บทที่ 2 บทที่ 1 คิมคยองซู (50%)
บทที่ 1 คิมคยองซู
โรงแรม The Paradise กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้
“ผมขอปิดการประชุมเพียงเท่านี้ ขอบคุณผู้ถือหุ้นทุกท่านที่เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียงกัน” เสียงราบเรียบเอ่ยขึ้น ก่อนที่ร่างสูงใหญ่เจ้าของใบหน้าหล่อเหลา จมูกโด่งเป็นสัน เรือนผมสีดำขลับ จะยืนขึ้นแล้วโค้งเล็กน้อยเพื่อขอบคุณสมาชิกผู้ถือหุ้นที่อาวุโสกว่าทั้ง 8 คน
แปะ แปะ
เสียงปรบมือดังไปทั่วห้องเมื่อรองประธานบริษัท Kim Corporation กล่าวขอบคุณเสร็จ ทุกคนต่างทยอยกันออกจากห้องประชุมใหญ่ของโรงแรมทันที
การประชุมผู้ถือหุ้นรายใหญ่ทั้ง 9คนจบลงด้วยดีแม้จะขาดท่านประธานกรรมการใหญ่ในการประชุมแต่ก็ไม่ได้มีผลอะไรเพราะรองประธานหนุ่มทำทุกอย่างได้ดีจนเป็นที่ไว้วางใจของผู้ถือหุ้นทุกคน และเขากำลังจะขึ้นรับตำแหน่งประธานกรรมการใหญ่ในเวลาอันใกล้นี้อย่างแน่นอน
“เจ้านายครับ ท่านประธานต้องการพบครับ”
เสียงลูกน้องคนสนิทเอ่ยบอก ขณะที่รองประธานหนุ่มกำลังเดินออกจากห้องประชุมกับลูกน้องคนสนิทอีกคนดังขึ้นทันทีที่เขาก้าวขาออกจากห้องประชุมใหญ่
“ท่านประธานมาที่นี่หรือ”
“ครับ ตอนนี้ท่านรอพบเจ้านายอยู่ที่ห้องทำงานแล้วครับ” รองประธานหนุ่มพยักหน้ารับ ก่อนที่จะเดินตรงไปยังห้องทำงานของตนเพื่อพบกับบุคคลที่เขาไม่ได้พบหน้ามาแรมปี
“มาแล้วหรอ ‘คยองซู’ ”
เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นทันทีที่ชายหนุ่มก้าวเข้ามาภายในห้อง ชายชราที่นั่งรอเขาอยู่บนโซฟาสีครีมตัวใหญ่ส่งยิ้มใจดีมาให้พร้อมตบเบาๆ ที่นั่งว่างด้านข้างตัว
“ครับ ผมไม่ทราบว่าท่านประธานจะมาในวันนี้ เราจะได้เตรียมเอกสารเรื่องการประชุมผู้ถือหุ้นให้ท่านประธานเขาร่วมประชุมด้วย” ชายหนุ่มพูดพร้อมเดินตรงไปยังโซฟาเล็กด้านข้าง
“พ่อไม่ได้มาคุยเรื่องการประชุม แต่พ่อมาคุยเรื่องอื่น” ชายหนุ่มเงยหน้ามองผู้ที่เรียกตัวเองว่า ‘พ่อ’ ด้วยสายตาไม่เข้าใจก่อนที่เขาจะได้เอ่ยอะไรต่อ เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นซะก่อน
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“เชิญ”
