บทที่ 8 Chapter 8

Chapter 8

ดูเหมือนว่าณดลจะเข้าใจมารดา เด็กชายรับคำผู้เป็นแม่ ทว่าสายตายังไม่ละห่างจากโมเดลการ์ตูนซูเปอร์ฮีโร่เหล่านั้น ภาพและคำพูดของสองแม่ลูกตกอยู่ในสายตาของชายคนหนึ่งที่เดินเข้ามาในบ้าน ซึ่งเขาเองก็จำได้ดีว่า สองคนนี้คือใคร

“เธอกับลูกมาทำอะไรที่นี่”

ดารากานต์หันมามองเจ้าของเสียงเข้มที่ยืนกอดอกอยู่ตรงประตูบ้าน ก่อนที่เขาจะเดินเข้ามาหาเธอ

“แล้วคุณล่ะมาทำอะไรที่นี่ ตอนนี้เวลางานไม่ใช่เหรอ ทำไมไม่ไปทำงาน มายืนอู้งานอยู่ตรงนี้ได้ยังไง เสียแรงที่นายเหมืองดีกับคุณ แต่คุณกลับทำงานไม่เต็มที่ อย่างนี้ต้องไล่ออกสถานเดียว”

ดารากานต์ตอบไม่ตรงคำถาม หนำซ้ำยังต่อว่าเขาชุดใหญ่ เธอไม่คิดว่าจะเจอคนไม่มีมารยาทที่นี่ ทั้งที่ในใจก็หวั่นๆ ตั้งแต่เห็นรถจี๊ปคันนั้นจอดอยู่หน้าบ้าน

พยัคฆ์มองหน้าคนที่ต่อว่าเขาฉอดๆ หลุบตามองปากจิ้มลิ้มที่เขาคิดว่า มันน่าจูบเสียเหลือเกินชั่วขณะหนึ่ง ก่อนจะเลื่อนสายตามองดวงตาคู่หวานที่ตรึงใจเขาอย่างบอกไม่ถูก

“ก็ไม่อยากทำตอนนี้ มีอะไรไหม” เขาตอบกวนกลับ “เธอยังไม่ตอบคำถามฉันเลยนะว่า เธอมาทำอะไรที่นี่”

“ฉันมา...” เสียงของดารากานต์พูดค้าง เมื่อเสียงของโก๋ดังแทรก และเป็นประโยคคำพูดที่ทำให้ร่างเล็กชาวาบ ความตกใจเคลือบอยู่บนแววตา ใบหน้าและความรู้สึก ดวงใจดวงน้อยเต้นถี่แรง ความกลัวอย่างหนึ่งวิ่งแล่น ความกลัวที่ว่านั้นคือ กลัวโดนไล่ออกทั้งที่ยังไม่ได้เริ่มงาน

“อ้าว...นายเหมืองอยู่นี่เอง นึกว่านอนหลับอยู่ข้างบนซะอีก” โก๋ทักเจ้านาย ขณะที่ก้าวลงมาตามบันได

“ออกไปสูบบุหรี่มา” พยัคฆ์ตอบ

“ผมพาดาวพนักงานบัญชีคนใหม่มาแนะนำตัวให้นายเหมืองทราบครับ เธอกับลูกเพิ่งมาถึงเหมืองตอนสาย แล้วจะเริ่มงานพรุ่งนี้ครับ” เป็นปกติที่โก๋ทำเช่นนี้ แม้ว่าเขาจะมีสิทธิ์ขาดรับคนงานได้โดยตรง แต่ก็ต้องพามารู้จักเจ้านาย “ดาว นี่ไงนายเหมืองพยัคฆ์ เจ้านายของเรา”

“สวัสดีค่ะนายเหมือง”

ดารากานต์ยกมือไหว้พยัคฆ์อย่างนอบน้อม กล่าวคำทักทายอย่างเป็นทางการเสียงอ่อน เด็กชายณดลเห็นมารดาไหว้ก็ไหว้ตามอย่างน่าเอ็นดู

“อ๋อ พนักงานบัญชีคนใหม่นี่เอง” คนพูดกระตุกยิ้ม มองสาวหน้าสวยที่เวลานี้หน้าซีดเผือดและหลบสายตาของเขา “นึกว่าลูกเมียฉันที่หลงลืมซะอีก”

ดารากานต์หน้าซีดหนักขึ้นเมื่อได้ยินประโยคท้ายของพยัคฆ์ ตอนนั้นเธอไม่ได้ตั้งใจกล่าวอ้างสักนิด เป็นเพราะความโมโหแท้ๆ ถึงได้พลั้งปากเอ่ยไปเช่นนั้น แต่จะว่าไป เธอก็ไม่ได้ผิดคนเดียว เพราะหากเขาขอโทษ เรื่องมันก็จบ

อีกเรื่องหนึ่งคือ โก๋ยกย่องพยัคฆ์ไว้หลายอย่าง ดารากานต์ไม่คาดคิดว่า ผู้ชายนิสัยไม่ดี มารยาททราม โลมเลียมเธอด้วยสายตาเจ้าชู้ที่เจอตอนสายจะเป็นเจ้านายของตน

