บทที่ 11 พี่สะใภ้คือดาวนำโชค

หลังจากจัดการฝ้ายและงานที่ต้องทำในตอนเช้าจนเสร็จแล้วทั้งสี่คนรีบลงมือกินอาหารเช้าทันทีและหลังจากนั้นพวกเขาเตรียมตัวเข้าป่าด้วยกันอีกครั้ง

และครั้งนี้เฉิงคุณจะวางกับดักสัตว์เอาไว้ด้วยหากว่าโชคดีอาจจะได้สัตว์ป่าไปขายในเมืองเป็นการเพิ่มรายได้ให้แก่ครอบครัวด้วย

สองสามวันมานี้เงินที่เขาหามาได้ก็ใช้จ่ายไปเกือบจะหมดแล้ว ถึงแม้ว่าในแต่ละวันจะมีอาหารการกินเพิ่มขึ้นมาแต่เงินก็ยังเป็นสิ่งที่จำเป็นมากที่สุดสิ่งหนึ่งในบ้านตอนนี้

“เตรียมของเสร็จแล้วใช่หรือไม่ น้องรองน้องเล็ก แล้วพี่สะใภ้เจ้าล่ะนางอยู่ไหน”

“เตรียมเสร็จแล้วขอรับ พี่สะใภ้กำลังห่ออาหารสำหรับเอาไปกินในป่าขอรับ” ฮั่นคุณ

“อืม เตรียมน้ำดื่มเอาไปให้พอด้วยนะ เพราะพี่ไม่รู้ว่าพวกเราจะเดินเข้าป่าไปลึกมากแค่ไหน หากไม่เจอแหล่งน้ำแล้วจะแย่เอา”

“ขอรับพี่ใหญ่ ข้าจัดการเรียบร้อยแล้วมีพอสำหรับทุกคนแน่นอนขอรับ”

“รอนานหรือไม่เจ้าคะท่านพี่ ไปกันเถอะเจ้าค่ะเดี๋ยวสายมากกว่านี้จะร้อนเอาและข้าไม่อยากกลับมาช้าด้วย อย่าลืมว่าพวกเราตากฝ้ายเอาไว้หลังบ้าน ข้ากลัวคนอื่นจะมาพบเจอเข้า”

“วางใจเถอะเราตากในที่ลับตาคนอีกอย่างบ้านเราอยู่ท้ายหมู่บ้านไม่มีใครมาหรอก หากเจ้าไม่สบายใจเอาไว้ถ้าวันนี้ดักสัตว์ได้แล้วพี่จะนำไปขายจากนั้นค่อยซ่อมรั้วรอบ ๆ บ้านใช้ไม้ไผ่ทำรั้วไปก่อนเอาไว้มีเงินสร้างบ้านเมื่อไหร่เราค่อยเปลี่ยนเป็นกำแพงดินดีหรือไม่”

“เจ้าค่ะ ท่านพี่ว่ายังไง ข้าก็ว่าตามนั้น”

“ท่านพี่เจ้าคะ สมุนไพรสามารถนำไปขายได้หรือไม่เจ้าคะ”

“ได้สิ แต่ไม่ค่อยมีคนเอาไปขายหรอกนะ เพราะสมุนไพรมีค่าย่อมต้องหายากเป็นธรรมดา ไม่ใช่ว่าใครจะพบเจอได้ง่าย ๆ”

“เจ้าค่ะ ข้าถามดู เผื่อว่าพวกเราจะโชคดีเจอเพียงเท่านั้น”

“แต่ข้าว่าต้องเจอแน่ ๆ พี่สะใภ้บอกว่าเจอก็ต้องเจอ ข้าเชื่ออย่างนั้น”

“ขอบใจนะฮั่นคุณที่เชื่อใจพี่สะใภ้”

“ข้าเชื่อพี่สะใภ้อยู่แล้วขอรับ ว่าแต่ว่าวันนี้มีมันเผาของข้าหรือเปล่าขอรับ”

“มีสำหรับทุกคนจ้ะ อย่าห่วงเลย พี่สะใภ้เคยปล่อยให้เจ้าอดหรือ”

“ไม่เคยขอรับ”

เฉิงคุณมองลี่ถิงและน้องชายพูดคุยกันอย่างมีความสุข เขาโชคดีเข้าแล้วจริง ๆ ที่สามารถมีภรรยาที่จิตใจดีและเป็นคนดีมากขนาดนี้ได้

