บทที่ 13
“ขอบพระคุณค่ะคุณแม่ แต่หนูคงรับกำไลนี้ไว้ไม่ได้”
ญาสุมินทร์ปฏิเสธอย่างสุภาพ ไม่ใช่เพราะเธอกลัวสายตาพิฆาตของเศรษฐเสถียร แต่เธอรู้สึกว่ามรดกชิ้นนี้เป็นของขวัญที่ล้ำค่าเกินกว่าจะรับไว้ได้ อีกอย่าง เธอก็เพิ่งจะเข้ามาเป็นสะไภ้อย่างเต็มตัวได้เพียงไม่กี่วันเท่านั้น
แม้เธอจะมีเลือดปีศาจอยู่ในตัว แต่อย่างน้อยเธอก็ยังมีมโนธรรมเยี่ยงนางฟ้าอยู่บ้าง
"ทำไมล่ะ"
สีหน้าของมิลาดูผิดหวัง เธอคิดว่าเพราะคำพูดของเศรษฐเสถียรจึงทำให้ญาสุมินทร์ปฏิเสธเธอ
“หนูเพิ่งจะเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ หนูคิดว่าหนูยังไม่คู่ควรกับมัน คุณแม่เก็บเอาไว้ก่อนแล้วค่อยมอบให้หนูเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมดีกว่าค่ะ” ญาสุมันทร์ค่อยๆอธิบาย
ความเครียดของเศรษฐเสถียรค่อยๆผ่อนคลายลง คำตอบที่น่าพึงพอใจของญาสุมินทร์ทำให้เขาพอใจ
“มันไม่เกี่ยวหรอกว่าของมีค่าหรือไม่มีราคา ฉันถือว่าหนูเป็นลูกสะใภ้ของฉัน ถึงแม้ว่า...”
เธอเหลือบมองลูกชายของเธอแล้วฝืนพูดว่า “ถึงแม้ว่าหนูจะทนกับการแต่งงานแบบนี้ไม่ได้แล็วก็จากไปในที่สุด ฉันก็จะไม่โทษหนู ทีนี้มันก็ขึ้นอยู่กับหนูแล้วล่ะว่าอยากจะรับมันไว้หรือไม่” เธอสรุปอย่างมั่นคง
มิลายืนกรานที่จะสวมกำไลให้ญาสุมินทร์ ตอนแรกเธอรู้สึกตะขิดตะขวงใจ แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธมิลาได้อีก เมื่อเห็นว่าเธอมีความมุ่งมั่นเพียงใด
เธอรู้เจตนาของมิล่าดี มิลาอยากให้เธออยู่กับครอบครัวนี้ไปตลอดชีวิตเฉกเช่นเดียวกับกำไล
ญาสุมินทร์กลับไปที่ห้องของเธอพร้อมกับกำไลที่บ่งบอกถึงสถานะลูกสะใภ้ของศรีอมรรัตน เธอรู้ดีว่าต้องมีคนรอพิพากษาเธออยู่แน่นอน
เป็นไปตามคาด ภายในเวลาไม่ถึงสามนาที เศรษฐเสถียรก็ทุบประตูห้องแล้วตะโกน "ญาสุมินทร์ ออกมานี่!"
ญาสุมินทร์ ไม่รู้สึกอะไรเลยนอกจากขาดสติสัมปชัญญะอย่างสิ้นเชิง นี่เป็นครั้งแรกที่เศรษฐเสถียรเรียกชื่อเต็มของเธอ เธอถึงกับขนหัวลุก
เธอเปิดประตูและถามช้าๆ "มีอะไรเหรอคะ"
"เอามาให้ผม"
"อะไรเหรอคะ" เธอแกล้งทำเป็นไม่รูเรื่อง
เศรษฐเสถียรไม่เสียเวลาอธิบาย ดึงข้อมือเธอมาอย่างแรงพร้อมกับพูดว่า “คุณจะถอดมันออกเองหรือจะให้ผมถอด”
“แต่คุณแม่ให้ฉันมา” ญาสุมินทร์ก็ท้าทายเช่นกัน
“งั้นผมคงต้องถอดเองแล้วล่ะ”
ในขณะที่เขากำลังจะถอดกำไล ญาสุมินทร์ก็เตือนเขาว่า “ถ้าคุณยืนยันที่จะถอด ฉันจะบอกทุกคนในบ้านว่าคุณแพ้พนันฉัน”
นี่ไม่ต่างจากการเพิ่มโทสะให้กับเศรษฐเสถียรที่กำลังโกรธจัด "คุณกล้าดียังไงมาขู่ผม"
“ก็คุณบังคับให้ฉันทำเอง” ญาสุมินทร์ตอบโต้
เศรษฐเสถียรเอี้ยวตัวไปตรึงญาสุมินทร์ไว้กับผนังอย่างรวดเร็ว สายตาที่มองมาแทบแผดเผาเธอจนเป็นผุยผง “ดูเหมือนว่า ผมจะตัดสินใจผิดพลาดมาตั้งแต่ต้น
"อืม ดูเหมือนว่าคุณจะเลือกคู่ต่อสู้ที่สูสีกันตั้งแต่ต้น"
เธอยังกล้าที่จะปฏิเสธ ผู้หญิงคนนี้คงจะใช้ชิวิตจนเหนื่อยแล้วสินะ เขาโมโหสุดขีด เศรษฐเสถียรเริ่มหัวเราะเยาะออกมา ญาสุมินทร์หน้าถอดสี
“ก็ได้ ในเมื่อคุณไม่อยากถอด ก็ไม่เป็นไร แต่อาทิตย์นี้อย่ามาเสียใจก็แล้วกัน” เศรษฐเสถียรขู่
“คุณจะผิดสัญญาอย่างนั้นเหรอ”
“เปล่า ผมจะไปกับคุณ แต่ผมไม่รับประกันนะว่าผมจะประพฤติตัวเวลาที่อยู่ในบ้านธารธารายังไง เพราะสุดท้ายแล้ว นี่ก็ไม่ได้อยู่ในข้อตกตกลงของเรา ใช่ไหมล่ะ” เศรษฐเสถียรรู้ว่าเขาถือไพ่เหนือกว่า
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเศรษฐเสถียรฉลาดแค่ไหน เขายังอุตส่าห์หาช่องโหว่ในข้อตกลงได้อย่างง่ายดาย
ญาสุมินทร์คิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะประนีประนอม “คุณคิดว่าถ้าฉันคืนกำไลให้คุณ คุณจะทำตัวดีไหม”
“ผมจะลองคิดดู” เศรษฐเสถียรยิ้มเยาะ
