บทที่ 9

ทอดด์อึ้งไปกับคำถาม เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบ “ผมว่าไม่น่าจะใช่นะครับ... บางทีคุณหมอไคท์อาจจะแค่ไม่อยากเจอคุณ...”

ยังไม่ทันจะพูดจบ เขาก็เผลอตัวสั่นสะท้านขึ้นมา พอเงยหน้าขึ้นไปก็เป็นไปตามคาด เขาเห็นใบหน้าบูดบึ้งของเดอร์มอต

ความกลัวแล่นปราดเข้าจับใจเขา เขาไม่น่าพูดแบบนั้นออกไปเลย...

“เป็นไปไม่ได้ครับ!” ทอดด์รีบยืนยันอย่างหนักแน่น “คุณดอยล์ครับ คุณมีเสน่ห์จะตายไป ไม่มีผู้หญิงคนไหนไม่ชอบคุณหรอกครับ คุณหมอไคท์ต้องกำลังเล่นตัวอยู่แน่ ๆ”

เขาไม่ได้กำลังประจบสอพลอ เพราะท้ายที่สุดแล้ว ในเมืองมอริสแห่งนี้เดอร์มอตคือชายในฝันของผู้หญิงทุกคนจริง ๆ ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนปฏิบัติต่อเขาเหมือนที่เอเวลินทำ เขาจึงคิดว่าเธอกำลังใช้ลูกไม้แบบนี้เพื่อดึงดูดความสนใจของเดอร์มอต

แต่นั่นคือความจริงหรือ?

หนึ่งสัปดาห์ต่อมา แคสซี่ถูกย้ายจากห้องไอซียูไปยังห้องพักฟื้นปกติ เมื่อเอเวลินมาตรวจวอร์ดตามปกติ แคสซี่กำลังนั่งอยู่บนเตียง จมอยู่กับโทรศัพท์ของเธอ ดูดีขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก

“วันนี้รู้สึกเป็นยังไงบ้างคะ?” เอเวลินถามตามกิจวัตร

แคสซี่ยิ้ม “ฉันรู้สึกดีมากค่ะ”

เอเวลินพยักหน้า ไม่ได้ประหลาดใจ “ดีแล้วค่ะ อีกไม่กี่วันก็น่าจะกลับบ้านได้แล้ว”

พูดจบเธอก็เตรียมจะเดินจากไป แต่ในตอนนั้นเอง แคสซี่ก็รั้งเธอไว้ “คุณหมอไคท์คะ พอจะมีเวลาสักครู่ไหมคะ?”

เอเวลินขมวดคิ้วถาม “มีอะไรเหรอคะ?”

“คือ... ฉันแค่อยากจะคุยกับคุณหมอสักหน่อยค่ะ” เธอพูดเสียงเบา ทำท่าทางน่าสงสาร

แต่ในสายตาของเอเวลิน แคสซี่ก็ไม่ต่างจากคนไข้คนอื่น ๆ

“ขอโทษด้วยนะคะ แต่ฉันยุ่งมาก” เธอปฏิเสธ

“แค่แป๊บเดียวเองค่ะ” แคสซี่พูดพลางมองเอเวลินอย่างคาดหวัง

ก่อนที่เอเวลินจะทันได้ปฏิเสธ แพทย์ที่มาตรวจวอร์ดพร้อมกับเธอก็พูดแทรกขึ้นมา “คุณหมอไคท์ครับ ไม่ต้องห่วงเรื่องตรวจวอร์ดหรอก พวกเราจัดการต่อเองได้”

แคสซี่เป็นคนรักของเดอร์มอต พวกเขาจึงไม่กล้าขัดใจเธอ ทั้งยังกลัวว่าคุณหมอไคท์จะไม่รู้ถึงอิทธิพลของเดอร์มอต จึงได้แนะนำให้เธออยู่ต่อ

ในไม่ช้า ทุกคนก็ออกไปหมด เหลือเพียงเอเวลินอยู่ตามลำพังในห้องพักผู้ป่วย

เอเวลินรู้สึกหงุดหงิดใจไม่น้อย เธอมองแคสซี่ที่นอนอยู่บนเตียงอย่างสงสัย สัญชาตญาณบอกเธอว่าแคสซี่ไม่ได้มีเจตนาดี

เธอเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้ข้างเตียง “คุณมีเรื่องอะไรอยากจะคุยกับฉันเหรอคะ?”

“ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ ฉันแค่อยากจะขอบคุณคุณ ถ้าไม่ได้คุณ ฉันอาจจะตายไปแล้วก็ได้” แคสซี่พูดพลางยิ้มอย่างใสซื่อ

เอเวลินยังคงมีสีหน้าเรียบเฉย ไม่ไหวติง “คุณไม่ต้องขอบคุณฉันหรอกค่ะ ฉันแค่ทำตามหน้าที่ และคุณดอยล์ก็เป็นคนจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้”

แถมยังไม่ใช่น้อย ๆ ด้วย

"ฉันรู้ค่ะว่าเดอร์มอตทำหลายสิ่งเพื่อช่วยฉัน แต่ไม่ว่าจะยังไง คุณก็คือผู้มีพระคุณช่วยชีวิตฉันอยู่ดี" เธอดูจริงใจเสียจนเอเวลินเกือบจะสงสัยว่าตัวเองมองโลกในแง่ร้ายเกินไปหรือเปล่า

