บทที่ 5 บทที่ 2 หายนะ (100%)

(ต่อ)

“หมดกัน ข้อมูลสำคัญเพียงอย่างเดียวของเธอ ฉันจะบ้าตาย”

ในขณะที่บอร์ดี้การ์ดหนุ่มกำลังทึ่งหัวตัวเองไปมาอย่างหมดหวังเมื่อพบว่าข้อมูลสุดแสนจะสำคัญเพียงอย่างเดียวเกี่ยวกับผู้หญิงคนนั้นที่เจ้านายของเขาต้องการพบตัวที่ตัวเขามีได้หายวับไปกับตาราวตื่นจากฝันโดยมีเพื่อนนายตำรวจกำลังยืนตบไหล่ปลอบใจอยู่ข้างๆ นั้น สวรรค์ที่เขาตัดพ้อว่าแสนใจร้ายก็ประทานสิ่งที่เรียกว่า ข้อมูลสำคัญยิ่งกว่าแค่ภาพถ่ายของเธอมาให้เขา

“พ่อค่ะ!”

เสียงหวานของหญิงสาวร่างเล็กในชุดทำงานของสาวออฟฟิศทั่วไปดังมาจากหน้าร้าน ก่อนที่ร่างของเธอจะถลาเข้าไปกอดชายวัยกลางคนเจ้าของร้านทันที

“พ่อเป็นยังไงบ้าง เจ็บตรงไหนไหมค่ะ แก้วตกใจมากตอนที่ได้ยินว่าพ่อถูกทำร้าย”

หญิงสาวสวมกอดบิดาด้วยน้ำตานองหน้า เธอได้รับโทรศัพท์จากนายตำรวจที่เป็นลูกค้าประจำโทรไปบอกว่าเกิดเรื่องที่ร้านของบิดาและบิดาของเธอถูกพวกเจ้าหนี้ตามมารังควาญ แก้วกัลยาทิ้งทุกอย่างแล้วขอลางานจากเจ้านายก่อนจะนั่งแท็กซี่ตรงกลับมาที่ร้านทันทีเพราะหญิงสาวมัวแต่สนใจบิดาและสภาพอันเละเทะของร้านจนไม่ได้สนใจมองคนอื่นที่กำลังจ้องมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าตั้งแต่ที่หญิงสาววิ่งเข้ามาในร้านแล้ว

ดวงตาคู่คมมองตามใบหน้าของเธอเมื่อรู้สึกคุ้นเคยคิ้วเข้มขมวดเข้าหากันเมื่อยิ่งได้มองยิ่งคุ้นหน้า ก่อนที่บอร์ดี้การ์ดหนุ่มจะเบิกตากว้างที่สุดเมื่อเขาพบว่าเธอคนนั้น คือ คนเดียวกับคนที่เขากำลังจะให้เพื่อนช่วยตามหา

“ผู้หญิงคนนั้น!”

จีซูยิ้มกว้างออกมาพร้อมชี้นิ้วเรียวยาวของตัวเองไปยังร่างเล็กของหญิงสาวด้วยความดีใจ สวรรค์ไม่ได้โหดร้ายกับเขาอย่างที่เขาตัดพ้อ บอร์ดี้การ์ดหนุ่มยกยิ้มที่มุมปากออกมา ก่อนจะหันไปดึงแขนเพื่อนเพื่อออกมาจากตรงนั้นทันที

“อะไรของมันวะ”

ธันวาเกาหัวงงๆ เมื่ออยู่ๆ เพื่อนก็ลากแขนของเขาออกมาจากร้านด้วยท่าทีแปลกๆ นายตำรวจหนุ่มขมวดคิ้วหม่นเมื่อเพื่อนลากเขามาหยุดยืนที่ข้างร้านแล้วมันก็ส่งยิ้มเลวๆ อย่างที่คุ้นเคยมาให้

“ยิ้มขนลุกแบบนี้แปลว่ามีแผนชั่ว? ”

