บทที่ 5 เทพบุตร
หลายวันผ่านไป...
“.....” ภูผาที่วันนี้ไม่มีเรียน เขามานั่งรอน้ำอุ่นที่หน้าโรงเรียนวัด หลังจากที่วันนั้นก็ไม่ได้เจอหน้าเธอ ได้เพียงแค่โทรหา แต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่สะดวกที่จะคุย เขาเลยตัดสินใจขับ แลมโบกินี (Lamborghini) สีแดงสดคู่ใจที่คนเป็นพ่อซื้อให้เพื่อเป็นของขวัญวันเกิดเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา จอดรอเธอที่หน้าโรงเรียน
“อุ่นๆๆ ดูผู้ชายคนนั้นสิ เธอหล่อมากกกก” ปูเป้ที่เดินออกมาเอ่ยขึ้น ดวงตาเธอเป็นประกายเมื่อเห็นหนุ่มหล่อยืนก้มหน้าหลังพิงรถ จนเผลอบีบมือเพื่อนอย่างน้ำอุ่น ที่เดินออกมาด้วยกันแรงๆ อย่างเขินอาย
“จริงแก หล่ออย่างกับเทพบุตร ว่าแต่เขามาทำอะไรที่หน้าโรงเรียนเรา?” กอหญ้า เพื่อนอีกคนที่เดินมาด้วยก็อาการไม่แตกต่างจากปูเป้ เป็นใครจะไม่เขินอายเมื่อมีคนหล่ออยู่หน้าโรงเรียน อีกทั้งตอนนี้เขามองมาที่สามสาวตาไม่กะพริบ
“.....” มีเพียงน้ำอุ่น ที่ได้แต่กลืนน้ำลายเหนียวลงคอ อยู่ๆ แขนขามันก็ชาจนก้าวไม่ออก
“เธอๆๆๆ เขามองมาทางนี้ด้วย หรือว่าเขาจะชอบฉัน อร๊าย!!” ปูเป้จิกแขนน้ำอุ่น จนเป็นรอย
“หลงตัวเอง หล่อรวยแบบนั้นเขาจะมาสนใจอะไรกับเด็กจนๆ อย่างพวกเรา แต่ถ้าแอบชอบฉันก็ว่าไปอย่าง” กอหญ้าเอ่ยขึ้น มองหน้าเพื่อนอย่างดูถูก
“ชอบเธอ ฮึ...อ้วนอย่างกับหมู ตัวก็ดำเขาคงชอบตายแหละ ต้องอย่างฉันรูปร่างอย่างกับนางแบบ ถึงผิวจะไม่สวยเหมือนน้ำอุ่น แต่.... ฉันก็สวยกว่าเธอ!” ปูเป้สวนกับกอหญ้าทันที มีอย่างที่ไหนคนกำลังฝันหวาน ไม่ให้กำลังใจแล้วยังจะมาดับฝันกันอีก ยัยเพื่อนบ้า!