แต่ในไม่ช้า คำพูดต่อมาของแคสซี่ก็ยืนยันความสงสัยของเอเวลิน

“คุณหมอไคท์คะ คุณยังสาวขนาดนี้ มีแฟนหรือยังคะ?” เธอถาม

เอเวลินส่ายหน้า ไม่ได้ตอบอะไร อยากรู้ว่าอีกฝ่ายต้องการอะไรกันแน่

“แล้วคุณชอบผู้ชายแบบไหนเหรอคะ? ฉันรู้จักชายหนุ่มเก่ง ๆ อยู่หลายคนนะ เดี๋ยวฉันแนะนำให้ได้” เธอเสนอ

เอเวลินยังคงนิ่งเงียบ สายตาที่มองแคสซี่เริ่มเย็นชาลง

แคสซี่รีบเสริม “อย่าเข้าใจผิดนะคะ ฉันแค่อยากจะแสดงความขอบคุณเท่านั้นเอง”

แล้วเธอก็ถามขึ้นมาอย่างกะทันหัน “คุณคิดยังไงกับเดอร์มอตเหรอคะ?”

พูดจบ เธอก็จ้องเอเวลินเขม็ง พยายามอ่านสีหน้าของอีกฝ่าย

เอเวลินอดหัวเราะไม่ได้ ที่แท้ก็กังวลเรื่องนี้นี่เอง

“คุณแอคเกอร์คะ อย่ามาลองใจฉันเลย ฉันไม่ได้สนใจคุณดอยล์” ดูเหมือนว่าเดอร์มอตจะให้ความรักกับแคสซี่ไม่มากพอสินะ ไม่เช่นนั้นเธอจะรู้สึกไม่มั่นคงขนาดนี้ทำไม

เดอร์มอตนี่มันไอ้สารเลวจริง ๆ!

“คุณหมอไคท์คะ ฉัน... ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นนะคะ” เธอพูดด้วยท่าทางเหมือนได้รับความไม่เป็นธรรม

ขณะที่เอเวลินกำลังจะอ้าปากพูด ประตูห้องพักผู้ป่วยก็ถูกผลักเปิดออก และเดอร์มอตก็เดินเข้ามา “คุยอะไรกันอยู่?”

“เดอร์มอต” พอเห็นเขา แคสซี่ก็ยิ้มทันที “ฉันกำลังถามคุณหมอไคท์อยู่ค่ะว่าเธอชอบผู้ชายแบบไหน พวกเราจะได้แนะนำหนุ่ม ๆ เก่ง ๆ ที่เรารู้จักให้เธอไงคะ”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าของเดอร์มอตก็เคร่งขรึมลง รู้สึกหงุดหงิดอยู่บ้าง “คุณหมอไคท์เก่งขนาดนี้ ไม่ต้องการให้เธอมาช่วยเรื่องแบบนี้หรอก”

“นั่นสินะคะ” แคสซี่พยักหน้า แต่เธอก็ยังไม่ยอมแพ้และหันไปหาเอเวลิน “แต่คุณหมอไคท์คะ อย่างน้อยก็บอกหน่อยได้ไหมคะว่าคุณไม่ชอบผู้ชายแบบไหน พวกเราจะได้ไม่แนะนำคนแบบนั้นให้คุณ”

เอเวลินเหลือบมองเดอร์มอตแล้วพูดเรียบ ๆ “ฉันไม่ชอบคนนามสกุลดอยล์ค่ะ”

อุณหภูมิในห้องดูเหมือนจะลดฮวบลงทันที

เดอร์มอตจ้องเอเวลินราวกับจะฆ่าเธอให้ตาย “ขอเหตุผลด้วย”

“หมอดูเคยทักว่าคนนามสกุลดอยล์จะนำโชคร้ายมาให้ฉันค่ะ” เธอพูดความจริง พวกเขาหย่ากันโดยไม่ได้เจอหน้ากันมาสองปีแล้ว

บรรยากาศในห้องพักผู้ป่วยตึงเครียดจนน่าอึดอัด

แคสซี่รู้สึกเหมือนหายใจไม่ออก “คุณหมอไคท์คะ คุณกับเดอร์มอตมีเรื่องเข้าใจผิดอะไรกันหรือเปล่าคะ?”

แม้แต่เธอก็ยังสัมผัสได้ถึงความเป็นปรปักษ์ของเอเวลินที่มีต่อเดอร์มอต แต่เธอไม่รู้ว่าทำไม

“อย่าคิดมากเลยค่ะ ฉันก็แค่ไม่อยากเจอโชคร้าย” เธอพูด

“คุณหมอไคท์คะ คุณได้ยินข่าวลือมาหรือเปล่า” แคสซี่พูดต่อ พยายามปกป้องเดอร์มอต “เดอร์มอตเคยหย่ามาก็จริง แต่นั่นไม่ใช่ความผิดของเขานะคะ ภรรยาเก่าของเขาเป็นแค่ยัยบ้านนอกหยาบกระด้าง เขาอยู่สูงเกินกว่าที่เธอจะเอื้อมถึง การหย่าร้างของพวกเขาเลยเป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้ คุณหมอไคท์อย่าถือสาเรื่องนั้นกับเดอร์มอตเลยนะคะ”

เห็นได้ชัดว่าแคสซี่ดูถูกภรรยาเก่าของเดอร์มอต เธอไม่มีวันรู้เลยว่าผู้หญิงที่เธอกำลังเหยียดหยามอยู่นั้นยืนอยู่ตรงหน้าเธอและเพิ่งจะช่วยชีวิตเธอเอาไว้

เอเวลินแค่นหัวเราะในใจ พลางเงยหน้ามองเดอร์มอต “คุณดอยล์คะ นั่นคือสิ่งที่คุณคิดกับภรรยาเก่าของคุณเหมือนกันหรือเปล่า”

บทก่อนหน้า
บทถัดไป