บทที่ 14

ญาสุมินทร์ถอดกำไลออกส่งให้เศรษฐเสถียรพร้อมกับพูดว่า "อย่าลืม ทำตัวดีๆก็แล้วกัน!"

เขารับกำไลไปพร้อมกับถามอย่างกวนๆว่า "ยังไงล่ะ คุณทำให้ผมดูได้ไหม ผมยังไม่เคยพาผู้หญิงกลับบ้านมาก่อนเลย"

เธอลดเสียงลง “คุณไม่จำเป็นต้องทำอะไรมาก แค่สร้างภาพว่าเราเป็นคู่รักที่รักกันก็พอ”

เศรษฐเสถียรยิ้มหยัน “ดูเหมือนว่า คุณไม่เพียงแค่หลงตัวเอง แต่ยังชอบโอ้อวดเพื่อรักษาภาพลักษณ์ของตัวเองอีกด้วย การที่คุณขอให้ผมแกล้งทำเป็นรักคุณทั้งๆ ที่ผมไม่ได้รู้สึกอะไรกับคุณเลย คุณไม่รู้สึกอายบ้างเหรอ”

ญาสุมินทร์ไม่ได้สนใจคำพูดประชดประชันของเขานัก ในความรู้สึกของเธอ พวกเขาสองคนต่างก็เป็นคนประเภทเดียวกัน

พอกลับมาถึงห้อง ญาสุมินทร์ก็นั่งทบทวนตารางสอนของวันรุ่งขึ้น พอถึงเวลา 21.45 น. เธอจึงเก็บหนังสือแล้วหยิบชุดนอนเตรียมตัวอาบน้ำ

อุปนิสัยทุกอย่างของเธอล้วนดี มีวินัย ทั้งยังเป็นคนตรงต่อเวลา

เมื่อเดินไปถึงห้องน้ำ จู่ๆเธอก็ต้องหยุดชะงักเพราะเสียงที่ดังขึ้น "หยุดอยู่ตรงนั้น!"

เธอหันไปมองชายผู้เกียจคร้านและแสร้งทำเป็นหลับ เธอถามว่า "เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ"

"คุณกำลังจะทำอะไร" เขาถาม

เธอตอบเสียงเรียบ “ฉันกำลังจะอาบน้ำ”

“ใครบอกว่าคุณว่าคุณสามารถใช้ห้องน้ำห้องนี้ได้”

ญาสุมินทร์ เบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจและพูดว่า "ที่นี่มีห้องน้ำแค่ห้องเดียว ฉันจะไปที่ไหนได้อีก"

"ไปใช้ห้องน้ำห้องข้างๆ ไป!"

เธอไม่อยากจะเชื่อ “ถ้าเป็นแบบนี้ ฉันย้ายไปอยู่ห้องข้าง ๆ ได้ไหม วิธีนี้จะช่วยเราไม่ต้องวุ่นวายมากนัก ฉันจะได้ไม่รบกวนคุณ”

“ห้องถัดไปเป็นห้องรับแขก คุณเป็นแขกงั้นเหรอ”

ญาสุมินทร์ย้อนถาม “ถึงฉันจะไม่ใช่แขก แต่ในสายตาคุณ ฉันก็ไม่ใช่คนอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ”

เศรษฐเสถียรลุกขึ้นพูดอย่างเกียจคร้าน “รู้ตัวก็ดี!”

ญาสุมินทร์หอบเสื้อผ้าของเธอไปที่ห้องพักแขกด้วยใจที่หดหู่ ขณะที่เธอยืนอยู่ใต้ฝักบัว เธอไม่เข้าใจเลยจริงๆ ถ้าเขาเกลียดผู้หญิงมากขนาดนั้น ทำไมเขาถึงต้องบังคับตัวเองให้อยู่ห้องเดียวกับผู้หญิงด้วยนะ?

เขาช่างเป็นคนที่ไร้สาระ ไร้เหตุผลและน่ารำคาญจริงๆ!

......

เพียงชั่วพริบตา วันอาทิตย์ก็มาถึง ถึงเวลาที่พวกเขาต้องไปแล้ว

เมื่อถึงเวลาทานอาหารเช้า มิลากล่าวว่า "ญาสุมินทร์ แม่บอกให้พนักงานเตรียมของขวัญไว้แล้ว ถ้าคืนนี้ลูกทั้งสองคนไม่กลับมาบ้าน ก็บอกแม่ด้วยแล้วกัน"

“ค่ะคุณแม่” ญาสุมินทร์ตอบ

เธอเหลือบมองเศรษฐเสถียร เห็นสีหน้าของเขามืดราวกับท้องฟ้ายามค่ำคืน ดูน่ากลัว

แม้ว่าเธอจะรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าครอบครัวศรีอมรรัตนนั้นร่ำรวย แต่เมื่อเธอเห็นของกำนัลที่วางอยู่ในรถ ญาสุมินทร์ก็ยังคงตกตะลึงจนแทบจะนึกภาพใบหน้าอันละโมบของดารณีที่ยิ้มจนหน้าบานได้

รถเริ่มเคลื่อนที่ เศรษฐเสถียรยังคงเงียบ พอไปถึงครึ่งทาง ญาสุมินทร์ พูดย้ำว่า "อย่าลืมแสดงละครว่าเรารักกันนะคะ!"

“จะพยายามทำให้ดีที่สุด” เขาพูดอย่างไม่ใส่ใจนัก

เมื่อไปถึงที่หมาย พวกเขาเห็นตั้งแต่ไกลว่าเหมราชพร้อมภรรยาและลินดาลูกสาวของพวกเขารออยู่ที่ทางเข้าพร้อมกับคนใช้จำนวนมาก เป็นการต้อนรับที่เอิกเกริกมาก

"คุณพระคุณเจ้า! ฉันรอเวลานี้มานาน! ในที่สุดลูกสาวฉันก็กลับมา!" ดารณีพูดอย่างเขินอาย

การแสดงออกที่เกินจริงของเธอช่างน่าหมั่นไส้ ดารณีรีบเข้าไปหาญาสุมินทร์ พร้อมดึงเธอเข้าไปกอด ญาสุมินทร์ยิ้มแต่ในใจรู้สึกรังเกียจ

“โอ้ คุณเศรษฐเสถียร ยินดีต้อนรับครับ!”

เหมราชเอื้อมมือออกไปอย่างกระตือรือร้นเพื่อประจบสอพลอ

ดารณีก็รีบเข้ามาสมทบทันที เธอชื่นชมลูกเขยถึงรูปร่างหน้าตาและความสำเร็จของเขาไม่ขาดปาก ลูกสาวของเธอโชคดีมากที่ได้แต่งงานกับผู้ชายที่ยอดเยี่ยมอย่างเขา ญาสุมินทร์มองดูการกระทำทั้งหมดและอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะตัวเองในใจ นี่มันบ้านของเธอ แต่คนเหล่านี้ กลับไม่มีใครสนใจเธอเลย...

บทก่อนหน้า
บทถัดไป