บทที่ 6 6
“อุ๊ย!”
ตุ้บ!
ตุลาการเงยหน้าขึ้นมองข้าวปั้นก่อนจะหันไปมองวิลเลียมที่ยังแสดงสีหน้าปกติเหมือนเดิม เพราะเขามัวแต่ก้มลงมองเอกสารในมือจึงไม่เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนข้าวปั้นจะก้มลงเก็บแฟ้มวางไว้บนโต๊ะ แล้วขอตัวเดินออกจากห้องทันที
วิลเลียมยกยิ้มมุมปากเล็กน้อยอย่างเจ้าเล่ห์ ไม่คิดว่าการมาทำหน้าที่แทนลิซานเดอร์จะทำให้เขาได้เจอกับคนที่ตามไปหลอกหลอนเขาถึงในฝันจนไม่เป็นอันหลับอันนอนตลอดค่อนคืน
“คุณตุลาการ ตกลง ผมจะลงทุนกับคุณ”
“งั้นเซ็นสัญญาได้เลยครับ” เลขาฯ ที่ยืนอยู่ด้านหลังยื่นสัญญาการลงทุนให้ตุลาการ ก่อนจะส่งมันให้วิลเลียม
“แต่ผมอยากได้คนคอยประสานงานกับทางคุณและทางผม ขอคนที่ไว้ใจได้ อ้อ ผมถูกชะตากับผู้หญิงคนเมื่อกี้ คุณคงไม่ว่าอะไรหากจะให้เธอดูแลงานนี้” วิลเลียมยังไม่รับสัญญาที่ตุลาการยื่นมาให้ ก่อนจะพูดความต้องการของตัวเองให้อีกฝ่ายฟัง
ตุลาการมองหน้าวิลเลียมอย่างใช้ความคิด
“ผมว่าส่งคนทำงานคนใหม่ดีกว่าไหมครับ” ตุลาการแย้งขึ้น เพราะ
ผู้ชายตรงหน้าถึงไม่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเสือผู้หญิง แต่ก็ไม่ไว้ใจให้ข้าวปั้นไปทำงานต่างแดนด้วยยิ่งเธอไม่ทันคน จะแย่เอาได้
“ผมต้องการคนนี้ หวังว่าเราคงจะได้ร่วมมือกัน” วิลเลียมพูดยืนยันความต้องการของตัวเอง ไม่ยอมให้ใครปฏิเสธสิ่งที่เขาอยากได้
“ผมให้ความสมัครใจของพนักงานเป็นหลัก หากเธอไม่ยอม ผมคงสั่งไม่ได้” ตุลาการตอบกลับอย่างเสมอภาคกัน
“งั้นวันนี้การเซ็นสัญญาคงต้องยุติลงก่อน หากคนของคุณตัดสินใจได้แล้วรบกวนเอาสัญญาไปให้ผมเซ็นด้วย ผมจะอยู่เมืองไทยอีกสามวัน” วิลเลียมพูดจบก็ลุกขึ้นเดินออกจากห้องทำงานไปทันที ทิ้งให้ตุลาการมองตามอย่างเสียดาย เพราะโอกาสได้ร่วมลงทุนกับคนแบบวิลเลียมหาได้ยาก
หลังจากวิลเลียมเดินทางกลับ ตุลาการก็เรียกให้ข้าวปั้นมาพบ
“เรียกข้าวปั้นมามีอะไรหรือเปล่าคะ” ข้าวปั้นเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าโต๊ะทำงานใหญ่ ใบหน้าหล่อคมสันเงยหน้าขึ้นมองต้นเสียงก่อนจะวางปากกาลง
“พี่มีเรื่องอยากจะถามความสมัครใจของข้าวปั้น” ตุลาการลุกขึ้นเดินมานั่งโซฟาสีเบจแล้วเริ่มพูดเข้าเรื่อง
“เรื่องอะไรหรือคะ” ข้าวปั้นเห็นสีหน้าหนักใจของอีกฝ่ายก็ถามอย่างเป็นห่วง ทั้งยังกังวลใจว่าอาจจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับผู้ชายคนนั้นก็ได้
“คุณวิลเลียมอยากให้เราช่วยประสานงานระหว่างเขากับพี่ เราพอจะทำได้ไหม” ตุลาการเห็นความสับสนของอีกฝ่าย จึงพูดเสริมเพื่อให้ข้าวปั้นคลายความกังวลใจ “แต่ถ้าเราไม่อยากทำบอกพี่ได้ เดี๋ยวพี่ส่งคนใหม่ไปแทน”
