บทที่ 6 มุ่งร้าย
เขาปรายตาไปยังนักแสดงกิตติมศักดิ์ เห็นทาเคชิกดสาวสวยคนหนึ่งลงนอนหงายบนเบาะแล้วเข้าประกบ จรดจ่อแกนกายกลางช่องทางแห่งอิสตรี ถูไถไสเสือกแกนกายหยอกเย้าสาวเจ้าให้ร้องครวญคราง สาวอีกคนถูกสั่งให้นอนลงข้างกัน ใช้มือบดขยี้กับความอวบอิ่มเกลี้ยงเกลา สองสาวต่างส่งเสียงครวญคราง ภาพตรงหน้าหาได้ทำให้เขารู้สึกรู้สา ขณะที่สาวน้อยคงทนไม่ไหว หลุบตาลงต่ำ แดงก่ำตั้งแต่แก้มลงมาถึงเนินอก เขามองเธอ รุมๆ ในอก รื่นรมย์ที่ได้เห็นอาการของเธอมากกว่าหนังสดตรงหน้าเสียอีก
จับคางมนหันหน้าแดงปลั่งมาหา แนบปากปิดปาก รวบร่างเล็กขึ้น ออกมาจากห้องโดยมีพนักงานช่วยเปิดประตูให้อย่างรู้หน้าที่ หากนั่นก็ยังทันได้ยินเสียงหวีดร้องของสาวสวยแว่วดังตามมา
ทันทีที่ถูกวางลงยืนในห้องหนึ่ง อรนลินขาสั่นไม่ต่างกับหัวใจที่เต้นระส่ำอาจจะเข่าทรุดกระแทกพื้นหากไม่มีมือใหญ่ฉวยแขนดึงตัวไว้ อารามตระหนกกับสิ่งที่ประเดประดังเข้าใส่ทำให้ลืมตัวตวัดตาขุ่นมองหน้าคมดุของคนที่หิ้วปีก รวบแรงน้อยนิดขืนตัวออกห่าง กวาดมองรอบห้องอย่างระแวดระวัง เธอถูกวางลงข้างโต๊ะทำงานตัวใหญ่ โซฟาอีกด้านคุณผู้ช่วยผิวเข้มกำลังจิบเบียร์กระป๋องท่าทางสบายใจ พอเห็นเธอเขาพยักพเยิดหน้าไปทางโซฟาซึ่งมีถุงกระดาษวางอยู่
“เสื้อผ้าเธอ”
ไม่รอให้พูดซ้ำ เธอแทบจะพุ่งเข้าไปคว้าถุงเข้าห้องน้ำ ทันได้ยินเสียงหัวเราะของคนบนโซฟา
ปฏิพัทธ์ปรายตาคมดุมองผู้ช่วยขณะเดินไปทิ้งตัวลงบนโซฟายาวตัวใหญ่ รับกระป๋องเบียร์ที่เปิดเรียบร้อยจากมือคนสนิทมาดื่ม
“หน้าตาดูสนุกนะครับหัวหน้า”
“หน้าสนุกมันเป็นไงวะ ไหนมึงชอบพูดว่ากูมีหน้าเดียว”
เวลาอยู่กันตามลำพัง ภาษาที่คุยจึงไม่พิถีพิถันนักถึงแม้ชลวัสจะอายุมากกว่าสองปีก็ตาม
“โธ่... หัวหน้าก็ เล่นดักทางไว้แบบนี้แล้วไอ้ชลจะไปไงดีล่ะ”
ปากมันพูดแบบนั้นแต่ตามันปรายไปทางประตูห้องน้ำที่ปิดสนิทบ่อยๆ ยังดีที่เขาไม่ได้จูบเด็กนั่นแล้วตอนเข้ามา
“ไอ้สองคนนั่น”
“ให้คุณชาติจัดการแล้วครับ เสร็จงานแล้วเรากลับเลยไหมครับ”
“ยัง”
กลับ... ของชลวัสหมายถึงกลับไปประจำที่ทำงานปกติของพวกเขา อยู่ในจังหวัดติดทะเลแห่งหนึ่ง
ปฏิพัทธ์ยกเบียร์ขึ้นดื่ม นึกถึงสถานที่ทำงานปกติ ที่นั่นมีโรงแรมหรูริมทะเล ไม่ไกลกันนั้นมีสนามแข่งรถและผับริมทะเลและกาสิโนบนเกาะห่างจากชายฝั่งอยู่ในเขตประเทศเพื่อนบ้าน มันคือที่ที่นักเที่ยว นักเสี่ยงโชคและนักซิ่งกระเป๋าหนักเข้ามาวัดความเร็วและความรวยกัน คนที่จะเข้าไปใช้บริการได้ต้องจ่ายค่าสมาชิกรายปีมูลค่าสามแสนบาท นอกจากนี้ยังมีธุรกิจเงินกู้ด้วย