ชายหนุ่มเอ่ยบอก ก่อนที่ประตูห้องจะถูกเปิดออก หญิงสาววัยกลางคนแต่งตัวดี ใบหน้าสะสวยเจ้าของริมฝีปากเรียวที่ถูกแต่งแต้มด้วยลิปสติกสีแดงสดจะเดินส่ายสะโพกน้อยๆ ตรงเข้ามาเธอเดินตรงไปยังบิดาของเขาก่อนจะนั่งลงข้างกายแล้วยกขาขึ้นไขว่ห้างพลางยกมือขึ้นคล้องแขนแสดงความเป็นเจ้าของทันที
ชายหนุ่มเบือนสายตาหนีภาพที่เขาแสนเกลียดทันทีเพราะคนมาใหม่จงใจแสดงท่าทางแบบนั้นเพื่อปั่นหัวเขา
“ที่รักค่ะคุณคุยเรื่องนั้นกับลูกชายคุณไปหรือยังค่ะ” เสียงเล็กแหลมเอ่ยขึ้นพร้อมปรายตามองชายหนุ่มหน้าตาดีที่ขึ้นชื่อว่าเป็น ‘ลูกเลี้ยง’ ของเธอด้วยสายตาเป็นประกาย
หล่อและหล่อขึ้นมากกว่าเดิมหลายเท่าหญิงสาวคิดในใจ
นานแล้วที่เธอไม่ได้เจอกับเขาตั้งแต่เธอแต่งงานกับบิดาของเขา ชายหนุ่มก็ย้ายออกจากบ้านแล้วกลับไปอยู่บ้านเก่าของมารดาที่ตายไปแล้วทันที เธอรู้ว่าเขารังเกียจเธอ ผู้หญิงกลางคืนที่มาจับบิดาของเขา เธอรู้ว่าเขาคิดเช่นนั้นและใช่เธอทำแบบนั้น แต่เหนือสิ่งอื่นใดเป้าหมายที่แท้จริงของเธอคือเขาต่างหาก ‘คิมคยองซู’ นักธุรกิจหนุ่มไฟแรง หน้าตาดี โปรไฟล์เลิศแถมมีดีกรีเป็นถึงหนุ่มในฝันของผู้หญิงเกาหลีใต้ครึ่งประเทศ เขาเป็นสิ่งเดียวที่เธอปรารถนา และเธอต้องได้เขามาในไม่ช้าแน่นอน
“กำลังจะพูด คุณมาก็ดีแล้วหนูนาอึนไม่มาด้วยหรอ”
“ไม่ค่ะ นาอึนแกกำลังตั้งใจเรียนภาษาเพิ่มนะคะ เห็นว่าอยากจะช่วยเหลือเรื่องงานของคุณชายใหญ่ด้วยนะคะ”
หญิงสาวพูดพร้อมปรายตาเพื่อหว่านเสน่ห์ให้ลูกเลี้ยงของตัวเองอยู่เนืองๆ แม้จะไม่มีทีท่าสนใจแต่เธอคิดเสมอว่าผู้ชายก็เหมือนน้ำมันอยู่ใกล้ไฟมีหรอจะไม่ลุกลาม แล้วยิ่งเขาเป็นผู้ชายที่ใครๆ ต่างบอกว่าเย็นชาเป็นเจ้าชายน้ำแข็งด้วยแล้วเธอยิ่งปรารถนาจะทำลายกำแพงน้ำแข็งนั้นลงให้ได้
สักวันเธอจะทำให้ คิมคยองซูมาคุกเข่าแทบเท้าของเธอ!!!
“นาอึน ใคร?”
คิมคยองซูเอ่ยถามเพื่อตัดบทสนทนาทางสายตาระหว่างเขากับแม่เลี้ยงมหาภัยที่จ้องจะเขมือบเขาทุกเวลาด้วยความหงุดหงิด เขาเกลียดสายตาของผู้หญิงคนนี้เกลียดท่าทางที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่าตัวเองเจนจัดในเรื่องอย่างว่าแค่ไหนแม้แต่น้ำเสียงที่พูดเขายังฟังแล้วอยากจะอาเจียน
“ผู้หญิงที่แกกำลังจะหมั้นด้วยยังไงล่ะ”
“อะไรนะครับ!”
