บทที่ 12 เข้าเมืองครั้งแรก
เช้าวันใหม่ลี่ถิงตื่นขึ้นในยามอิ๋นของทุกวัน สามีและน้องชายของนางเองก็ตื่นขึ้นมาเช่นกัน เนื่องจากวันนี้พวกเขาทั้งสี่คนตกลงใจกันว่าจะเข้าเมืองไปด้วยกันทั้งหมด
เช่นนั้นงานที่ต้องทำในแต่ละวันจึงต้องช่วยกันทำ ปลายยามเหม่างานทุกอย่างก็เสร็จเรียบร้อย วันนี้มื้อเช้าลี่ถิงทำโจ๊กขาวกับข้าว มีผักป่าผัดกับกระเทียม หมูทอด
ส่วนซาลาเปาไส้หมูที่นางทำนั้นไม่ได้นำมาให้ทุกคนในบ้านกินเพราะลี่ถิงตั้งใจจะห่อและนำไปกินระหว่างเดินทางเข้าเมือง นอกจากนี้นางยังนำน้ำดื่มติดตัวไปด้วยและมีเพียงพอสำหรับทุกคน
หลังจากที่กินมื้อเช้ากันเสร็จแล้ว เฉิงคุณเอาสัตว์ป่าที่ล่ามาได้ใส่ลงในตะกร้าไม้ไผ่ส่วนโสมนั้นเขาใช้ผ้าห่อทับอีกทีจากนั้นจึงใส่เอาไว้ในตะกร้าของลี่ถิง
และเฉิงคุณยังเอาสมุนไพรที่เก็บมาวางทับเอาไว้ด้านบนเพื่อปกปิดสายตาของชาวบ้าน ส่วนตะกร้าของฮั่นคุณเป็นซาลาเปา ตะกร้าของสวี่คุณคือน้ำดื่ม
หลังจากเตรียมของเสร็จแล้วพวกเขาทั้งสี่ก็ออกเดินทางเพื่อไปรอเกวียนรับจ้างของลุงหลี่ที่หน้าหมู่บ้าน ระหว่างทางที่ทั้งสี่เดินผ่านไปนั้นชาวบ้านมองมาด้วยสายตาสนอกสนใจ
โดยเฉพาะลี่ถิงที่ตกเป็นเป้าสายตาของคนทั้งหมู่บ้านเลยก็ว่าได้ ฮั่นคุณที่เริ่มไม่พอใจเมื่อเห็นว่ามีคนมองมาที่พี่สะใภ้ของตัวเองมากขึ้น และมีเสียงซุบซิบนินทาเกิดขึ้นด้วย
เสียงซิบซุบนินทาของชาวบ้านไม่ได้เรียกความสนใจของลี่ถิงและเฉิงคุณแต่อย่างใด ฮั่นคุณเดินจับมือพี่สะใภ้และตลอดทางเขาเดินเชิดหน้าประหนึ่งจะอวดว่า
พี่สะใภ้ข้างามล่ะสิพวกเจ้าจึงได้มองด้วยสายตาอิจฉา สวี่คุณเองก็เดินมาขนาบข้างของพี่สะใภ้คนงาม ส่วนพี่ใหญ่อย่าเฉิงคุณขึ้นมาเดินอยู่ข้างหน้าลี่ถิง เขารู้สึกไม่ชอบใจสายตาที่มีชายหนุ่มในหมู่บ้านมามองภรรยาของเขาเช่นกัน
“ อ้าวเฉิงคุณวันนี้เจ้าพาน้องชายเข้าเมืองด้วยหรือ”
“ขอรับลุงหลี่ นี่ลี่ถิงภรรยาข้าขอรับ”
“โอ้ ที่ว่าเจ้าแต่งภรรยาเข้าบ้านแล้วเป็นเรื่องจริงหรือนี่”
“ขอรับเป็นเรื่องจริง”
“คารวะท่านลุงหลี่เจ้าค่ะ ”
“ไม่ต้องมากพิธีไป คนกันเองทั้งนั้นขึ้นเกวียนได้เลย จะได้เวลาออกเดินทางแล้ว”
เมื่อคนที่ต้องการโดยสารเกวียนรับจ้างเข้าเมืองขึ้นเกวียนหมดทุกคนแล้ว ลุงหลี่สารถีประจำหมู่บ้านก็ใช้แส้ตีก้นวัวให้วัวออกเดิน