ข้าวปั้นยิ่งคิดก็ยิ่งสับสน ในใจนั้นอยากไปทำงานกับวิลเลียม ทว่าเธอขลาดกลัวเกินกว่าจะตอบตกลงในทันที
“ข้าวปั้นขอไปคิดก่อนได้ไหมคะ”
“ได้ ถ้าตกลงยังไงบอกพี่ด้วย เพราะเขาจะอยู่เมืองไทยอีกแค่สามวันเท่านั้น” ตุลาการพูดขึ้นก่อนจะพยักหน้าให้ข้าวปั้นกลับไปทำงานของตัวเอง
วิลเลียมไม่ได้เดินทางกลับที่พักในทันที แต่ออกไปสะสางงานค้างที่บริษัทสาขาซึ่งกำลังจะเปิดในเมืองไทย รอเวลาจะได้พบกับเป้าหมาย
ข้าวปั้นเดินออกจากบริษัทในเวลาหลังเลิกงาน เพราะวันนี้เธอต้องเคลียร์งานที่ทำผิดพลาดอีกครั้งจนเย็น หญิงสาวรีบซอยเท้าไปยังป้ายรถเมล์เที่ยวสุดท้ายซึ่งจะออกตอนหกโมงเย็น เท้าเล็กชะงักอยู่กับที่แล้วหันมองรถยนต์คันหรูสีดำบีบแตรเรียกเธอ กระจกรถด้านหลังถูกลดลงจนเห็นบุคคลด้านในกำลังมองเธอนิ่ง ๆ แต่นัยน์ตาคมคู่นั้นกลับเข้มจนเธอหวั่นใจ
“คุณมีธุระอะไรกับฉันหรือเปล่าคะ” ข้าวปั้นเป็นฝ่ายถามขึ้น เพราะอีกฝ่ายไม่ยอมพูดอะไรสักที
“ขึ้นมา ผมมีเรื่องอยากคุยกับคุณ” วิลเลียมพูดพร้อมส่งสายตาบังคับกลาย ๆ แต่ข้าวปั้นกลับไม่ยอมทำตาม หันไปมองรถเมล์เที่ยวสุดท้ายซึ่งกำลังจอดอยู่ตรงป้ายรถอีกไม่ไกลแทน
“แต่ฉันต้องกลับบ้าน รถเมล์จะหมดแล้ว” ข้าวปั้นพูดขึ้นแล้วเตรียมก้าวเท้าออกเดิน แต่เสียงเข้มขึ้นกลับพูดสั่งอีกครั้ง
“ผมบอกให้ขึ้น อย่าขัดใจผม เพราะไม่อย่างนั้นคุณได้ขายหน้าคนทั้งป้ายรถเมล์นั้นแน่”
ข้าวปั้นมองคนตรงหน้าเริ่มคุกคามด้วยสายตาพลางชั่งใจ หากเธอยอมขึ้นรถไปไม่ตกเป็นเหยื่ออันโอชะให้แก่คนตรงหน้านี้หรือ แต่ถ้าไม่ยอมขึ้นไปมีหวังได้อายคนกำลังเตรียมขึ้นรถเมล์ แต่เธอไม่ทันได้คิดตก รถเมล์ขบวนสุดท้ายก็ออกจากชานชาลาเสียก่อนแล้ว ทำให้ต้องยอมเปิดประตูรถเข้าไปนั่งด้านใน
“คุณมีอะไรจะคุยก็พูดมาเลยค่ะ ตอนนี้มันเย็นมากแล้ว” ข้าวปั้นพูดขึ้นโดยไม่หันไปมองคนข้างกาย ในขณะที่รถกำลังเคลื่อนตัวออก ทำให้เธอหันมองอย่างหวาดกลัว สีหน้าและท่าทางของสาวน้อยคนนี้กลับทำให้วิลเลียมชอบจนอยากจะแกล้งบ่อย ๆ
คนบ้า! ถามก็ไม่ยอมตอบ ข้าวปั้นคิดในใจ รู้สึกว่ากำลังถูกแกล้งอยู่
วิลเลียมได้แต่มองเสี้ยวหน้างาม ครั้งแรกเขาไม่ทันได้สังเกตเจ้าหล่อนมากนัก บวกกับอารมณ์เสียจากวีดาที่บินมาก่อกวนไม่เลิกรา
รถยนต์หรูแล่นมาจอดตรงทางเข้าร้านอาหารสไตล์ยุโรปซึ่งเน้นเรื่องความเป็นส่วนตัวของลูกค้า บรรยากาศจึงเงียบสงบ และมีเพียงคนกระเป๋าหนักสามารถจับจองที่นั่งได้ เพราะร้านมีคิวจองยาวนานมาก และที่สำคัญเป็นร้านขึ้นชื่อเรื่องความอร่อยและราคาแพง
“ผมหิว”