ต่อไปท่านพ่อท่านแม่คงตายตายหลับแล้ว และหมดห่วงเสียที ทั้งสี่คนเดินเข้าป่าลึกอีกด้าน ทางนี้ชาวบ้านธรรมดาไม่นิยมเข้ามาหาของป่า

ยกเว้นแต่พรานป่าเท่านั้นที่เข้ามาล่าสัตว์เพื่อนำไปขายบ้างก็เข้ามาหาสมุนไพรไปขายให้กับโรงหมอในเมือง

ป่าทางด้านนี้เป็นป่ารกทึบและมีสัตว์ป่าอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากและมีสัตว์ป่าอันตรายด้วยเช่นกัน

เฉิงคุณแยกออกไปวางกับดักและให้ลี่ถิงและน้องชายหาของป่าในบริเวณแถวนี้รอเขา

หลังจากเฉิงคุณออกไปวางกับดักแล้ว ลี่ถิงพาน้องชายทั้งสองคนเดินสำรวจรอบ ๆ บริเวณป่ารอสามีกลับมา

มีเพียงผักป่าและสมุนไพรแก้ไข้เท่านั้นที่นางเจอ แต่ว่านางยังไม่หมดหวังไปเสียทีเดียวหลังจากที่เฉิงคุณกลับออกมาจากป่าอีกด้านที่เขาเข้าไปวางกับดัก

พวกเขาก็ออกเดินต่อกันทันที ฮั่นคุณมีสีหน้าจริงจังมากเขาพยายามมองหาพืชแปลก ๆ และเมื่อพบก็จะรีบถามพี่สะใภ้ทันทีว่าใช่สมุนไพรหรือพืชที่สามารถกินได้หรือไม่

สวี่คุณเองก็ทำเช่นเดียวกันกับน้องชายเพราะพวกเขาไม่มีโอกาสเข้าป่าลึกมากนักเพราะพี่ชายไม่เคยยอมพาพวกเขาเข้ามาด้วย ทำให้มีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่พวกเขาไม่รู้จัก

ในตอนที่ลี่ถิงกำลังสอนให้น้องชายทั้งสองได้รู้จักสมุนไพรและผักป่าว่าอะไรที่สามารถกินได้และอะไรที่กินไม่ได้อยู่นั้น

สายตาของนางก็ไปปะทะเข้ากับบางสิ่งบางอย่างที่มันดูคุ้น ๆ เหมือนที่นางเคยอ่านและหาข้อมูลของพืชชนิดนี้เมื่อชาติที่แล้วของนาง

ดอกสีส้ม ๆ แบบนี้ ใบแบบนี้ ถ้าจะบอกว่าไม่ใช่ในสิ่งที่นางคิดมันก็เหมือนกับดับความหวังของตัวเอง

แต่ถ้าจะบอกว่ามันใช่เลยก็ไม่ได้ไม่อยากให้ความหวังตัวเองแล้วต้องมาผิดหวัง มีทางเดียวต้องพิสูจน์เท่านั้น

“ถิงเอ๋อร์ เจ้าเป็นอะไร มีอะไรหรือว่าโดนสัตว์มีพิษกัดเอาหรือ” เฉิงคุณที่เห็นลี่ถิงยืนนิ่งไม่ขยับจึงถามออกมาด้วยความร้อนใจและเดินเข้ามาหานาง

“ท่านพี่ ขอเสียมเจ้าค่ะ ข้าว่าข้าเห็นโสมซานซีเจ้าค่ะ”

“อะไรนะ จริงหรือ ไหน ๆ อยู่ตรงไหน”

“ท่านพี่เอาเสียมมาให้ข้าก่อน อยู่ตรงนั้นเจ้าค่ะ ข้าก็ไม่ค่อยแน่ใจต้องขุดดูถึงจะรู้แน่ชัด”

“ฮั่นคุณ เอาผ้าเช็ดหน้าเจ้าออกมา เก็บเมล็ดแก่พวกนี้แล้วห่อให้ดีล่ะ”

“ขอรับพี่สะใภ้”

ลี่ถิงลงมือขุดโสมซานซีด้วยความระมัดระวังเพราะกลัวว่าจะไปโดนรากของโสมขาดและไม่สมบูรณ์ทำให้ราคาตก