ระหว่างทางก็ได้จอดรับคนจากหมู่บ้านอื่นด้วย บนเกวียนมีเด็กอายุประมาณฮั่นคุณอยู่หนึ่งคน เขาใช้สายตามองมาที่ตะกร้าของฮั่นคุณตลอด
อาจจะเป็นเพราะได้กลิ่นซาลาเปาหอม ๆ ลอยออกมาก็เป็นได้ ฮั่นคุณที่หันไปเห็นสายตาที่เขามองก็อดถามออกมาด้วยคงามสงสัยไม่ได้
“เจ้าอ้วนอ้ายตี้ เจ้ามองอะไรข้านักหนา มีอะไรก็พูดออกมาสิมาจ้องคนอื่นแบบนี้มันเสียมารยาทนะ”
“นี่ฮั่นคุณเจ้าเอาอะไรมาเหรอ ข้าได้กลิ่นหอมลอยออกมาจากตะกร้าของเจ้า”
“นี่อย่าบอกนะว่า ที่เจ้าจ้องข้ามาตั้งนานเนี่ยเพราะได้กลิ่นอาหารน่ะ เจ้าจะจมูกดีเกินไปแล้ว”
“ก็ใช่น่ะสิ ทำให้ท้องของข้าร้องขึ้นมาเลยล่ะ”
“นี่เจ้าเด็กคนนี้นี่ ทำไมทำตัวเสียมารยาทแบบนี้นี่ ขอโทษด้วยนะจ้ะฮั่นคุณอย่าไปใส่ใจเจ้าเด็กคนนี้เลย เขาก็เป็นแบบนี้เองล่ะจ้ะ”
“ไม่เป็นไรขอรับท่านป้าจาง มันช่วยไม่ได้ที่ซาลาเปาที่พี่สะใภ้ของข้าทำอร่อยและหอมมาก เจ้าอ้วนจะได้กลิ่นก็ไม่แปลก”
“เช่นนั้นหรือจ้ะ ป้ารู้สึกว่าพวกเจ้าพี่น้องอ้วนขึ้นนะ ตั้งแต่พี่ชายเจ้าแต่งภรรยาเข้าบ้าน”
“ขอรับ พี่สะใภ้ดูแลพวกเราพี่น้องดีมาก หาอาหารให้พวกเรากินจนอิ่มพี่สะใภ้บอกว่าพวกข้ากำลังโตจะปล่อยให้ท้องหิวไม่ได้ หากข้ากินไม่อิ่มข้าจะไม่โตขอรับ”
“โอ้ ดีจริง ๆ พี่ใหญ่ของเจ้าหาเมียได้ดีจริง ๆ พวกเจ้าต้องเคารพนางให้มาก ๆ เล่า”
“ขอรับ ป้าจาง”
“นี่ฮั่นคุณ ซาลาเปาของเจ้าหอมมากเลยขอข้าชิมสักนิดได้หรือไม่”
“เจ้าเด็กคนนี้นี่ ไม่มีมารยาท เดี๋ยวค่อยไปกินในเมืองก็ได้ จะไปกินอาหารกลางวันของคนอื่นได้ยังไง”
“ก็มันหอมนี่ขอรับท่านแม่”
“เอาไว้แม่เอาผ้าปักไปส่งที่ร้านแล้วแม่จะซื้อให้เจ้าก็แล้วกันนะ”
“ก็ได้ ๆ ท่านแม่สัญญาแล้วนะไม่ใช่โกหกข้าล่ะ”
“เจ้าเด็กคนนี้นี่ ไม่รู้ไปได้นิสัยแบบนี้มาจากไหน ขอโทษด้วยนะจ้ะเฉิงคุณ เมียเฉิงคุณอย่าถือสาอ้ายตี้เลย”
“ไม่เป็นไรขอรับท่านป้าจาง”
“น้องเล็กแบ่งซาลาเปาให้เพื่อนสักลูกสิจ้ะ”
“ขอรับพี่สะใภ้ นี่เจ้าอ้วนข้าให้เจ้าได้แค่ลูกเดียวนะ กินหมดแล้วห้ามมามองข้าอีกล่ะเข้าใจไหม”
“จริงเหรอ ให้ข้าจริงหรือ ขอบใจนะ”
“ไม่ต้องหรอกจ้ะฮั่นคุณ ป้าขอบใจนะจ้ะเจ้าเก็บไว้กินเถอะ”
“ไม่เป็นไรขอรับท่านป้า พี่สะใภ้ทำมาพอให้พวกเราได้กินและจะทำเผื่อทุกครั้ง เพราะกลัวพี่ใหญ่ไม่อิ่มขอรับ”