ชายหนุ่มสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินประโยคนั้นจากปากของบิดา ‘ผู้หญิงที่เขากำลังจะหมั้นด้วย’ บิดาของเขาต้องบ้าไปแล้วแน่นอน ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครเขายังไม่รู้จัก อย่าว่าแต่รู้จัก หน้าตาหล่อนเป็นยังไงเขายังไม่เคยเห็นด้วยซ้ำ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันแน่ ชายหนุ่มเพ่งมองไปยังผู้หญิงที่นั่งข้างบิดาของเขาด้วยสายตาไม่พอใจ
ถ้าให้เขาเดา เรื่องบ้าๆ นี่คงเกิดจากความคิดของผู้หญิงคนนั้นแน่ นี่คงคิดจะจับเขาแต่งงานเพื่อให้ย้ายกลับไปอยู่บ้านเพื่อจะได้หาโอกาสเข้าหาเขาอีกแน่ๆ
“ลูกสาวเพื่อนสนิทของโซฮีน่ะ เธอน่ารักดีพ่อเจอเธอแล้ว แกจะต้องชอบเธอแน่”
คำพูดของบิดาทำให้ชายหนุ่มต้องเม้มปากแน่น จริงอย่างที่เขาเดาไว้ไม่มีผิดยัยผู้หญิงหน้าเงินบ้าผู้ชายคนนี้มันจงใจจะทำให้เขาย้ายกลับไปอยู่บ้านเดียวกับมัน แต่อย่าหวังว่าคนอย่างเขาจะยอมจนมุมกับเรื่องนี้ง่ายๆ เขาอายุ 35 แล้ว ไม่ใช่เด็กอายุ 18 เหมือนเมื่อก่อนที่จะยอมให้มันมาแทะเล็มเขาได้อีก
“ผมไม่หมั้น และผมก็มีเมียอยู่แล้วครับพ่อ”
คำตอบของลูกชายทำให้คนเป็นพ่อต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจ แต่อาการตกใจของบิดายังไม่เท่าอาการของแม่เลี้ยงของเขาเลยสักนิด ผู้หญิงตรงหน้าถึงกับเบิกตากว้างกว่าเป็นล้านเท่า ชายหนุ่มยกยิ้มที่มุมปาก ก่อนจะเอ่ยต่อด้วยท่าทางราบเรียบ
“ไว้เดี๋ยวผมกลับจากเซ็นสัญญาที่ไทยผมจะพาเธอมาให้พ่อกับภรรยาของพ่อเจอแล้วกันนะครับ”
ร้าน จงพิชิตชัย กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย
“ได้แล้วค่ะ” เสียงหวานใสเอ่ยขึ้นพร้อมยกจานอาหารเสิร์ฟไปที่โต๊ะของลูกค้าด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
“วันนี้ขายดีเลยนะหนูดอกแก้ว” หญิงชราลูกค้าประจำเอ่ยด้วยรอยยิ้ม เมื่อเห็นบรรยากาศภายในร้านอาหารตามสั่งร้านประจำดูครึกครื้นผู้คนเข้าออกหนาตากว่าทุกวัน
“ค่ะคุณยายวันนี้ลูกค้าเยอะ พ่อทำแทบไม่ทันเลยค่ะ”
“ดีแล้ว ขายดีๆ จะได้มีเงินเก็บเยอะๆ แล้ววันนี้พ่อหนุ่มคนนั้นไม่มาหรอ”