เฉิงคุณเองก็ลุ้นไปกับนางด้วยถ้าหากว่าใช่โสมซานซีจริง ๆ ล่ะก็เขาจะมีเงินทำรั้วบ้านใหม่ได้เลยทีเดียวและอาจจะได้บ้านหลังใหม่ด้วย

ถึงแม้ว่าราคาจะไม่ได้แพงเท่าโสมคน แต่โสมซานซีก็ถือว่ามีราคาแพงและหายากอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว หลังจากที่ลี่ถิงขุดขึ้นมาได้สำเร็จและมันก็ใช่โสมซานซีจริง ๆ ด้วย

“ท่านพี่ช่วยดูรอบ ๆ ว่ายังมีอีกหรือไม่ แถว ๆ นี้ดูให้ทั่วเจ้าค่ะ เพราะตรงนี้มีแค่สามต้นเท่านั้น"

“ได้ พี่จะดูให้เอง น้องรอง น้องเล็กพวกเจ้าเองก็หาดูให้ทั่ว”

“ขอรับพี่ใหญ่”

จนกระทั่งลี่ถิงขุดโสมซานซีทั้งสามต้นเสร็จ สามีและน้องชายกลับมาด้วยสีหน้าผิดหวังในบริเวณนี้พวกเขาไม่พบเจอโสมซานซีอีกเลย

“ไม่พบก็ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ 3 ต้นนี้ก็ดีมากแล้วยังพอให้เรานำไปขายในเมืองได้ ถึงแม้ราคาจะไม่แพงเท่าโสมคน แต่ยังถือได้ว่าราคาแพงมาก อย่าเสียใจไปเลยนะเจ้าคะ”

“อืม พี่นี่ไม่ได้เรื่องเลยต้องให้เจ้าคอยบอกคอยเตือนอยู่ตลอดเวลา”

“ท่านพี่อย่าพูดแบบนั้นเลยเจ้าค่ะ ท่านพี่เก่งที่สุดแล้วไม่มีท่านพ่อท่านแม่ยังสามารถเลี้ยงดูน้องชายมาได้ด้วยตัวคนเดียว อย่าได้โทษตัวเองเลยนะเจ้าคะ”

“ขอบใจเจ้ามาก  เราเดินต่อกันเถอะ เผื่อจะเจออะไรอีก”

“พี่สะใภ้ ท่านนี่เป็นดาวนำโชคของบ้านเราจริง ๆ เลยนะขอรับ เอาไว้ในตอนที่มีเห็ดป่าพี่สะใภ้ต้องพาข้าไปหาเห็ดสนนะขอรับ เห็ดสนมีราคาแพงมากและอร่อยมากด้วย”

“ได้ ๆ เอาไว้ให้ถึงตอนนั้นก่อนพี่สะใภ้คนนี้จะพาพวกเจ้าไปหาเห็ดทุกวันเลยดีหรือไม่”

“ดีมากเลยขอรับ”

หลังจากนั้น ทั้งสี่คนก็ออกเดินกันต่อไปเรื่อย ๆ จนท้องของฮั่นคุณร้องออกมาเสียงดังเพื่อเตือนว่าถึงเวลากินอาหารมื้อกลางวันแล้ว

ทำให้ลี่ถิงอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ เฉิงคุณเองก็ส่ายหน้าให้กับน้องชาย เมื่อเขาแหงนดูบนท้องฟ้า ดวงอาทิตย์ก็ตั้งตรงหัวพอดี

จึงได้พากันไปหาที่นั่งพักเพื่อที่จะกินมื้อเที่ยง วันนี้ลี่ถิงเอามันเผาและมีข้าวสวยพร้อมเนื้อหมูทอดนำมาเป็นอาหารกลางวันของทุกคน

หลังจากได้รับการแจกจ่ายอาหารแล้วทุกคนไม่รอช้ารีบลงมือกินด้วยความหิวโหยหลังจากอิ่มกันแล้ว ตบท้ายด้วยมันเผาหวาน ๆ เป็นของหวานล้างปาก

“พี่สะใภ้ มันเทศที่ท่านเอาลงไปปลูกตอนนี้มันงามมากเลยขอรับ มันไม่ตายแถมยังเจริญเติบโตเป็นอย่างดีด้วย”

“อืม เพราะเราใส่ปุ๋ยในดินก่อนปลูกยังไงล่ะ เอาไว้พี่จะสอนทำปุ๋ยหมักนะ”

“ขอรับพี่สะใภ้”