“ขอบใจมากจ้ะ เจ้าอ้วนนี่วัน ๆ เอาแต่กินกับนอน ไม่เหมือนพวกเธอพี่น้องช่วยที่บ้านทำงาน วันหลังช่วยสั่งสอนเขาด้วยนะจ้ะ”
“ได้ขอรับท่านป้าจาง วันหลังข้าจะพาเจ้าอ้วนไปจับปลาในลำธารเองขอรับ”
หลังจากที่ฮั่นคุณแบ่งซาลาเปาให้อ้ายตี้แล้วตัวเขาเองก็กินด้วยเช่นกันในหมู่บ้านนี้ทุกคนย่อมรู้ว่าการเป็นอยู่ของสามพี่น้องเป็นอย่างไร ตั้งแต่เสียพ่อแม่ไป
มีหลายครอบครัวที่ดีต่อพวกเขาไม่น้อยและมีหลายครอบครัวที่ไม่ชอบและไม่เกลียดแต่ไม่ยุ่งกับครอบครัวเขา ต่างคนต่างอยู่
สมัยที่พ่อแม่ของเฉิงคุณมีชีวิตอยู่เขาเป็นที่เคารพนับถือและเป็นที่รักใคร่ของชาวบ้านในหมู่บ้านนี้ไม่น้อยและชาวบ้านพวกนี้ยังรังเกียจการกระทำของครอบครัวของอันหนิงฮวา
ที่กระทำต่อครอบครัวหยางเป็นอย่างมาก ป้าจางเป็นอีกคนหนึ่งที่มีความปรารถนาดีต่อครอบครัวหยางอย่างแท้จริง นางคอยช่วยเหลือพวกเขาพี่น้องอยู่บ่อยครั้ง อ้ายตี้เองก็เป็นเพื่อนเพียงคนเดียวของฮั่นคุณ
“อร่อยมากเลยล่ะ ฮั่นคุณข้าชักอิจฉาเจ้าเสียแล้วสิ พี่สะใภ้ของเจ้าทั้งงดงามทั้งทำอาหารอร่อย”
“อิจฉาข้าทำไม เจ้าก็บอกพี่ชายเจ้าแต่งเมียเข้าบ้านสิ”
“ท่านแม่ เมื่อไหร่พี่ใหญ่จะแต่งภรรยาเข้าบ้านเล่าขอรับ"
“ยังไม่ถึงเวลาสักหน่อยพี่ใหญ่ของเจ้าอายุเท่าไหร่กันเชียว เพิ่งจะ 18 อีกอย่างบ้านเราก็ฐานะไม่ดีจะมีหญิงสาวที่ไหนยอมแต่งเข้ามาเล่า”
“ท่านป้าจางอย่าคิดมากเลยขอรับ อ้ายเทียนเป็นคนดีขยันขันแข็งข้าเชื่อว่าเขาต้องหาเมียแต่งเข้าบ้านได้ ท่านดูอย่างข้าสิ บ้านข้ายากจนกว่าท่านมากนัก ท่านพ่อท่านแม่ก็ไม่อยู่แล้ว ข้ายังสามารถแต่งเมียที่ดีขนาดนี้ได้เลย”
“อืม ป้าไม่รีบร้อนหรอกเฉิงคุณ อีกอย่างอ้ายเทียนเองก็บอกว่ายังไม่อยากแต่งงานตอนนี้ อยากทำงานหาเงินทำให้ครอบครัวอยู่ดีกินดีขึ้นมากกว่านี้ก่อนน่ะจ้ะ”
“ขอรับ”
“ท่านพี่เจ้าคะ อีกไกลหรือไม่เจ้าคะ”
“ไม่ไกลหรอก อีกไม่ถึง 5 ลี้หรอก เจ้าเหนื่อยหรือไม่”
“ไม่เหนื่อยเจ้าค่ะ ข้าแค่ถามดูเพราะตอนที่ท่านพี่พาข้ามาที่หมู่บ้าน มันก็มืดแล้วข้าจำอะไรไม่ได้ก็เลยถามดูเท่านั้น”
เมื่อเกวียนขับมาจนถึงประตูเมือง ลุงหลี่ก็จอดให้ทุกคนลงก่อนแยกจากกัน อ้ายตี้ได้บอกกับฮั่นคุณว่าถ้าหากวันไหนฮั่นคุณจะไปจับปลาให้มาเรียกเขาด้วย