“อ่อ พี่ใหญ่เขาติดงานนะคะ จะแวะมาเย็นๆ งั้นแก้วขอตัวไปช่วยพ่อทำงานต่อนะคะ” หญิงชราพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม เธอเห็นหญิงสาวมาตั้งแต่ตัวเท้าฝาหอย และตัวเธอเองก็มาทานอาหารร้านนี้ตั้งแต่ยังสาว สมัยที่ร้านนี้ยังเป็นรถเข็นรถขายอยู่เลย
เด็กหญิงแก้วกัลยาหรือหนูดอกแก้ว เด็กดีน่ารักที่คอยช่วยเหลือพ่อและแม่ทำงานเสมอ แต่โชคร้ายที่มารดาของเธอเสียชีวิตไปเมื่อตอนที่เธอเข้ามัธยม หญิงสาวจึงอยู่กับบิดาเพียงสองคนมาตลอด แม้ตอนนี้จะเรียนจบทำงานแล้วแต่ทุกวันหยุดเธอก็จะได้พบหน้าสาวน้อยนัยตาสวยคนนี้มาช่วยพ่อทำงานเสมอ
“แก้วจานนี้ของโต๊ะสามนะลูก”
“ค่ะพ่อ” เสียงหวานใสขานรับด้วยรอยยิ้ม
แก้วกัลยาหรือดอกแก้ว สาวน้อยวัย 23 ปี หญิงสาวหน้าตาดีเจ้าของดวงตากลมมนสดใส ใบหน้าเนียนสวยรูปไข่ และรอยยิ้มแสนหวานที่หนุ่มๆ เห็นแล้วต้องตราตรึงใจ
แก้วกัลยาทำงานเป็นธุรการให้กับบริษัทเอกชนแห่งนึง เธอจะหยุดทุกวันอาทิตย์และเธอจะมาช่วยบิดาขายอาหารที่ร้านอาหารตามสั่งเสมอ ชายหนุ่มที่คุณยายจันทร์ลูกค้าประจำถามหา คือ พิศาลหรือนายใหญ่ แฟนหนุ่มที่คบหากันมา 5ปีของเธอ โดยปกติแล้วพิศาลจะหยุดทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และเขาจะมาช่วยเธอและบิดาที่ร้านเป็นประจำ จนทำให้เป็นที่คุ้นหน้าของลูกค้าประจำที่มาอุดหนุนร้านของเธอดี อีกทั้งแฟนหนุ่มยังหน้าตาดีแถมยังมีเสน่ห์ลูกค้าสาวน้อยสาวใหญ่มักจะหลงเสน่ห์แฟนหนุ่มของเธอจนติดใจมาทานอาหารที่ร้านเป็นประจำ แม้จะรู้ว่าชายหนุ่มคบหากับเธอแต่ทุกคนก็ยินดีและเต็มใจมาอุดหนุนโดยไม่ได้มีท่าทีอิจฉาริษยาเลยแม้แต่น้อย แถมยังชื่นชมว่าเธอและชายหนุ่มเหมาะสมกันเสียอีก
18.30น.
“ปิดประตูร้านได้แล้วแก้ว”
เสียงทุ้มของพ่อดังมาจากในครัว แก้วกัลยาวางไม้กวาดพิงพนังไว้ ก่อนจะเดินไปที่ประตูหน้าร้านเพื่อปิดมันตามที่บิดาบอก
หญิงสาวเอื้อมมือขึ้นเพื่อจะดึงประตูลง แต่ก็ต้องชะงักมือเมื่อมองเห็นผู้ชายท่าทางน่ากลัวสองคนยืนอยู่ตรงหน้า
“นายสุธนอยู่ไหม?”
เสียงเข้มเอ่ยถามพลางใช่สายตาสำรวจมองดวงหน้าแสนสวยของเธอด้วยความจาบจ้วง แก้วกัลยารีบถอนห่างจากหน้าประตูด้วยความกลัวปนตกใจ
“ฉันถามว่านายสุธนอยู่ไหม!!!”
เสียงคำรามพร้อมท่าทางคุกคามของคนมาใหม่ทำให้แก้วกัลยาถอยหลังกราว ก่อนจะตะโกนเรียกบิดาสุดเสียง
“พ่อ!!!”
