บทที่ 12

อาหารเย็นที่เสิร์ฟในตระกูล ศรีอมรรัตนนั้นหรูหรายิ่งกว่าอาหารเช้า มิลาจับมือญาสุมินทร์ พร้อมกับพูดคุยกันอย่างตื่นเต้น เธอเล่าถึงการเดินทางไปยังเขาราชาในช่วงบ่ายเพื่อตอบแทนพระเกจิที่ให้พร

ไททัส นั่งฟังอยู่ข้างๆ ขณะที่ทิพย์มณี ศรีอมรรัตนก็บ่นว่าพี่ชายของเธอเป็นคนน่ารำคาญ ต้องให้คนไปเชิญลงมาทานอาหารที่ชั้นล่างหลายครั้งต่อวัน

"แท็บๆๆๆ" เสียงฝีเท้าหนักแน่นเดินใกล้เข้ามา ญาสุมินทร์ ธารธาราหันไปมอง เห็นเศรษฐเสถียรเดินมาที่โต๊ะอย่างไร้อารมณ์ เห็นได้ชัดว่าเขาเพิ่งอาบน้ำเสร็จเพราะเธอได้กลิ่นมิ้นต์จากตัวเขา

"ทานข้าวกันเถอะ"

มิลาแตะหลังมือญาสุมินทร์ แล้วสั่งคนใช้ที่อยู่ข้างๆ เธอว่า "เสิร์ฟซุปที่เราปรุงให้คุณญาสุมินทร์ด้วย"

สาวใช้รีบเสิร์ฟซุปหนึ่งถ้วยให้ญาสุมินทร์ด้วยความยินดี ญาสุมินทร์ขอบคุณมิลาด้วยรอยยิ้ม

"ดื่มตอนที่ยังร้อนนี่แหละ วันนี้หนูเหนื่อยมาท้งวันแล้วนะลูก"

เศรษฐเสถียรพึมพำ “สอนหนังสือจะเหนื่อยสักแค่ไหนกัน ก็แค่พูดทั้งวัน”

ไททัสเลิกคิ้วมองลูกชายแล้วถามว่า "แกคิดว่าการเป็นครูมันง่ายนักเหรอ ถ้าไม่เคยเป็นครูแกก็ไม่มีสิทธิ์มาพูดแบบนี้"

"นั่นน่ะสิ พี่ญาสุมินทร์ต้องสอนนักเรียนที่อยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ แค่คิดก็รู้สึกได้แล้วว่ามันเป็นงานที่ยากลำบาก" ทิพย์มณีร้องจ๊าก เป็นกองหนุนให้บิดา

เศรษฐเสถียรส่งสายตาคมกริบให้ทิพย์มณี เธอรู้จักพี่ชายของเธอดี เธอจึงสงบปากสงบคำในทันใด

“อย่าไปถือสาในสิ่งที่เขาพูดเลย เขาก็แค่อิจฉาที่เห็นเราดีกับหนู” มิลาเตือนบุตรชายทางสายตา

“คุณแม่คะ อาทิตย์นี้เราสองคนจะไปเยี่ยมครอบครัวหนูกันค่ะ”

ญาสุมินทร์มองตามิลา แล้วประกาศอย่างจริงจัง

"เธอสองคน?"

มิลาพูดตะกุกตะกัก ไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เธอได้ยินนั้นจริงหรือไม่

“ใช่ค่ะ เราสองคน” ญาสุมินทร์ตอบ

“โอ้มายก๊อด! เรื่องจริงหรือนี่ พี่ชาย พี่กำลังจะไปเยี่ยมครอบครัวพี่ญาสุมินทร์กับพี่ญาสุมินทร์เหรอคะ”

ทิพย์มณีร้องเสียงแหลม ตื่นเต้นจนเธอลืมสายตาพิฆาตที่พี่ชายส่งให้เธอเมื่อครู่

เศรษฐเสถียรไม่ได้พูดอะไร สำหรับคนในครอบครัวที่รู้จักเขาดี ก็จะรู้ว่าถ้าเขาเงียบ แสดงว่าเขายอมรับในสิ่งนั้น ไม่จำเป็นต้องพูดอีก ครอบครัวศรีอมรต่างพากันยินดีปรีดา ซึ่งแน่นอนว่าไม่รวมเศรษฐเสถียร

การไปเยี่ยมครอบครัวของญาสุมินทร์นั้นไม่ใช่เรื่องแย่ แต่เขาก็ไม่พอใจ สิ่งที่เศรษฐเสถียรรับไม่ได้มากที่สุดก็คือการที่เขาตกหลุมพรางของญาสุมินทร์

หลังอาหารค่ำ ไททัสกวักมือเรียกลูกชายเข้าไปในห้องหนังสือ ทิพย์มณีรอให้พี่ชายของเธอลุกออกจากโต๊ะอาหารไปก่อน แล้วเธอก็คว้าแขนมารดาเอาไว้พูดว่า "คุณแม่คะ พี่ญาสุมินทร์นี่สุดยอดไปเลยนะคะ"