เขาจะไปจับปลามาให้ท่านแม่ของเขาทำอาหาร ซึ่งฮั่นคุณก็ได้รับปากว่าจะไปเรียกให้อ้ายตี้ไปด้วยกันแน่นอนจากนั้นจึงได้แยกย้ายกันไป
เฉิงคุณพาลี่ถิงและน้องชายเดินไปที่เหลาอาหารก่อนเพื่อนำกระต่ายและไก่ไปขาย หลังจากนั้นจึงจะไปที่ร้านรับซื้อสมุนไพรและวันนี้เขาจะพาภรรยาและน้องชายเดินเที่ยวในตลาด
ก่อนกลับบ้านและซื้อข้าวสารกลับไปด้วยแป้งสาลีก็เหลือน้อยแล้ว ลี่ถิงต้องการดูว่าที่ร้านขายเครื่องเทศมีเครื่องปรุงชนิดอื่นขายหรือไม่นอกจากเกลือและน้ำตาล หากไม่มีนางจะได้ลองทำออกมาขายดู และจะเปิดร้านขายเองเสียเลยในอนาคต
“ ท่านพี่เจ้าคะ ท่านว่าที่ร้านสมุนไพรจะรับซื้อหรือไม่”
“รับแน่นอนอยู่แล้วเพียงแต่เราไม่รู้ราคาว่าจะรับซื้อเท่าไร่”
“คงต้องลองถามดูหลาย ๆ ร้านก่อนค่อยตัดสินใจขายดีหรือไม่เจ้าคะ”
“ได้ เอาตามที่เจ้าว่า เราลองไปถามดูก่อนก็แล้วกัน”
หลังจากที่ตกลงกันได้แล้วเฉิงคุณก็พาทั้งสามคนเดินมุ่งหน้าตรงไปที่ร้านรับซื้อสมุนไพรทันที ร้านแรกที่พวกเข้าเลือกที่จะเข้าไปเป็นร้านเก่าแก่ของที่นี่ และเฉิงคุณคุ้นเคยเป็นอย่างดีกับหมอชราเพราะสมัยที่ท่านแม่ยังมีชีวิตอยู่เขามาซื้อยาและพาท่านแม่มารักษากับหมอชราที่นี่เป็นประจำ
“คารวะท่านหมอขอรับ”
“อ้าวเจ้าเองหรอกหรือ วันนี้มีใครในบ้านของเจ้าป่วยหรือยังไง อาการเป็นยังไงบ้าง”
“เปล่าขอรับท่านหมอบ้านข้าไม่มีคนป่วย เพียงแต่พวกเรานำสมุนไพรมาขายเท่านั้นขอรับ”
“อ่อเช่นนั้นหรือ ได้ ๆ ไหนพวกเจ้าได้สมุนไพรอะไรมา เอาออกมาให้ข้าดูหน่อยสิ”
เฉิงคุณรับตะกร้าจากลี่ถิงยื่นให้กับหมอชราเพื่อตรวจดูสมุนไพร หมอชราเห็นว่าสมุนไพรที่พวกเขานำมาวันนี้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์มากและเก็บมาด้วยวิธีการที่ถูกต้องทำให้สรรพคุณทางยาไม่ลดถอยลง
“อืม สมุนไพรขั้นพื้นฐานพวกนี้ ข้าให้พวกเจ้า 50 อิแปะก็แล้วกันพอใจหรือไม่”
“พอใจขอรับ ท่านหมอรับซื้อโสมหรือไม่ขอรับ”
“เจ้าว่าอะไรนะ โสมรึ โสมอะไร ไหน เอามาให้ข้าดู ไม่สิรีบ ๆ ตามข้าเข้ามาข้างในก่อน” หมอชรารีบเรียกให้ตามเข้าไปข้างในทันที
“นี่ขอรับ โสมซานซี ข้ากับภรรยาและน้อง ๆ พบบนเขา มีเพียงสามต้นเท่านั้น ท่านหมอจะให้ราคาเท่าไหร่ขอรับ”
“ทำไม เจ้ากลัวข้ากดราคาเจ้ารึไง ข้าจะบอกให้นะ ข้าน่ะให้ราคาเป็นธรรมที่สุดแล้ว ขอข้าดูก่อน”