“อย่าลืมแจ้งพี่กรเรื่องสัญญา”
“จัดการเรียบร้อยแล้วครับ บิ๊กบอสต้องตกรางวัลหัวหน้าอย่างงามแน่ๆ ได้สัญญามูลค่าเฉียดพันล้านแบบนี้”
หึ! เขาแทบไม่ได้ทำอะไร แค่นั่งมองไอ้หมอนั่นโชว์ของ งานน่าเบื่อด้วยซ้ำ ยังดีที่มีสาวน้อยตัวนุ่มอยู่ด้วย คิดขึ้นมาก็อดกระตุกมุมปากไม่ได้ เธอกล้าดีมาจากไหนกัน เข้ามาทำงานที่นี่ทั้งๆ ที่จูบยังไม่เป็นด้วยซ้ำ
ตาคมตวัดผ่านประตูห้องน้ำ เป็นจังหวะที่คนข้างในเปิดออกมาพอดี
หน้าตาสะอาดสะอ้านไร้เครื่องสำอางทำให้ดูเด็กมาก
อรนลินมองผู้ชายทั้งสองไม่เต็มตานัก ให้ตายเถอะ โดยเฉพาะคนที่ทั้งปล้นจูบและลวนลามเธออย่างหน้าไม่อายนั่น เธอไม่กล้าจะมองเขาเลยด้วยซ้ำ เลือกพูดกับผู้ช่วยของเขาแทน
“ฉัน...ขอกลับเลยนะคะ”
“กลับยังไง”
“เอ่อ รถเมล์ค่ะ”
ชลวัสผงกหัวให้สาวน้อยพร้อมรอยยิ้ม พอเธอได้คำรับคำอนุญาตก็แทบจะพุ่งออกจากห้องจนเขาขำพรืด หรี่ตามองหน้าคมเคร่งของผู้เป็นเจ้านาย
“ห้าทุ่มแล้วนะครับ”
ปฏิพัทธ์ไม่ได้สนใจอะไรแม้จะรู้ว่าคนสนิทกำลังก่อกวน ยกเบียร์ขึ้นดื่มจนหมดกระป๋อง เอ่ยเสียงเรียบเฉยติดเย็นชา
“เจอกันพรุ่งนี้”
บ้าชะมัด! โคตรซวยอะไรแบบนี้! อรนลินถูปากแรงๆ หลังจากออกมานั่งรอรถเมล์สักพักแล้ว เธอหวนนึกไปถึงเหตุสดร้อนอย่างอดไม่ได้ ทำงานมาตั้งนาน บทจะเปลืองเนื้อเปลืองตัวก็มาแบบไม่มีสัญญาณเตือน ไม่เข้าใจเลยว่า ทำไมพวกนั้นถึงเลือกเธอ ในเมื่อมันไม่ใช่หน้าที่ไม่ใช่งานที่ทำประจำสักหน่อย นึกขึ้นมา ภาพชวนระทึกของหนังสดก็วาบขึ้นในหัว ทำเอาหน้าร้อนผ่าวๆ ใจวูบโหวง และจูบจากคนคนนั้น...
โอย แค่คิด เธอก็แทบสะท้านสะบั้นเหมือนจะเป็นไข้จับสั่นทันตา
อีตาบ้านั่น ถึงจะมีหน้าตาหล่อเหลาเข้มคมแค่มองใจสั่น แต่เขาดูน่ากลัวมากกว่าน่าเข้าใกล้
ปกติแล้ว เธอไม่เคยเจอพวกเขาทั้งสองคน ได้ยินได้ฟังมาเหมือนกันว่าพวกเขาประจำอยู่อีกที่ นานๆ จะมาที มาแต่ละครั้งวันสองวัน ไม่มีรูปพวกเขาในบอร์ดบุคลากร ไม่น่าแปลก คนระดับนั้นไม่จำเป็นต้องมีรูปบอกตำแหน่ง พนักงานเกินครึ่งที่ไม่รู้ว่าใครเป็นเจ้าของร้านกันแน่ แต่ใครจะสนใจมากไปกว่ารายได้ที่ได้รับ
“เฮ้อ ส้า....ธุ พรุ่งนี้อย่ามีเรื่องอะไรแบบนี้อีกเล้ย...”
อรนลินยกมือไหว้ท่วมหัวอย่างไม่นึกกลัวว่าจะมีใครมองแล้วคิดว่าเธอบ้า ก็ในป้ายตอนนี้มีแค่เธอคนเดียว เธอกังวลมากกว่าว่าถ้าถูกบังคับให้ไปทำแบบชั่วโมงก่อนอีก คงทำงานต่อไม่ได้แน่ๆ
