บทที่ 4 4
“ร็อด...คุณอย่ามัวนึกถึงเรื่องอื่นจนลืมเรื่องสำคัญของตัวเองเสียล่ะครับ”
วลาดิมีร์เอ่ยกับร่างสูงใหญ่ซึ่งอยู่หลังพวงมาลัยบังคับรถบีเอ็มดับเบิ้ลยูให้เคลื่อนไปอย่างเชื่องช้าบนถนนทับถมด้วยหิมะและการจราจรคับคั่ง ชายวัยกลางคนไม่มีเวลาสนใจกับสิ่งรอบข้างนอกจากพลิกเอกสารปึกใหญ่ในมือเพื่อตรวจสอบความเรียบร้อยให้เจ้านายหนุ่มซึ่งเขาเป็นผู้รับผิดชอบดูแลผลประกอบการของ แม็กซิมัส คอร์ปอเรชั่น รวมไปถึงการตกลงซื้อขายเพชรดิบมูลค่ามหาศาลจาก เซียร่า เหมืองยักษ์ใหญ่ในไซบีเรียเหนือจากอีกหลายเหมืองที่แม็กซิมัสดำเนินกิจการตั้งแต่รุ่นของ คีริล บิดาของโรดิออน
“เรื่องอะไร?”
“เรื่องแต่งงานของคุณกับลูกสาวของท่านยูเชนคอฟหลังเสร็จสิ้นงานศพคุณพ่อของคุณไงล่ะครับ วันนี้ผมได้รับโทรศัพท์จากเมืองไทย ท่านยูเชนคอฟบอกว่าลูกสาวของท่านเดินทางมาถึงมอสโกแล้ว เธอชื่อ อิเล็คตร้า ครับ”
“ไม่เห็นสำคัญสำหรับผม!” โรดิออนเสียงแข็งและมีอาการกระตุกจากการเข้าเกียร์หนัก ๆ ขณะบังคับให้รถเคลื่อนไปข้างหน้า มันเป็นเรื่องรบกวนจิตใจทุกครั้งที่พูดถึงการแต่งงานกับหญิงแปลกหน้า เขาอยากปฏิเสธหากก็ทำได้ยากเย็นเมื่อมันเป็นคำร้องขอของคนใกล้สิ้นใจ
“ผมรู้ วลาดิมีร์ ว่าก่อนจากไปพ่อพูดอะไรกับผมบ้าง พ่อพูดแค่อย่างเดียวเท่านั้นว่าให้ผมแต่งงานกับลูกสาวหุ้นส่วนคนสำคัญที่เมืองไทย ผมจำลุงยูเชนคอฟได้รางเลือน แต่มันจะสำคัญอะไรที่ต้องแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้น บางทีผมก็รู้สึกว่ามันงี่เง่ามากเพราะนึกว่าเรื่องแบบนี้หมดไปแล้วตั้งแต่ยุคไดโนเสาร์ คลุมถุงชน! อยากรู้นักว่าผู้หญิงคนนั้นจะทนได้นานสักแค่ไหนถ้ารู้ว่าต้องอยู่กับคนที่ไม่รู้จักคำว่ารักแม้แต่นิดเดียว!”
“ร็อด...คุณคิดจะทำอะไร?” ชายวัยกลางคนเห็นรอยยิ้มเหี้ยมบนใบหน้าเข้มก่อนคำพูดแทงใจจะหลั่งไหลออกมา
“ผมรับปากพ่อก็จริงว่าจะแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้น ผมจะแต่งงานกับ อิเล็คตร้า แต่แค่ปีเดียวแล้วผมจะหย่า คุณจำไว้นะ วลาดิมีร์ ว่าผมไม่มีวันรักผู้หญิงที่ผมไม่เคยรู้จักแล้วถูกบังคับให้แต่งงานด้วย!”