"ยังไงเหรอ" มิลาถามด้วยความสงสัย

“ก็เมื่อตอนเย็นทิพย์โดนเขาจับได้คาหนังคาเขาตอนที่กำลังนินทาเขาอยู่กับพี่ญาสุมินทร์ คุณแม่ก็รู้ว่าเขาโมโหร้ายแค่ไหน ทิพย์นี่กลัวมากเลยรีบเผ่นหนีออกมาก่อน ทิพย์คิดว่าพี่ญาสุมินทร์จะต้องแย่แน่ๆ แต่คุณแม่ดูสิคะว่าเกิดอะไรขึ้น" ทิพย์มณีร้องอุทานออกมา

“นั่นสินะ ญาสุมินทร์กลับรอดมาได้ ไม่มีแม่แต่รอยขีดข่วน มิหนำซ้ำ ยังเกลี้ยกล่อมให้พี่ชายเราไปเยี่ยมครอบครัวพร้อมกับเขาได้อีกด้วย” มิลากล่าวเสริม

"ใช่ค่ะ! ไม่น่าเชื่อ"

ทิพย์มณีคิดว่ามันดูไม่น่าเชื่อเกินไป ชั่วขณะหนึ่ง เธอคิดว่ากำลังฝันอยู่

“ก็เพราะเหตุนี้แหละ วันนี้แม่ถึงต้องรีบไปทำบุญ แม่สังหรณ์ใจว่าการแต่งงานครั้งนี้ของพี่ชายเราจะไม่สั้นเหมือนครั้งก่อนๆ”

มิลายิ้มอย่างเบิกบาน นัยน์ตาเป็นประกายระยิบระยับ เธอสั่งลูกสาวว่า "ไปตามญาสุมินทร์ลงมาหน่อยสิลูก"

หลังอาหารเย็น ญาสุมินทร์กลับไปที่ห้องของเธอ เธอต้องเตรียมตัวสำหรับบททดสอบในวันถัดไป ดังนั้นเธอจึงมีเวลาอยู่พูดคุยกันไม่มากนัก

ขณะที่เธอกำลังเดินลงบันได ก็พบกับเศรษฐเสถียรที่เพิ่งออกมาจากห้องหนังสือ

เขามองเธอด้วยสายตาอาฆาตมาดร้ายอย่างแรงกล้า ทำให้ญาสุมินทร์รู้สึกแน่นหน้าอก ราวกับว่าเขากำลังกลืนเธอเข้าไปทั้งตัว

“คุณแม่มีอะไรให้หนูช่วยเหรอคะ”

เธอเดินตรงไปหามิลาและถามด้วยน้ำเสียงที่สุภาพ

"ป่ะ ไปนั่งก่อน"

มิลาพยุงญาสุมินทร์ให้นั่งลง เธอถอดกำไลแวววาววงหนึ่งออกจากข้อมือขวาแล้วยื่นให้ ญาสุมินทร์ “นี่เป็นมรดกตกทอดของตระกูลเรา แล้วก็เป็นของขวัญจากคุณแม่สามีของฉัน ฉันขอมอบให้หนูตอนนี้เลย” มิลามองดูกำไลของเธออย่างเคร่งขรึม เธอสวมมันตั้งแต่จำความได้

พอมิลาพูดจบ ทุกอย่างก็ตกอยู่ในความเงียบ เงียบถึงขนาดที่ว่าถ้าเข็มหมุดตกก็ยังได้ยินเสียง ราวกับว่าเวลาได้หยุดลง

แน่นอนว่า เศรษฐเสถียรก็เป็นคนหนึ่งที่ตกใจมากที่สุดในชีวิต เขาทำลายความเงียบด้วยคำปรามาส “คุณย่าให้กำไลนั่นแก่คุณแม่ มันเป็นมรดกตกทอดของตระกูลศรีอมรรัตน คุณแม่จะมอบให้คนอื่นได้ยังไง”

“ญาสุมินทร์ไม่ใช่คนอื่น เขาเป็นสะใภ้ของแม่ แล้วก็เป็นภรรยาของลูก” มิลาตอบอย่างไม่พอใจ

“ผมมีภรรยาตั้งหลายคน ทำไมเขาถึงเป็นคนเดียวที่ได้ล่ะครับ” เศรษฐเสถียรยังคงถามต่อ

"ถึงเขาจะไม่ใช่คนแรก แต่แม่มั่นใจว่าเขาจะเป็นคนสุดท้าย" มิลาตอบ

เศรษฐเสถียรกำลังจะเป็นบ้า ผู้หญิงคนนั้นทำเสน่ห์ใส่คนในครอบครัวของเขาอย่างแน่นอน พอเขาเถียงชนะแม่ไม่ได้ จึงเปลี่ยนเป้าหมายไปที่ญาสุมินทร์แทน เขามองเธอด้วยสายตาพิฆาตอีกครั้ง เหมือนกำลังเตือนเธอทางสายตาว่า ห้ามรับกำไลนั้นเด็ดขาด ไม่อย่างนั้น เธอเจอดีแน่

บทก่อนหน้า
บทถัดไป