“ไปกันต่อเถอะ เดี๋ยวจะกลับบ้านมืดค่ำเอาได้”

หลังจากกินมื้อเที่ยงเสร็จแล้ว พวกเขาทั้งสี่คนก็เดินต่อทันทีเดินมาได้ไม่ไกลเท่าไหร่ ห่างจากจุดที่นั่งพักกินข้าวเมื่อสักครู่ ลี่ถิงก็เจอเข้ากับเผือก (ยวี่โถว)

นางอยากจะกรี๊ดจริง ๆ ขอบคุณเจ้าป่าเจ้าเขานะเจ้าคะ ลี่ถิงได้แต่ขอบคุณอยู่ในใจ จะไม่ให้นางดีใจได้ยังไง เผือกเชียวนะ

หากมีเจ้าสิ่งนี้ก็จะสามารถมีอาหารเพิ่มและยังสามารถนำไปทำเป็นขนมต่าง ๆ ได้ด้วย ช่างโชคดีเสียจริง ๆ

“ฮั่นคุณ พี่เจอของอร่อยอีกแล้วล่ะ”

“ไหน ๆ ตรงไหนขอรับพี่สะใภ้”

“นั่นไงข้างหน้านั่นน่ะ” ลี่ถิงชี้นิ้วไปยังต้นเผือกที่มีอยู่มากมายหลายต้นในบริเวณนี้

“ถิงเอ๋อร์ มันจะกินได้หรือ ต้นมันคันมากเลยนะ ครั้งก่อนพี่เข้าป่ามาบังเอิญไปโดนมันเข้าคันมากเลยล่ะ”

“ท่านพี่ ต้นมันกินไม่ได้ แต่หัวที่อยู่ใต้ดินกินได้เจ้าค่ะ ท่านพี่ส่งมีดมาให้ข้าก่อนเอาเสียมมาด้วยข้าจะทำให้ดู”

จากนั้นลี่ถิง ก็เอามีดตัดต้นเผือกออกให้เหลือลำต้นเอาไว้พอมองเห็นจากนั้นก็เอาเสียมขุดลงไปในดินและนำหัวเผือกขึ้นมาจากดิน

เผือกหอมหัวใหญ่ ทำให้ลี่ถิงยิ้มไม่หุบจากนั้น เฉิงคุณรับหน้าที่ขุดให้เองเขาให้ลี่ถิงไปนั่งพักแล้วให้น้องชายมาช่วยกันเก็บใส่ตะกร้า

ลี่ถิงเองก็ช่วยเก็บด้วยพวกเขาเก็บไปทั้งหัวเล็กและหัวใหญ่ หลังจากขุดเผือกจนหมดแล้วจึงได้ตกลงกันว่าจะกลับออกจากป่า และเฉิงคุณเองก็แวะมาดูกับดักที่เขาวางเอาไว้ด้วย

กับดักของเฉิงคุณ มีไก่ป่า กระต่ายป่าตัวอ้วน และยังมีกวางเซ่อซ่าตัวไม่ใหญ่มากมาติดกับดักของเขาอีก ทั้ง ๆ ที่กับดักที่วางเอาไว้ไม่น่าจะมีอะไรนอกจากกระต่ายกับไก่มาติด

ก็แสดงว่ากวางตัวนี้เซ่อซ่าจริง ๆ ทั้งสี่คนเร่งฝีเท้าออกจากป่าด้วยความเร็วประหนึ่งโดนหมาป่าหิวโหยไล่กวดมา

พวกเขาใช้เวลาไม่นานก็กลับมาถึงบ้าน และหลังจากเอาของที่ได้มาจากป่าวันนี้ไปเก็บในห้องครัวแล้ว

เฉิงคุณนำห่อโสมซานซีไปเก็บเอาไว้ในห้องนอน เพื่อที่จะนำไปขายในวันพรุ่งนี้พร้อมกับสัตว์ป่าที่ล่ามาได้วันนี้

ทุกตัวยังมีชีวิต เขาทำได้เพียงมัดขาของพวกมันเอาไว้แล้วให้น้ำกับอาหารพวกมันกิน สัตว์ที่ยังมีชีวิตอยู่จะขายได้ราคามากกว่าสัตว์ที่ตายแล้ว

หลังจากเก็บของทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เขารีบไปช่วยเก็บฝ้ายที่ตากเอาไว้กลับเข้าบ้านทันที

บทก่อนหน้า
บทถัดไป