คำพูดของเพื่อนทำให้จีซูต้องหยักคิ้วกลับไป เพราะมันใช่ เขาคิดแผนชั่วๆ อย่างที่เพื่อนว่าออกมาได้จริงๆ

“แกนี่มันน่ากลัวชะมัด ยิ้มแบบนี้ทีไรมีเรื่องทุกที”

ธันวายกมือขึ้นเกาหางคิ้วตัวเองพร้อมส่ายหัวไปมาอย่างรู้ทัน ทำเอาคนเป็นเพื่อนที่ถูกรู้ทันถึงกับต้องหัวเราะกลบเกลื่อน

“เออเอาน่า ว่าแต่ผู้หญิงสวยๆ คนนั้นใครหรอ”

บอร์ดี้การ์ดหนุ่มไม่รอช้ารีบทำตามแผนเร่งด่วนที่เขาเพิ่งคิดได้ในไม่กี่วินาทีก่อนหน้าทันที แต่เมื่อได้ยินคำถามคนเป็นเพื่อนกลับขมวดคิ้วจนผูกเป็นโบว์แทนคำตอบ

“ว่าไง เธอเป็นใคร ชื่ออะไร แล้วเป็นอะไรกับลุงเจ้าของร้านวะ”

ธันวาหรี่ตาลงเล็กน้อยเมื่อเห็นท่าทีของเพื่อนที่เปลี่ยนไปไวเหมือนตอ…นายตำรวจหนุ่มยกมือขึ้นอังหน้าผากเพื่อตรวจอุณหภูมิว่าร่างกายเพื่อนยัง ‘ปกติ’ หรือไม่

“ป่วยหรอวะ ร่างกายปรับตัวกับอากาศเมืองไทยไม่ทันหรือไง อยู่ดีๆ ก็ทำหน้าห่อเหี่ยวไร้เรี่ยวแรงแต่ไม่ถึงนาทีกลับมายิ้มหน้าบานเป็นจานดาวเทียมซะงั้น ไหวไหมเพื่อน”

บอร์ดี้การ์ดหนุ่มสะบัดมือเพื่อนออก ก่อนจะถอนหายใจเมื่อเพื่อนไม่ยอมตอบคำถามของเขาสักที

“ตอบคำถามฉันมาก่อน เร็วๆ ”

แม้ว่าจะยังคงงงๆ แต่ธันวาก็ยอมตอบและบอกในสิ่งที่เพื่อนถาม ถึงจะไม่เข้าอารมณ์และอาการของเพื่อน แต่ถ้าแค่ถามว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใครเขาก็ตอบมันได้ อีกอย่างเขามั่นใจว่าเพื่อนของเขาคงไม่บ้าจี้ตามไปฉุดหญิงสาวเพียงเพราะสบตากันครั้งแรกหรอก และที่สำคัญผู้หญิงคนนั้นมีแฟนแล้วและเธอรักแฟนมาก ขนาดผู้ชายที่ทั้งหล่อทั้งรวยมาตามจีบ เธอยังไม่ยอมชายตาแลเลย แล้วนับประสาอะไรกับเพื่อนของเขาที่จีบหญิงไม่เป็นไม่รู้จักแม้กระทั้งว่าดอกไม้ที่เขานิยมให้กันในวันวาเลนไทน์คือดอกกุหลาบ แบบนี้แล้วเขาก็เต็มใจจะตอบทุกคำถามเกี่ยวกับเธอให้เพื่อนได้รู้เพราะเขารู้จักเธอดีแต่ไม่ใช่ว่าเป็นเพื่อนกันหรืออะไร ตรงกันข้ามตัวเขาเองก็เคยตามจีบเธอมาแรมปีเหมือนกันต่างหาก

“เธอชื่อ…”

“นี่ครับเจ้านายข้อมูลทั้งหมดของผู้หญิงที่เจ้านายต้องการ”

จีซูวางเอกสารข้อมูลทั้งหมดที่เขาได้มาในวันนี้ลงบนโต๊ะ บอร์ดี้การ์ดหนุ่มโค้งแสดงความเคารพแก่เจ้านายเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยต่อ