ตึก ตึก ตึก
ยิ่งภูผาเดินเข้ามาใกล้เท่าไหร่ หัวใจดวงน้อยของน้ำอุ่นก็ยิ่งเต้นแรงแทบทะลุออกมา ทุกอย่างรอบๆ ตัวเธอ มันเหมือนถูกสะกด หยุดนิ่งไม่มีการเคลื่อนไหว
“กรี๊ด!!!แกๆๆ ใครอะ โคตรหล่อ ดูก็รู้ว่ารวยมาก” สาวๆ ที่อยู่แถวนั้นต่างซุบซิบนินทาพูดสรรเสริญเยินยอ หนุ่มหล่อรูปร่างสูงแน่น ความหล่อเขาเปล่งประกายแผ่รัศมี ผิวขาวใสราวหิมะ ใบหน้าหล่อคม คิ้วหนาได้รูป สูงลิ่วอย่างกับนายแบบ
ถ้าบอกว่าหลุดออกมาจากเทพนิยายก็คงไม่เกินจริง เพราะยิ่งเห็นใกล้ๆ ความหล่อเขายิ่งแรงกล้า ถึงจะดูนิ่งขรึม แต่นั่นมันยิ่งเพิ่มเสน่ห์ให้เขาดูน่าหลงใหลน่าค้นหา
“อึก” น้ำอุ่นตอนนี้ได้แต่ยืนนิ่งตัวเกร็ง แทบจะหยุดหายใจ เหงื่อเม็ดเล็กไหลซึมเต็มใบหน้าหวาน ยิ่งสายตาเย็นชาคู่นั้นที่ทอดมองตรงมาที่เธอ มันยิ่งแทบจะเป็นลมล้มพับไปซะตอนนี้
ทั้งๆ ที่อยากจะเดินหนี แต่ขามันกลับก้าวไม่ออก ได้แต่ยืนเกร็ง มองเขาด้วยหัวใจที่สั่นไหว ขนาดเพื่อนจิกแขนจนเป็นรอยเธอยังไม่รู้สึกเจ็บ
“แก!!!” ปูเป้ถึงกับกรีดร้องในใจ เก็บอาการไม่อยู่เมื่อภูผาเดินเข้ามาใกล้ก่อนจะหยุดอยู่ตรงหน้าพวกเธอ
สองสาวปูเป้ กอหญ้า ถึงกับอ้าปากค้างอึ้งตะลึงกับความหล่อของเทพบุตรตัวเป็นๆ ตรงหน้า จนน้ำลายแทบไหล มีเพียงน้ำอุ่นที่ได้แต่ยืนก้มหน้าหลบสายตาเย็นชาคู่นั้น
“เฮือก!!” ร่างเล็กถึงกับสะดุ้งตกใจแรง เมื่อใบหน้าหล่อคมโน้มเข้าไปกระซิบ
“ทำไมไม่รับสาย”
“.... คือ...คืออุ่น” ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่น จะพูดยังไงดี ก็ตอนที่เขาโทรมาเธอช่วยครูทำงานอยู่ เลยไม่กล้ารับสาย
ปูเป้ กอหญ้า และสาวๆ คนอื่นที่อยู่บริเวณนั้น ตอนนี้พวกเธอได้แต่มองเขาด้วยสายตาที่ชื่นชมเพ้อฝัน เคลิบเคลิ้มไปกับความหล่อเหลา จิตใจลอยล่องไม่ต่างอะไรกับคนที่วิญญาณได้หลุดลอยออกจากร่างไปแล้ว
หมับ!!
ภูผาไม่สนใจว่าใครจะมองยังไง ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น เพราะในสายตาเขามีแค่เธอคนนี้คนเดียว เมื่อเห็นอีกฝ่ายทำท่าอึกอัก ฝ่ามือหนาคว้าจับมือเล็กเดินตรงไปที่รถทันที ท่ามกลางความงุนงงสงสัยของเพื่อนๆ แต่มันก็ไม่ทันแล้วเมื่อหนุ่มหล่อได้ลักพาตัวเพื่อนตัวน้อยของพวกเธอออกไปไกลแล้ว
“ดะ.... เดี๋ยวจะพาอุ่นไปไหน” คนตัวเล็กเดินถลาไปกับแรงจูง แต่ภูผากลับเงียบ
“......”