เสียงตะโกนเรียกของบุตรสาวทำให้ผู้เป็นบิดาต้องทิ้งทุกอย่างแล้ววิ่งออกมาหน้าร้านเพื่อดูเหตุการณ์ และเมื่อเห็นว่าใครยืนอยู่ที่หน้าร้าน ชายวัยกลางคนถึงกับชะงักก่อนจะเบิกตากว้างด้วยความตกใจ หัวใจของคนเป็นพ่อหล่นไปอยู่ที่พื้นแต่ด้วยสัญชาตญาณความเป็นพ่อ ชายวัยกลางคนคว้าตัวลูกสาวมาอยู่ในอ้อมกอดทันที
“เจอตัวก็ดี แกขาดส่งดอกเบี้ยมาแล้วสามเดือนนะเว้ย” แก้วกัลยาเงยหน้ามองบิดาที่กอดตนแน่น คิ้วสวยขมวดเข้าหากันเมื่อเธอไม่เข้าใจสิ่งที่ได้ยิน และไม่เข้าใจว่าเรื่องราวมันคืออะไร
“อะ เอ่อ พะ พรุ่งนี้ฉันจะเอาไปให้เจ้านายแกเอง”
น้ำเสียงของพ่อสั่นไหวเล็กน้อย ก่อนที่จะกอดเธอแน่นขึ้นราวกับว่ากลัวว่าเธอจะเป็นอันตราย คำตอบชายวัยกลางคนทำให้คนมาใหม่ไม่พอใจเพราะคำตอบแบบนี้เขาได้ยินมาเป็นล้านรอบ แต่ก็ไม่เคยมีใครทำได้อย่างที่พูดสักคน ถ้าพูดแบบนี้แสดงว่ามันไม่มีเงินมาจ่ายแน่นอน
“หึ ฉันเบื่อประโยคนี้ของพวกลูกหนี้ว่ะ ได้ยินว่าวันนี้ขายดีงั้นหรอ ไหนเอาเงินมาดูสิ”
ชายร่างหนาทั้งสองพุ่งตัวเข้าหาสองพ่อลูกด้วยท่าทางคุกคาม ผู้ชายคนหนึ่งเดินตรงเข้าไปกระชากร่างของชายวัยกลางคนสุดแรงส่วนอีกคนก็กระชากร่างบางของลูกสาวมาเช่นกัน สองพ่อลูกส่งเสียงเรียกซึ่งกันและกันด้วยความตกใจ
“จ่ายมา อย่าให้ฉันต้องลงมือกับหน้าสวยๆ ของลูกสาวแก”
ผลัก
ร่างของชายวัยกลางคนถูกผลักไปข้างหน้า เขาหันไปมองใบหน้าซีดเซียวเปรอะเปื้อนคราบน้ำตาของบุตรสาว ก่อนจะเดินไปหยิบถุงเงินทั้งหมดที่ขายได้ในวันนี้ออกมา
นายสุธนยื่นถุงเงินทั้งหมดที่นับแล้วมี 23,200บาทให้พวกมัน ก่อนที่จะหลับตาแน่น เงินพวกนั้นยังไม่ได้หักต้นทุนเลยด้วยซ้ำ เขายังไม่ได้แบ่งไว้เป็นต้นทุนสำหรับซื้อของมาขายในวันพรุ่งนี้เลยสักบาท
ผู้ชายร่างหนาสองคนรับถุงเงินนั้นมาก่อนจะยกยิ้มที่มุมปากแล้วเอ่ยต่อเสียงดัง
“เจ้านายฉันฝากมาบอกว่า ต้องการเงินต้นและดอกเบี้ยทั้งหมดภายในวันพุธเงินต้น 150,000 ดอกเบี้ยอีก 50,000รวมเป็น 200,000 พอดี เตรียมไว้ให้ครบล่ะ ฮ่าๆ” พูดจบพวกมันก็ผลักร่างของแก้วกัลยาอย่างแรงจนถลาเข้าไปร่างของบิดาทันที ก่อนที่พวกมันจะเดินหัวเราะร่าออกจากร้านไป
“พ่อค่ะนี่มันเรื่องอะไรกันค่ะ ทำไม? แล้วหนี้อะไร ทำไมมันมากมายขนาดนั้นล่ะค่ะพ่อ”
