บทที่ 5 5
หญิงวัยกลางคนในชุดกระโปรงผ้าแคชเมียร์สวมทับด้วยคาร์ดิแกนเนื้อบางกุลีกุจอออกมาจากห้องครัวภายในอพาร์ตเม้นท์ตกแต่งแบบโมเดิร์นสุดหรูซึ่งอยู่ใจกลางกรุงมอสโคเมื่อเห็นหญิงสาวในชุดกระโปรงสวมทับด้วยแจ็คเก็ตกันหนาวและรองเท้าบู๊ทยาวถึงเข่าทำท่าจะเปิดประตูออกไป
“คุณหนู...คุณหนูจะออกไปไหนคะ ข้างนอกหิมะยังตกหนักอยู่เลยนะคะ”
ยูเลียน่ารีบเข้าไปขวางลดาที่ประตูทันทีแต่หญิงสาวกลับแย้มเรียวปากเคลือบสติกสีชมพูอ่อนออกพลางสวมหมวกขนสัตว์ไว้บนศีรษะทำราวไม่มีอะไรน่าตกใจ
“ป้ายูลี่ขา ลดาจะลงไปเดินเล่นข้างล่างสักหน่อย ลดาอยากออกไปดูข้างนอกว่าบ้านเกิดของคุณพ่อเป็นยังไง”
“แต่แขนของคุณหนูยังไม่หายดีนะคะ ถนอมตัวเองสักหน่อยซีคะ อีกไม่กี่วันคุณหนูจะต้องไปพบว่าที่เจ้าบ่าวของคุณหนูแล้วนะคะ”
พอยูเลียน่าท้วงลดาจึงก้มลงมองแขนตัวเองก่อนระบายลมหายใจน้อย ๆ
“เพราะอย่างนั้นไงคะ ลดาถึงอยากสูดกลิ่นไอแห่งอิสรภาพก่อนที่ตัวเองต้องถูกพันธนาการด้วยความต้องการของคุณพ่อ ลดาทำเพื่อท่านทุกอย่างนะคะ แต่ขอเวลาที่ลดาจะได้ทำอะไรเพื่อตัวเองบ้าง มันไม่มากไปใช่มั้ยคะ ป้ายูลี่”
“โถ! คุณหนูของป้า เอาเถอะ...เอาะเถอะ...อย่าออกไปไกลนักนะคะ ถ้ามีอะไรโทรมาหาป้า จำเบอร์ห้องอพาร์ตเม้นท์ของคุณพ่อได้ใช่มั้ยคะ?”
ลดาพยักหน้ารับและกอดจูบแม่นมดังเช่นทุกวันที่ต้องทำตอนเช้าและก่อนเข้านอนเสมอตั้งแต่เล็ก หญิงสาวพาร่างระหงลงลิฟท์จากชั้นบนสุดลงไปถึงชั้นล่างของอพาร์ตเม้นท์ความสูงสิบห้าชั้น แม้จะยังแปลกใจว่าบิดามาซื้อตึกที่อยู่ใจกลางกรุงมอสโคราคาแพงหูดับตับไหม้นี้ได้อย่างไร หากก็คิดในทางบวกเสมอว่าอาจเป็นเงินเก็บออมของชายรัสเซียคนหนึ่งซื้อที่อยู่ไว้เผื่อจะได้กลับมาอีกครั้ง
กรุงมอสโกในยามบ่ายซึ่งมองเห็นเพียงหิมะหล่นลงมาเป็นสายทว่าก็มิอาจบดบังความฟู่ฟ่าของเมืองใหญ่ได้ บิดาของเธอเคยเล่าให้ฟังว่าสมัยสหภาพโซเวียตยังกุมอำนาจ ความเป็นอยู่ของทุกคนถูกจัดสรรเท่า ๆ กันโดยรัฐบาลปกครองระบอบคอมมิวนิสต์ ไม่มีคนรวย ไร้ซึ่งคนจน หากแต่เมื่อทุกอย่างล่มสลาย อุดมการณ์ของรัฐในฝันกลับถูกกลบทับด้วยระบบทุนนิยมซึ่งทุกคนล้วนไฝ่ความมั่งมี ห้องเสื้อแบรนด์เนมและร้านบูติก ช็อปสุดอลังการผุดขึ้นราวดอกเห็ด บนท้องถนนที่การจราจรติดขัดก็จะเห็นรถยนต์พะยี่ห้อแพงลิ่วซึ่งอาจเป็นของนักธุรกิจหรือพวกมาเฟียนิยมของหรูราคาไม่ต่ำกว่าล้าน คืนวันอันผุพังเก่ากร่อนมิได้ถูกบั่นทอนหากแต่ฉาบทาด้วยสีสันอันรุ่มรวยของรัสเซียใหม่ตระการตาไปทุกหนแห่ง หญิงสาวเดินห่างจากอพาร์ตเม้นท์มาได้ไม่ไกลก็ต้องหยุดกึกเมื่อรถบีเอ็มดับเบิ้ลยูสีดำเป็นมันปลาบแล่นเข้ามาเทียบริมฟุตบาทและเธอได้ยินเสียงของใครบางคนเมื่อกระจกอาบฟิล์มถูกลดลงจนหมด
“ลดา...คุณจะไปไหน?”