“ภูผา” น้ำอุ่นเอ่ยเสียงแผ่วเบา เมื่อเขาพาเธอมาถึงรถ
“ขึ้นรถ” เขาเอ่ยเสียงเย็น เปิดประตูให้เธอ
“แต่...” น้ำอุ่นมองไปที่กลุ่มเพื่อนที่กำลังวิ่งตามมา สลับกับมองหน้าคนตรงหน้าอย่างกังวล
“อย่าดื้อ ขึ้นรถ” ภูผาเริ่มรู้สึกหงุดหงิดเมื่อเธอไม่เชื่อฟัง
“....” เฮ้อ... น้ำอุ่นทำได้เพียงถอนหายใจ แต่ก็ต้องยอมทำตามที่เขาบอก ภูผาเองก็ได้แค่ถอนหายใจ ทั้งๆ ที่ไม่ได้อยากจะหงุดหงิดใส่เธอ แต่เขาก็ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เขาไม่ชอบเลยที่เธอต่อต้านแบบนี้ ก่อนจะเดินอ้อมไปขึ้นรถ
“เฮือก!!” ดวงตากลมโตเบิกกว้าง เมื่อเขายื่นหน้าเข้าใกล้ ใกล้จนปลายจมูกโด่งแทบจะชนกับแก้มใส
“ตกใจอะไร แค่คาดเข็มขัด”
“....” น้ำอุ่นตอนนี้เธอทำได้แค่เพียงนั่งนิ่งตัวแข็งทื่อ กลั้นหายใจเมื่อมือหนาเอื้อมไปดึงสายนิรภัย ก่อนจะคาดให้เธอ แต่เขากลับไม่ยอมขยับใบหน้าหล่อๆ นั้นหนี กลับเอาแต่จ้องหน้าเธออยู่แบบนั้น
“ภูผา....” มือเล็กทั้งสองข้าง ผลักดันอกแกร่งเมื่อเขาขยับเข้าใกล้กว่าเดิม พร้อมกับเอียงหน้าหนี
“อย่าหนีเรา” คนตัวโตเอ่ยเสียงกระซิบแผ่วเบา กดริมฝีปากนุ่มๆ ลงบนแก้มใสหนักๆ ให้หายคิดถึง
“เราแค่อยากคุยด้วย” เขายังคงกดปลายจมูกไว้บนแก้มใส ไม่ยอมถอยห่าง
“อุ่นไม่ได้หนี แต่นี่มันหน้าโรงเรียนนะ” เธอค่อยๆ เอียงหน้าไปสบตา ขอร้องอ้อนวอนเขา ถ้าเกิดมีใคร หรือครูมาเห็นเข้า เธอจะทำยังไง
“.....” ภูผาเงียบ มองเธออยู่แบบนั้น สายตาเย็นชาคู่นั้นมันแฝงไปด้วยอารมณ์ห่วงหา ไฟปรารถนาจนทำให้อีกฝ่ายเริ่มอึดอัดหายใจติดขัด แก้มสองข้างแดงเถือกขึ้นมาทันที
“ทำไมเธอไม่ผลักเขาออกไป ทำไมเธอต้องยอมเดินตามเขาขึ้นรถมาด้วย ทำไมเธอไม่วิ่งหนี ทำไม ทำไม ทำไม” แต่มันก็เป็นแค่คำถามในใจ น้ำอุ่นได้แต่มองสบตาเย็นชาคู่นั้น ทันทีที่มองสบตาเขาเธอก็เหมือนกับโดนสะกดจิต
เมื่อริมฝีปากนุ่มๆ แตะลงบนกลีบปากเล็กนุ่มสีชมพู เขาจูบดูดเม้มริมฝีปากบนสลับล่างอย่างเอาแต่ใจ
“ภูผา” คนตัวเล็กเอ่ยเสียงแผ่วเบาในลำคอ สองมือจิกกำคอเสื้อเขาไว้แน่น เมื่อเขาไม่ยอมหยุดกลับบดขยี้ริมฝีปากเธอหนักๆ
งับ!
“ฮื่อ” คนตัวเล็กถึงกับนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ เมื่อเขางับกัดริมฝีปากเธอ ถึงมันจะไม่ได้แรงมาก แต่มันก็เจ็บอยู่นะ
“......” ภูผายังคงนิ่งเงียบ ค่อยๆ ผละริมฝีปากออกอย่างอ้อยอิ่ง มองหน้าคนตัวเล็กตรงหน้าอย่างตัดใจ ก่อนแลมโบกินีคันหรูจะขับออกไปด้วยความเร็ว....