ทันทีที่เสียงหัวเราะหายไปแก้วกัลยาผละกอดออกจากอกของบิดาแล้วเอ่ยถามรัวเร็วทันที
“เอ่อ พ่อ คือ เอ่อ” นายสุธนอึกอักเมื่อได้ยินคำถามของลูก ชายวัยกลางคนไม่รุ้ว่าตนจะตอบลูกสาวอย่างไรให้เธอเข้าใจ
“พ่อค่ะ เราไม่เคยมีความลับต่อกันนะคะ”
คำพูดของลูกสาวทำให้ผู้เป็นบิดาต้องถอนหายใจอย่างสิ้นหวัง เขาตัดสินใจเล่าเรื่องทั้งหมดให้แก่บุตรสาวฟัง
“ไอ้สองคนนั้นเป็นพวกท้วงหนี้นอกระบบพ่อเป็นหนี้เสี่ยภาวี”
ผู้ชายหน้าตาท่าทางน่ากลัวสองคนนั้นเป็นคนทวงหนี้ของเสี่ยภาวีเจ้าหนี้เงินกู้นอกระบบของเขา หนี้สินของเขาเริ่มมีขึ้นเมื่อบุตรสาวเข้ามหาลัย ร้านค้าขายได้ไม่ดีมากแม้บุตรสาวจะทำงานพาสไทม์หาเงินช่วยใช้จ่ายแต่เขาก็คิดว่ามันยังไม่พอ สุดท้ายเขาจึงตัดสินใจกู้เงินนอกระบบมา 50,000บาท แต่กิจการก็ไม่ดีขึ้นและยิ่งแย่ลงไปอีก การกู้เงินจึงเพิ่มขึ้นจนในที่สุดหนี้สินของเขาก็เพิ่มพูนขึ้นจนหาเงินเพื่อมาจ่ายค่าดอกเบี้ยไม่ทันและพวกมันก็ตามมาทางหนี้จนบุตรสาวของเขาเกือบเป็นอันตรายจนได้
“แล้วเราจะหาเงินที่ไหนมาจ่ายพวกมันค่ะ” แก้วกัลยาถามเสียงอ่อนเมื่อมองเห็นใบหน้าซีดเซียวของบิดา เงินมากมายขนาดนั้นฌธอจะไปหาที่ไหนทัน!!!
สนามบินอินชอน ประเทศเกาหลีใต้
“ฉันต้องการผู้หญิงหน้าตาดี มีเสน่ห์ มีการศึกษา ฐานะดี ไม่เคยแต่งงาน และที่สำคัญต้องมีดวงตาที่ฉันตามหา”
คิมคยองซูเอ่ยเสียงเรียบพลางยกถ้วยกาแฟขึ้นจิบ ชายหนุ่มบอกสิ่งที่เขาต้องการแก่ลูกน้อง นี่เป็นแค่ส่วนนึงของ ‘ผู้หญิง’ ที่เขาจะจ้างมาเป็นภรรยาจะต้องมี เธอจะต้องดูดีทุกอย่างตั้งแต่หัวจรดเท้า และสิ่งที่ชายหนุ่มสนใจมากที่สุดก็คือ ดวงตา เขาต้องการผู้หญิงที่มีดวงตาในฝัน ดวงตาที่เหมือนมารดาของเขา แม้จะดูเพ้อเจ้อแต่เขาเชื่อว่าจะต้องเจอและต้องได้เจอในเร็ววันนี้แน่นอน
“เจ้านายครับ เราจะไปหาผู้หญิงอย่างที่เจ้านายต้องการมาจากไหนครับ”
‘ลีซึงโฮ’ ลูกน้องคนสนิทเจ้าของใบหน้าเข้มขึมเอ่ยเสียงเครียด เมื่อได้ยินสิ่งที่เจ้านายบอก สเปกผู้หญิงที่เจ้านายของเขาต้องการบอดี้การ์ดหนุ่มคิดว่า มันมีด้วยหรอผู้หญิงแบบนั้นน่ะผู้หญิงเฟอร์เฟคขนาดนั้นหาได้ด้วยหรอในโลกใบนี้