“นายเหมืองว่าอะไรนะครับ” โก๋สะดุดหูขึ้นมาทันใด

“เปล่า ไม่มีอะไร” พยัคฆ์ปัด “เธอกับลูกกลับไปพักผ่อนที่ห้องได้แล้ว ส่วนเอ็งตามข้ามา”

เจ้าของบ้านสั่งเสียงเฉียบ ดารากานต์นึกชะตากรรมของตัวเองออก เธอคงถูกไล่ออกแน่ๆ เขาคงไม่ปล่อยให้คนที่ต่อว่าต่อขานเขาทำงานด้วยแน่นอน ความหนักใจต่อมาคือ เธอกับลูกจะไปอยู่ที่ใด ความรู้สึกของดารากานต์ตอนนี้ รู้สึกราวกับว่า โลกนี้ช่างมีสีเทาเสียเหลือเกิน

“อ้อ เดี๋ยว” ก่อนที่เธอจะหมุนตัวเดินคอตกไปยังประตูบ้าน เสียงเรียกของพยัคฆ์ทำให้เธอหันมามองเขา “ลูกชายเธอชื่ออะไร”

“ณดลค่ะ ชื่อเล่นชื่อตามค่ะ”

“ตาม มานี่ซิ” พยัคฆ์เรียกเด็กชายที่ก้าวเดินไปหาร่างหนา เขาย่อตัวลงนั่งยองเมื่อณดลเข้ามาใกล้ “อยากได้หุ่นในตู้ไหม” เขาชี้ไปยังโมเดลที่สะสมไว้ในตู้โชว์

“อยากได้ครับ” ความใสซื่อตามประสาเด็ก ส่งผลให้ณดลตอบออกไปทันที

“ชอบตัวไหนก็หยิบไปตัวหนึ่งนะ ลุงให้”

เขาเปิดประตูตู้โชว์ของสะสม ให้ณดลเลือกโมเดลได้ตามใจชอบ เด็กชายยิ้มกว้างอย่างดีใจที่จะได้ของเล่นที่ตนหมายตา

แต่ผู้ใหญ่อีกสองคนถึงกับยืนอึ้ง โก๋รู้ดีว่า โมเดลในตู้โชว์ตู้นี้นายเหมืองสุดโหดหวงมากแค่ไหน เนื่องจากเป็นของสะสมมาตั้งแต่เด็ก บางตัวมีอายุถึงยี่สิบปี เขาอยู่ที่นี่มานาน ยังไม่เคยได้สัมผัสหุ่นจำลองเหล่านั้นเลย ถือเป็นเรื่องน่าแปลกมากที่พยัคฆ์เอ่ยปากให้ของรักของหวงกับเด็กชายที่เจอหน้าเป็นครั้งแรก ประการสำคัญคือ แม้ว่าพยัคฆ์จะใจดี มีเมตตากับคนในบริวาร ทว่าพยัคฆ์กลับไม่ชอบเด็ก แต่ภาพที่โก๋เห็น ไม่ว่าจะเป็นความใจดีและรอยยิ้มของพยัคฆ์ ช่างเป็นเรื่องที่ผิดนิสัยพยัคฆ์จริงๆ

โดยเฉพาะดารากานต์ เธอไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองว่า พยัคฆ์ใจป้ำให้บุตรชายของเธอเลือกหยิบโมเดลที่มีราคาค่อนข้างสูง ซึ่งไม่ต้องบอกก็รู้ว่า เป็นของสะสมราคาแพงที่เจ้าของน่าจะหวงไม่น้อย

ความอยากได้เป็นทุนเดิม ทำให้ณดลหยิบโมเดลซูเปอร์แมนออกมาจากตู้ มากอดไว้กับอก

“ขอบคุณครับ”

โดยที่ดารากานต์ไม่ต้องบอก ณดลวางของเล่นทั้งตัวเก่าและใหม่ลงบนพื้น พนมมือไหว้ขอบคุณผู้ใหญ่ใจดี ตามคำสอนของคนเป็นแม่ที่สอนเสมอว่า ใครให้ของก็ต้องขอบคุณ

เป็นอีกภาพหนึ่งที่โก๋ไม่เคยเห็นบ่อยนัก ภาพนั้นคือ รอยยิ้มของพยัคฆ์ที่แสดงให้เห็นถึงความอ่อนโยน มือใหญ่ของเจ้าของเหมืองวางลงบนศีรษะเด็กชาย แล้วขยี้เบาๆ อย่างเอ็นดู

“เธอพาลูกไปได้แล้ว ไอ้โก๋ตามกูมา”

พยัคฆ์ลุกขึ้นยืน ก้าวเดินไปยังห้องทำงานโดยมีโก๋เดินตามไป ส่วนสองแม่ลูกก็เดินจูงมือกลับไปยังห้องพักของตน ในสมองน้อยๆของดารากานต์ คิดถึงแต่เรื่องอนาคตของตนเองและลูก

คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวตั้งใจจะตั้งหลักปักฐานทำงานที่นี่ สถานที่ที่ฝ่ายอดีตสามีจะไม่มาตามราวีตนได้อีกต่อไป ทว่าเห็นทีจะเป็นเพียงแค่ความคิดเท่านั้น เพราะในความเป็นจริง ดารากานต์อาจจะโดนไล่ออก ย้ายออกไปจากเหมืองแห่งนี้

บทก่อนหน้า
บทถัดไป