“เธอชื่อนางสาวแก้วกัลยา จงพิชิตชัย อายุ 23 ปี ทำงานที่บริษัทเอกชนแห่งนึง บิดาเปิดร้านขายอาหารตามสั่งเล็กๆ มารดาเสียชีวิตไปนานแล้ว และตอนนี้เธอกำลังจะแต่งงานกับแฟนหนุ่มที่คบหากันมา 5 ปีครับ”

คยองซูเปิดเอกสารข้อมูลของผู้หญิงที่เขาต้องการที่ลูกน้องหามาให้ไปมา ชายหนุ่มอ่านข้อมูลนั้นอย่างละเอียดด้วยตัวเองอีกครั้ง แม้จะแปลกใจที่ลูกน้องทำงานได้ดีและเร็วเกินคาดขนาดนี้แค่ไหนแต่ลึกๆ แล้วในใจเขากลับรู้สึกดีที่ได้ข้อมูลของเธอมาก่อนที่จะต้องบินกลับเกาหลีด้วยเรื่องด่วนในวันพรุ่งนี้ ชายหนุ่มวางเอกสารไว้ที่เดิมก่อนจะหันไปสั่งลูกน้องอีกคนถึงความต้องการที่เปลี่ยนไป

“ซึงโฮเลื่อนไฟล์กลับเป็นเย็นวันพุธ ฉันยังอยากทำธุระต่อที่นี่อีกสักวันสองวัน”

ชายหนุ่มคิดว่าจะยังไม่กลับเกาหลีในวันพรุ่งนี้เพราะเขามีธุระที่จะต้องไปทำให้เรียบร้อยซะก่อน ดวงตาคู่นั้นของเธอตามหลอกหลอนเขาทั้งคืนจนชายหนุ่มไม่เป็นอันหลับอันนอน เฝ้าคิดถึงแต่แววตาสดใสแสนมีเสน่ห์คู่นั้น หัวใจเต้นแรงทุกครั้งที่ภาพรอยยิ้มแสนหวานของเธอปรากฏขึ้นในความทรงจำ แม้จะไม่ได้ยิ้มให้เขาแต่ชายหนุ่มคิดว่าสักวันนึงรอยยิ้มแบบนั้นเขาจะต้องได้รับมัน

“ครับเจ้านาย” ซึงโฮรับคำก่อนจะโค้งลาเพื่อออกไปทำงานตามคำสั่ง

คยองซูมองเอกสารตรงหน้าอีกครั้ง ชายหนุ่มกำลังคิดหาข้อเสนอดีๆ ให้แก่เธอ ข้อเสนอแบบที่หญิงสาวไม่สามารถปฏิเสธเขาได้และทันใดนั้นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปากก็เผยออกมา รองประธานหนุ่มหยิบเอกสารอีกชุดขึ้นมาเมื่อสายตาคู่คมจดจ้องเนื้อความในกระดาษอย่างละเอียด เขาอ่านทุกคำด้วยความตั้งใจและอ่านมันหลายรอบเพื่อความแม่นยำ

“เป็นหนี้สองแสนเลยหรอ” เขาเอ่ยเสียงเรียบพลางเงยหน้ามองลูกน้องเพื่อขอคำตอบ

“ครับ ดูเหมือนว่าเธอและพ่อจะยังไม่มีเงินไปใช้ด้วยครับเพราะวันนี้พวกเจ้าหนี้ตามมาทวงหนี้ถึงร้านเลยครับ”

“หนีนอกกฎหมายซะด้วย หึ เธอจะทำยังไงต่อไปแก้วกัลยา”

คยองซูมองเอกสารในมืออีกครั้ง ก่อนที่สายตาจะไปสะดุดเข้ากับตัวเลขของกำหนดวันชำระหนี้ทั้งหมด

“กำหนดวันจ่ายหนี้ทั้งหมดคือวันพุธนี้งั้นหรอ”

