บทที่ 4 จุดเริ่มต้น
จุดเริ่มต้น
“เพราะหนูนิดใช่ไหมครับ น้าวิภาถึงได้ตาย”
ชัชนนท์ถามตามความสงสัยของเขา เพราะถึงเขาจะโตแล้ว แต่ก็มีอายุแค่เพียงสิบสามปี ยังทำใจกับการสูญเสียที่มันเกิดขึ้นกับชีวิตเขาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้วไม่ได้
“ชัชหลานจะคิดแบบนั้นไม่ได้ หนูนิดเขาจะทำให้แม่เขาตายเพื่ออะไร ทุกอย่างมันเป็นกรรม ที่ทุกคนต้องเจอ ”
คุณปู่พยายาอธิบายเหตุผลให้หลานชายคนเดียวของเขาเข้าใจ
“คนที่น่าสงสารที่สุดตอนนี้ คือหนูนิดนะลูก น้องไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครเป็นพ่อ พอเกิดมาแม่ก็มาตายอีก”
คนแก่วัยหกสิบปีต้องเลี้ยงดู เด็กถึงสองคน โดยที่ทั้งคู่เป็นเด็กกำพร้าไม่ต่างกัน อีกคนเป็นหลานแท้ๆแต่อีกคนเป็นหลานสาวที่คุณปู่อย่างเขาพร้อมดูแล
“ส้มแกต้องช่วยฉันนะ เหลือกันแค่นี้แล้ว”
การดูแลเด็กแรกเกิด ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย สำหรับคนอายุขนาดนี้ ดีที่ยังมีส้มคนรับใช้ใหม่อยู่อีกคน
“ไม่ต้องห่วงค่ะคุณท่าน น้าวิภามีพระคุณกับส้มเหมือนกัน ส้มจะดูแลหนูนิดให้ดีที่สุดเลยค่ะ”
“แล้วอย่าดูแลจนลืมผมนะ” ชัชนนท์พูดแซงขึ้นมาเพราะกลัวจะถูกลืม
“พี่ส้มไม่มีทางลืมคุณชัชแน่ๆ ส่วนคุณชัชก็ต้องช่วยพี่ส้มดูแลหนูนิดด้วยนะคะ”
“แล้วใครจะไปนอนกับผม”
ปกติแล้ว วิภาจะไปนอนกับชัชนนท์จนกว่าเขาจะหลับแล้วถึงลงมา หรือบางครั้งก็นอนด้วยจนเช้า
“ถ้าจะให้พี่ส้มไปนอนด้วย คุณชัชต้องห้ามรำคาญเสียงน้องร้องนะคะ”
ตามประสาเด็กทารก หิวก็ร้อง ปวดท้องก็ร้อง ส้มกลัวเจ้านายน้อยของเขาจะรำคาญเอา
“ผมไม่รำคาญครับ เดี๋ยวผมช่วยชงนม พี่ส้มต้องสอนก่อนนะ”
ชัชนนท์เดินไปหาน้องสาวคนใหม่ ที่นอนหลับสนิทอยู่ในเปล
“อย่าดื้อนะ ถ้าโตแล้วดื้อจะจับหักคอเลย”
พี่ชายคนใหม่ ไม่รู้จะพูดอะไรกับเด็กน้อยที่นอนไม่รู้เรื่องอยู่ในเปล จึงแกล้งดุแก้อาย
“ถ้าพี่ชายไม่พาดื้อ น้องมันก็คงไม่ดื้อ เป็นพี่แล้วนะต้องดูแลน้องให้ดี”
วันเวลาผ่านไปทุกวัน คุณปู่รู้ตัวดี ว่าเขาคงอยู่กับหลานทั้งสองไปไม่ได้ทั้งชีวิต เขาจึงอยากให้ทั้งคู่รักกัน
“น้องร้องไห้ตลอดเลย น้องเป็นอะไรหรือเปล่าครับ”
ชัชนนท์แทบไม่ได้นอน เพราะหนูนิดร้องลั่นบ้าน นมก็ไม่ยอมกิน เอาแต่ร้องไห้
“หนูนิดเป็นอะไรล่ะส้ม”
คุณปู่ทนไม่ไหวเพราะเสียงดังจนลั่นบ้าน อดเป็นห่วงไม่ได้ เพราะทุกคืนก็เห็นร้องแค่ไม่นาน
“เอามานี่เดี๋ยวฉันลองอุ้มไปเดินรับลมข้างนอกสิ เผื่อจะไม่สบายตัว”
เมื่อสามคนปู่หลานหมายถึงชัชนนท์อีกคน พากันไปเดินสนามหญ้าหน้าบ้าน เพียงแค่ไม่กี่นาที หนูนิดก็เงียบเสียงทันที
“ปู่ครับ ลองเอานมให้น้องกิน น้องจะได้หลับ”
ชัชนนท์ทำหน้าที่พี่ชาย เดินถือนมลงมาด้วย พอได้นมเข้าปากหนูนิดก็หลับอยู่ในอ้อมแขนของคุณปู่ที่แสนใจดี
หลังจากวันนั้น ถ้าหนูนิดงอแงวันไหน ไม่ต้องถึงมือคุณปู่แล้ว ชัชนนท์ทำหน้าที่อุ้มน้องออกมาเดินเล่นเอง เพราะตอนนี้หนูนิดเริ่มคอแข็งอุ้มง่ายกว่าตอนแรกมาก
วันนี้เป็นวันแรกของการใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยของชัชนนท์ เขากลายเป็นชายหนุ่มหล่อ ที่สาวๆพากันหมายปอง
และยังเป็นวันแรกของการเข้าเรียนในชั้นประถมศึกษาปีที่หนึ่งของหนูนิด
“พี่ชัชหล่อจังเลยค่ะ”
หนูนิดเดินมากอดขาพี่ชาย ที่ตัวสูงกว่าเธอมาก ชัชนนท์ก้มลงมาอุ้มน้องสาวขึ้นมากอด
“พี่ต้องไปอยู่หอแล้ว จะพยายามกลับบ้านบ่อยๆ ห้ามดื้อกับคุณปู่นะ”
นักศึกษาปีหนึ่งทุกคน จะต้องไปอยู่หอของมหาวิทยาลัย ชัชนนท์ก็ต้องไปอยู่เหมือนกับคนอื่น ถึงแม้จะไม่อยากไปก็ตาม
“แล้วใครจะสอนการบ้านหนูนิดคะ”
เด็กน้อยไม่อยากให้พี่ชายไปอยู่หอเลย เพราะเธอกลัวไม่มีเพื่อนเล่น ไม่มีคนสอนการบ้าน
“พี่ส้มก็สอนได้” พี่ชายอธิบาย
“แต่พี่ส้มเล่นขี่ม้ากับหนูนิดไม่ได้” เด็กน้อยยังไม่ยอม
“ก็เล่นกับคุณปู่ไง” ชัชนนท์แกล้งพูด