“เอ่อ เจ้านายแน่ใจหรอครับว่าผู้หญิงแบบนั้นมีตัวตนอยู่จริงบนโลกใบนี้”
‘ชเวจีซู’ ลูกน้องคนสนิทอีกคนที่หน้าตาออกไปทางขี้เล่นต่างจากอีกคนเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเช่นเดียวกับพี่ชายร่วมงานที่ก็เพิ่งเอ่ยประโยคคล้ายๆ กับเขาจบไปไม่ถึงนาที
มันมีด้วยหรอผู้หญิงอย่างที่เจ้าเขาอยากได้เนี่ย แล้วพวกเขาจะไปหาจากไหน? =_=
“มีสิ และแกสองคนนั้นแหละต้องไปหามาให้ได้”
พูดจบเจ้านายสุดหล่อก็ลุกขึ้นเดินออกจากห้องรับรองวีไอพีในสนานบินอินชอนไปทันที ทิ้งให้ลุกน้องคนสนิททั้งสองคนต้องเกาหัวตัวเองมึนๆ เจ้านายของเขาเป็นแบบนี้อีกแล้ว เอาแต่ใจ
“เห้อ เราจะไปหามาจากไหนกันล่ะพี่ ผู้หญิงอย่างที่เจ้านายว่าน่ะ เกิดมาบนโลกหรือยังก็ไม่รู้”
คนเป็นน้องชายเอ่ยเสียงอ่อน งานบอดี้การ์ดว่าหนักแล้วเขาว่ามันยังไม่หนักเท่างานหา ‘ภรรยาว่าจ้าง’ ให้เจ้านายด้วยซ้ำ
“เอาน่า แกโทรไปให้เพื่อนที่เมืองไทยช่วยสิ พรุ่งนี้เราบินไปถึงจะได้พาพวกเธอมาให้เจ้านายเลือกได้เลย”
ชเวจีซูถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะกดเบอร์เพื่อโทรหาเพื่อนที่เมืองไทยให้ช่วยหา ‘ภรรยาว่าจ้าง’ ให้เจ้านายของเขาอีกแรง
งานนี้เจ้านายของพวกเขาดูจะจริงจังในการเลือกสรร ‘ภรรยาว่าจ้าง’ ซะอย่างกับว่าจะหามาเป็นภรรยาถาวรซะอีก เขาและพี่ชายร่วมงานมีเวลาแค่อาทิตย์เดียวในการหาผู้หญิงอย่างที่เจ้านายต้องการเพื่อจ้างให้มาเป็นภรรยาปลอมเพราะฉะนั้นทุกนาทีมีค่า
วันพรุ่งนี้เจ้านายของเขาจะเดินทางไปถึงประเทศไทยเพื่อเซ็นสัญญาร่วมหุ้นกับ'รพี จงวัฒนานนท์' นักธุรกิจชาวไทยที่ต้องการเปิดโรงแรมสาขาของโรงแรม The Paradise ในประเทศไทย เจ้านายของเขาจะอยู่ที่ประเทศไทย 3 วัน ก่อนจะบินกลับเกาหลี ดังนั้นไม่ว่าจะที่ไหนเขาก็ต้องหาผู้หญิงที่เจ้านายต้องการมาให้ได้ จะเมืองไทยหรือเกาหลีมันต้องมีสักคนที่เจ้านายของเขาถูกใจ แม้จะคิดว่ามันมีด้วยหรอไอ้ผู้หญิงอย่างที่เจ้านายเขาอยากได้น่ะแต่เขาก็ต้องให้กำลังตัวเองว่า มันต้องมีสักคนล่ะที่เอาชนะหัวใจน้ำแข็งของเจ้าชายเย็นชาคิมคยองซูได้
ทั้งสองคนมองหน้ากันก่อนจะพยักหน้าสื่อความหมาย แล้วเดินตามเจ้านายออกไป
งานนี้หวังว่าพระเจ้าจะไม่ทอดทิ้งพวกเขาไปก่อนนะ