คนถูกเรียกมองเข้าไปก็ใจเต้นระส่ำขณะพึมพำอย่างลังเล “โรดิออน”
“ขึ้นมาก่อนเถอะครับ ข้างหลังรถติดมากเลย” ร่างสูงใหญ่หลังพวงมาลัยเชิญชวนและหญิงสาวก็ชักช้าอยู่ไม่ได้จึงตัดสินใจดึงประตูและก้าวขึ้นไปนั่งบนเบาะข้างคนขับก่อนโรดิออนจะบังคับให้รถเคลื่อนออกไป
“ร็อด...คุณรู้ได้ยังไงว่าเป็นฉัน” ลดาเอ่ยถามขณะถอดหมวกขนสัตว์ออกมาปัดรอยหิมะและมองไปยังบุรุษที่นั่งข้าง ๆ วันนี้เขายังคงหล่อกระชากใจในชุดเสื้อยืดสวมทับด้วยแจ็คเก็ตขนสัตว์ตัวใหญ่และกางเกงหนังสีดำด้าน
“ผม...เอ้อ...ผ่านมาทางนี้ พอดีเจอคุณ” โรดิออนกล่าวตอบทั้งที่สายตาคู่นั้นจับจ้องไปยังถนนสายการจราจรคับคั่ง เขาคงบอกเธอไม่ได้ว่า...วันนี้ตั้งใจผ่านมาทางที่ราฟาอิลคนสนิทบอกชายหนุ่มว่ามาส่งผู้หญิงที่เขาทำให้เธอบาดเจ็บตรงส่วนไหนของมอสโก เขาก็แค่อยากเห็นว่าเธอจะออกมาเดินแถวนี้บ้างไหม ซึ่งก็ช่างโชคดี เธอออกมาที่นี่จริง ๆ
“ยังเจ็บแขนมากอยู่หรือเปล่า?...แล้วทำไมออกมาเดินคนเดียวล่ะครับ?”
“ฉันแค่อยากออกมาเดินเล่นน่ะค่ะ วันนี้หิมะไม่ได้ตกหนักอย่างเมื่อวาน ดีจังนะคะ”
“ครับ...หิมะอาจจะเบาลงบ้างในบางวัน แต่รถติดนี่สิทำยังไงก็ไม่เบาลงเลย...คุณมาจากเมืองไทยใช่ไหมครับ?”
“อ๋อ...ใช่ค่ะ”
ลดาเสยผมที่ปล่อยสยายและยิ้มกลบเกลื่อน เธอยังไม่กล้าเปิดเผยตัวเองเลยว่าเธอเป็นใครและวาจาที่เตรียมใช้ในการต่อรองขอยกเลิกงานแต่งก็ดูเหมือนจะถูกผนึกไว้ในกล่องคำพูด หญิงสาวไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงและเพียงอยากรู้ว่าเขาเป็นเช่นไร จึงต้องปกปิดสถานะแท้จริงด้วยยังกริ่งกลัว
“เมืองไทยมีหิมะตกอย่างรัสเซียหรือเปล่า ผมไม่เคยไปเลยสักครั้ง”
“ประเทศของฉันอยู่ในเขตร้อน อากาศไม่หนาวถึงขนาดนี้หรอกค่ะ มากสุดก็แค่น้ำค้างแข็ง ที่สำคัญฉันเพิ่งมามอสโกเป็นครั้งแรก”
“หรือครับ?...ไม่นึกเลยนะครับว่าวันนี้เราจะได้พบกันอีก ถ้าคุณไม่เคยมามอสโกก็อย่าแค่เดินเล่นเลย...อืม...จะรังเกียจไหมครับถ้าผมจะขอไถ่โทษที่ทำให้คุณบาดเจ็บด้วยการเป็นไกด์พาคุณเที่ยววันนี้?”