“โรดิออน คุณเป็นคนใจร้อนเสมอ อย่าเพิ่งด่วนคิดหรือตัดสินใจในสิ่งที่คุณยังไม่เคยสัมผัส ถ้าวันหนึ่งลูกสาวของท่านยูเชนคอฟสามารถกำหัวใจของคุณได้ คุณจะต้องนึกถึงคำพูดที่เปล่งออกมาในวันนี้จากความเลือดร้อนของคุณ”
“ผมมั่นใจตัวเองเกินร้อยเปอร์เซ็นต์ วลาดิมีร์ ผมคงจะมีเลือดพ่อเข้มข้นถึงได้มองหรือตัดสินใจอะไรไม่ค่อยผิดพลาด การที่ผมยอมแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้นตามเจตจำนงของคุณพ่อ ผมถือว่าหน้าที่ของตัวเองได้สิ้นสุดลงแล้ว ที่เหลือก็อยู่ที่การตัดสินใจว่าผมจะอยู่ในเกมนี้ต่อ หรือจะล้มกระดานมันซะ ทุกอย่างจะได้จบ ๆ ไปซะที!”
โรดิออนเค้นเสียงหนักบอกให้รู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้เขาเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในหลุมมืดและต้องรีบตะเกียกตะกายพาตัวเองออกมาให้เร็วที่สุด ทว่าวลาดิมีร์กลับรู้สึกตรงกันข้าม เขาไม่ได้มีหน้าที่แค่ดูแลการดำเนินกิจการให้เกิดความราบรื่นแก่ทายาทคนเดียวของคีริลเท่านั้น หากด้วยวิญญาณแห่งความภักดีของชายวัยกลางคนที่ติดตามรับใช้ผู้ก่อตั้งแม็กซิมัสจนกลายเป็นมหาอำนาจในธุรกิจค้าเพชรเขายังมีหน้าที่ต้องปกป้องทุกสิ่งทุกอย่างซึ่งตอนนี้อยู่ในกำมือของคนนิสัยไม่เคยลงหัวให้ใครอย่างโรดิออน
“คุณโรดิออน...” วลาดิมีร์เอ่ยขึ้นขณะวางเอกสารมือลงและทอดสายตาฝ่าม่านหิมะปรายโปรยหน้ากระจกของรถที่คืบคลานไปบนถนนอย่างเชื่องช้า
“คุณจะบอกอะไรผมอีก วลาดิมีร์ ถ้าเป็นเรื่องแต่งงานผมก็แค่พาผู้หญิงคนนั้นไปโบสถ์ให้บาทหลวงทำพิธีให้ และก็มีแค่ เรา...ผมไม่อยากเชิญใครแม้แต่คนเดียว!”
“ผมทราบครับ ร็อด แต่เรื่องนี้สำคัญกว่า ก่อนท่านคีริลจะจากไปท่านทิ้งจดหมายปิดผนึกไว้ให้ผมหนึ่งฉบับ ผมให้ทนายประจำตระกูลเก็บไว้ ท่านกำชับว่ามอบให้คุณเปิดผนึกหลังงานแต่งและการจดทะเบียนสมรสกับคุณอิเล็คตร้าสมบูรณ์แล้วหกเดือน”
“งั้นรึ! พ่ออยากให้ผมทำอะไรอีก?”
“เท่าที่ทราบมันไม่ใช่พินัยกรรม แต่ท่านตั้งใจให้คุณอ่านจดหมายฉบับนั้นเพียงคนเดียว”
“หึ! คงเป็นเจตจำนงของพ่อหลังจากนี้ บางทีเรื่องบ้า ๆ นี่อาจยุติหลังจดหมายฉบับนั้นถูกเปิดอ่านก็เป็นได้”
โรดิออนหัวเราะในลำคอและมิได้มีทีท่าใส่ใจต่อเรื่องที่ได้ยินได้ฟังเท่าไหร่เลย ทว่าแวบหนึ่งกลับนึกไปถึงใบหน้าแสนหวานและดวงตาเป็นประกายงดงามคู่นั้น
...ลดา...เธอคงกลับที่พักอย่างปลอดภัย ชายหนุ่มประหลาดใจตัวเองในส่วนลึกว่าไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนในมโนนึกชัดเจนมากเท่านี้มาก่อน
