรงอันน้อยนิดหรือจะสู้แรงกำลังที่มีมากกว่าได้ เคลวินหรี่เปลือกตาลง เขาลดหน้าลงใกล้ๆ พูดเสียงเคร่ง “เธอจะต้องเสียใจที่พูดออกมาแบบนี้ ยังไม่มีใครสักคนว่าฉัน ‘จูบ’ ไม่ได้เรื่อง เพราะฉะนั้นฉันจะทำให้เธอถอนคำพูด!”

“อ้าย!#฿ ปล่อยนะปล่อยเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นฉันจะร้องให้บ้านแตกเลยคอยดู”

เธอตวาดเสียงดังๆ ขู่ ลมหายใจหอบฮั่ก เพราะออกแรงดิ้นสุดกำลัง แต่ก็ยังไม่สามารถสลัดมือที่เกาะกุมให้หลุดออกไปได้ มือของเขาแข็งปานคีมเหล็ก เคลวินฉกเรียวปากปิดเสียงน่ารำคาญนั่นด้วยปากของตัวเองอีกครั้ง!! ชายหนุ่ม กระแทกเรียวปากหนักๆ และบดขยี้เหมือนกับการลงโทษ ทำให้เธอเจ็บตัว จะได้รู้ว่าไม่ควรหมิ่นประมาทเขาด้วยถ้อยคำแบบนั้นอีก เรียวปากแข็งกระด้างบดเบียดหนักๆ เขาแยกแย้มริมฝีปากที่เม้มแน่น ก่อนจะสอดแทรกปลายลิ้นร้อนๆ เข้าไปในโพรงปากนุ่มนิ่ม กวาดต้อนเรียวลิ้นเล็กๆ ที่กระเสือกกระสนหนี เกี่ยวตวัดร้อยรัด และดูดซึมความหอมหวาน ความหวานละไมที่ได้รับจากคนตัวเล็ก ทำให้ชายหนุ่มหลงเพลิด เขาเอื้อมมือกอดเรือนกายอวบอิ่มให้แน่นขึ้น ขบเม้มกลีบปากเปียกชื้นและบดขยี้หนักๆ ส่งท้าย

บทก่อนหน้า
บทถัดไป