รอยยิ้มที่มุมปากกว้างขึ้นอีกเล็กน้อยเมื่ออ่านข้อความจบ แววตาของชายหนุ่มเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ สัญญาหนี้สิ้นในมือของเขามันเป็นสัญญาของพวกเจ้าหนี้นอกกฎหมายและสัญญาฉบับนี้ก็เอาเปรียบลูกหนี้ชนิดที่ว่าขูดเลือดขูดเนื้อกันจนเป็นแผลเหวอะ ชายหนุ่มมองจำนวนเงินในกระดาษแล้วคิดว่ามันน้อยนิดสำหรับเขา แต่สำหรับอีกฝ่ายเขาคิดว่ามันคงมากมายมหาศาลทีเดียวไม่งั้นเธอคงไม่ถูกตามทวงหนี้ถึงร้านขนาดนั้น

“มาดูกันว่าเธอจะทำยังไง ถ้าฉันกลายเป็นเจ้าหนี้ของเธอแทนพวกมันแก้วกัลยา”

กระดาษในมือถูกวางลงบนโต๊ะ เมื่อแผนการล่อเหยื่อให้ติดกับของเขากำลังจะเริ่ม

“โทรไปที่เจ้าหนี้ของแก้วกัลยาบอกพวกมันว่าฉันจะจ่ายหนี้พวกนั้นแทนเธอเอง”

“เอ่อ ครับผม”

จีซูรับคำ ก่อนจะโค้งลาเจ้านายแล้วถอยหลังเดินออกไปเพื่อทำตามคำสั่งที่ได้รับมอบหมาย

คยองซูลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ร่างสูงใหญ่เดินมาหยุดยืนที่ริมระเบียงสายตาคู่คมทอดมองภาพวิวทิวทัศน์ด้านหน้าด้วยความสบายใจ รอยยิ้มที่มุมปากปรากฏขึ้นอีกครั้งเมื่อชายหนุ่มคิดถึงความสำเร็จที่ใกล้เข้ามาในทุกวินาที เขาเป็นนักธุรกิจเพราะฉะนั้นอะไรที่เกี่ยวกับการวางแผนแล้วได้ผลกำไรที่เกินคุ้มเขามักจะคิดออกได้รวดเร็ว ครั้งนี้ก็เช่นกันเขามั่นใจว่าเธอจะไม่มีทางหลุดมือเขาไปแน่นอน

ไม่นานจีซูที่ออกไปทำงานที่ได้รับมอบหมายก็เดินกลับเข้ามาภายในห้องพักของเจ้านาย บอร์ดี้การ์ดหนุ่มวางเอกสารสัญญาหนี้อีกฉบับลงบนโต๊ะ ก่อนจะกลับไปยืนที่เดิมแล้วเอ่ยรายงาน

“เรียบร้อยแล้วครับ”

คยองซูเดินกลับเข้ามาภายในห้องอีกครั้ง ชายหนุ่มหยิบเอกสารหนี้ฉบับใหม่ขึ้นมาดูด้วยความพอใจ กระดาษแผ่นนี้จะทำให้เธอต้องมาหาเขาเอง แต่ถ้าต้องรอให้ถึงวันพุธเขาคงขาดใจตาย ชายหนุ่มตัดสินใจได้ในทันทีว่าเขาจะทำอย่างไรในวันพรุ่งนี้ ไม่มีการรอคอยให้เธอมาหาแต่เป็นเขาเองที่จะไปหาเธอถึงที่

“จีซูพรุ่งนี้ฉันต้องการไปพบเธอ”

“ครับเจ้านาย”

บอดี้การ์ดหนุ่มมองใบหน้าที่เคยนิ่งเฉยเปลี่ยนเป็นเจ้าเล่ห์ด้วยความสงสัย เขาไม่เคยเห็นสีหน้าแบบนี้ของเจ้านายมาก่อน หลายครั้งที่เจ้านายของเขาพอใจกับแผนการทางธุรกิจของตนเอง แต่ก็ไม่เคยมีครั้งไหนที่จะแสดงอาการดีอกดีใจหรือสะใจอะไรมากมายเท่าครั้งนี้มาก่อน

บอร์ดี้การ์ดหนุ่มลอบมองปฏิกิริยาของเจ้านายหนุ่มอยู่เงียบๆ ผู้หญิงคนนั้นแค่ว่าที่ลูกจ้างที่เจ้านายของเขาจะจ้างให้มาเป็นภรรยาปลอมแต่ทำไมเจ้านายถึงได้ดูจริงจังและสนใจในตัวของเธอมากมายนักล่ะ ทั้งๆ ที่หญิงสาวมีเจ้าของอยู่แล้วและเธอก็ไม่มีอะไรที่ตรงสเปกที่เจ้านายของเขาเคยตั้งเอาไว้ก่อนหน้านี้เลยสักข้อ ยกเว้นก็แค่ดวงตา ผู้หญิงคนนั้นมีดวงตาที่สวยงาม มันสดใสมีเสน่ห์และน่ามอง แต่เขาเองก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมเจ้านายจะต้องจริงจังกับเรื่องดวงตามากมายขนาดนั้นด้วย

“หึ”

เสียงแค่นหัวเราะเบาๆ ของเจ้านายทำให้บอร์ดี้การ์ดหนุ่มต้องเงยหน้าขึ้นมอง รอยยิ้มที่มุมปากของเจ้านายทำเอาลูกน้องอย่างเขาขนลุก ถ้ายิ้มแบบนี้แสดงว่าเจ้านายของเขากำลังคิดว่าตัวเองถือไพ่เหนือกว่าอีกฝ่าย แม้เขาจะไม่แน่ใจว่าเจ้านายกำลังคิดจะทำอะไร แต่ถ้าดูจากสถานการณ์โดยรวมแล้วเขาคิดว่ามันคงเดาได้ไม่ยากสักเท่าไหร่ แต่ที่เขายังไม่เข้าใจคือเจ้านายของเขายอมทำขนาดนี้เพื่อผู้หญิงธรรมดาที่จะจ้างมาเป็นเมียปลอมขนาดนั้นเลยหรอ

เช้าวันต่อมา

บริษัทเอกชนแห่งนึง กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย

แก้วกัลยาเดินทางมาทำงานตั้งแต่เช้าเพราะเมื่อวานเกิดเรื่องกับบิดาทำให้เธอต้องลางานไปครึ่งวัน งานที่ต้องรับผิดชอบจึงยังคั่งค้างอยู่อีกเยอะหญิงสาวจึงตั้งใจมาทำงานแต่เช้าเพื่อรีบเคลียร์งานที่ยังค้างให้เสร็จก่อนเที่ยงวันนี้

“แก้วมาแต่เช้าเลยนะ”

เสียงทักทายของเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ ที่ต่างมาทำงานแต่เช้าเพื่อหลีกเลี่ยงช่วงเวลาเร่งด่วนที่รถจะติดยาวเหยียดตามปกติของสภาพการจราจรในเมืองหลวง

“จ้า วันนี้แก้วต้องรีบมาเคลียร์งานที่ค้างจากเมื่อวานน่ะ”

แก้วกัลยาเอ่ยตอบด้วยรอยยิ้ม อีกฝ่ายส่งยิ้มตอบกลับมาเช่นกัน ก่อนที่ทั้งคู่จะแยกย้ายกันไปนั่งประจำโต๊ะทำงานของตัวเอง แก้วกัลยาเปิดคอมพิวเตอร์ประจำตัวแล้วเริ่มลงมือทำงานในทันที หญิงสาวก้มหน้าก้มตาทำงานอย่างขยันขันแข็งจนลืมดูเวลา เข็มยาวและเข็มสั้นชี้ตรงกันที่เลขสิบสองบอกเวลาพักกลางวันของพนักงานออฟฟิศแล้ว

“แก้ววันนี้ไปทานข้าวด้วยกันไหม”

เสียงร้องถามของรุ่นพี่ที่ทำงานทำให้หญิงสาวเงยหน้าจากกองเอกสารแล้วหันไปส่ายหน้าพร้อมส่งยิ้มแทนคำตอบ

“งั้นเดี๋ยวพี่ซื้อขนมมาฝากนะ”

พนักงานคนอื่นๆ ต่างทยอยกันออกไปทานอาหารเที่ยงในช่วงพักกลางวันที่ร้านอาหารชั้นล่างของตึก

แก้วกัลยาวางมือจากคีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์ หญิงสาวก้มลงหยิบกล่องข้าวจากกระเป๋าขึ้นมาวางบนโต๊ะ เธอไม่ชอบออกไปทานอาหารกลางวันข้างนอกมันทั้งแพงและอร่อยสู้ฝีมือของบิดาไม่ได้ บิดาจึงทำอาหารใส่กล่องไว้ให้เธอทุกเช้าเพื่อเอามาทานที่ทำงาน และเจ้านายของเธอก็ใจดีอนุญาตให้เธอเอาข้าวมาทานที่นี่ได้ ทำให้เธอประหยัดเงินไปได้เยอะ

แก้วกัลยาหยิบช้อนส้อมออกมาเตรียมตัวทานอาหารกลางวันฝีมือบิดาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ข้าวคำแรกกำลังจะถูกตักเข้าปาก แต่ยังไม่ทันที่ลิ้นจะได้ลิ้มรสชาดอาหารที่แสนอร่อยจากฝีมือของบิดาเสียงเรียกของเจ้านายสาวก็ดังขึ้นซะก่อน

“แก้ว”

เจ้านายสาวเดินตรงมาที่เธอด้วยรอยยิ้ม แก้วกัลยาวางช้อนกับส้อมลงที่เดิม ก่อนที่หญิงสาวจะยืนขึ้นแล้วโค้งให้เธอเล็กน้อยตามมารยาท

“คุณรินมีอะไรให้แก้วรับใช้หรอค่ะ”

เจ้านายสาวส่งยิ้มหวานตอบ เธอเอ็นดูลูกน้องคนนี้มาก ไม่ใช่แค่ใบหน้าที่สะสวย แต่กริยามารยาท นิสัยใจคอก็ดีและน่ารัก คนในบริษัทรักและเอ็นดูเธอมาก

“ฉันน่ะไม่มีหรอก แต่คนอื่นต่างหากที่มี” พูดจบเจ้านายสาวก็มองกลับไปด้านหลังของตัวเอง เธอขยับตัวเดินเลี่ยงออกมาเล็กน้อยเพื่อให้คนอื่นที่เธอพูดถึงได้เดินเข้ามา

ผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ ผิวขาว ใบหน้ารูปไข่รับกับคิ้วเข้มดกดำและจมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากหยักสีแดงระเรื่อราวกับผู้หญิงกำลังจ้องมองเธอด้วยท่าทางนิ่งๆ มือทั้งสองข้างล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงแสลคสีเทาเข้าชุดกับสูทตัวนอกของเขา ขาทั้งสองข้างของชายหนุ่มก้าวยาวๆ เข้ามาใกล้เธอในทุกที แก้วกัลยามองผู้ชายตรงหน้าที่กำลังเดินเข้ามาหาด้วยความงุนงง

ผู้ชายตรงหน้าดูดีทุกกระเบียดนิ้ว รูปร่าง หน้าตา การแต่งตัว ดูแล้วเขาต้องเป็นคนมีฐานะแน่นอน

แต่มีสิ่งเดียวที่เธอยังข้องใจ คือ เขาเป็นใคร?

เพราะเธอจำไม่ได้ว่าเคยรู้จักผู้ชายคนนี้ตอนไหน

“ใครหรอค่ะคุณริน? ”

กรี๊ดดด คุณคิมรุกหนักมากค่ะตอนนี้ งานเข้านางเอกแน่แล้ว

เสร็จโจรก็งานเนี่ย นางเอกโลกสวยของไรท์ ก๊ากก

บทก่อนหน้า
บทถัดไป