“อืม พวกเจ้าขุดออกมาได้ดีมาก ทั้งสามต้นนี้ มีอายุไม่ต่ำกว่า 50 ปี เลยทีเดียว ถึงแม้จะไม่ใช่โสมคนแต่ก็ไม่ใช่ว่าจะหาเจอได้ง่าย ๆ พวกเจ้าช่างมีวาสนานัก โสมซานซีทั้งสามต้นนี้ ข้าให้พวกเจ้าราคาต้นละ 10 เหรียญทอง พอใจหรือไม่ นี่ข้าให้พวกเจ้าราคาสูงมากแล้วนะ”
“พอใจขอรับ ขอบพระคุณท่านหมอมากขอรับ”
“ต่อไปหากพวกเจ้าพบเจอสมุนไพรล้ำค่าหายาก พวกเจ้าต้องรับปากข้าก่อน ว่าจะต้องเอามาขายให้ข้าก่อนเข้าใจหรือไม่”
“ได้แน่นอนขอรับหากข้ามีสมุนไพรอีกข้าจะต้องนำมาขายให้ท่านแน่นอน”
“อืม ขอบใจมาก นี่เงินของพวกเจ้า อ่อ ข้าลืมถามไปเจ้าจะเอาเป็นเหรียญทองหรือเหรียญเงินล่ะ ข้าจะได้เตรียมให้ถูก”
“ข้าขอเป็นตั๋วแลกเงิน 20 เหรียญทองเจ้าค่ะ ส่วนอีก 10 เหรียญทอง ขอเป็น 500 เหรียญเงิน กับ 5 เหรียญทองเจ้าค่ะ”
“ได้ ๆ รอข้าสักประเดี๋ยวข้าจะไปจัดการให้”
หลังจากได้รับเงินจากหมอชราแล้วเฉิงคุณเดินออกมาจากร้านโดยที่ไม่พูดอะไร พอเดินพ้นร้านหมอออกมา เขาถึงกับเข่าอ่อนนั่งลงข้างร้านทันที
ลี่ถิงและน้องชายทั้งสองตกใจมากคิดว่าเขาไม่สบายอีกทั้งเหงื่อเขายังออกมากอีกด้วย
“ท่านพี่ ท่านเป็นอะไรเจ้าคะ กลับเข้าไปให้หมอชราตรวจดูดีหรือไม่”
“ข้า ข้า ไม่ได้เป็นอะไร ข้าแค่ดีใจและตกใจมากเท่านั้นเองพาลให้แข้งขาอ่อนไปหมด”
“พี่ใหญ่ ท่านตกใจอะไรหรือขอรับ”
“นั่นสิเจ้าคะ ท่านตกใจอะไรหรือตกใจที่เรามีเงินจากการขายสมุนไพรหรือเจ้าคะ”
“อืม ใช่ ขายหน้าเจ้าแล้ว”
“ฮ่า ๆ ท่านพี่ ท่านนี่จริง ๆ เลย ทำเอาพวกข้าตกใจหมด”
“พี่สะใภ้เรามีเงินเยอะหรือขอรับ”
“จะว่าเยอะก็เยอะอยู่นะ จะว่าไม่เยอะก็ไม่เยอะ เอาเป็นว่ามีซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ให้ทุกคน และจะซื้อผ้าไปทำผ้าห่มและฟูกนอนด้วยดีหรือไม่”
“ดีมากขอรับ ดีจริง ๆ ฮือ ๆๆ”
“น้องเล็ก เจ้าร้องไห้ทำไม”
“ข้าดีใจขอรับต่อไปนี้พวกเราจะไม่ต้องทนหนาวอีกแล้ว ฮึก ไม่ต้องทนหิว ฮึก อีกแล้ว”
“เอาล่ะ ๆ ไม่ร้องแล้วไม่ต้องร้องแล้ว พี่สะใภ้ไม่ให้เจ้าอดข้าวหรอกนะ ท่านพี่ไปกันเถอะน้องรองอยากได้อะไรหรือไม่จะได้ซื้อกลับไปเสียทีเดียว"
“ข้า ข้า ซื้อได้จริง ๆ หรือขอรับ”
“ได้สิ วันนี้พี่สะใภ้จะซื้อของที่ทุกคนอยากได้ให้เอง”
“ท่านพี่ไปโรงรับฝากเงินกันก่อนเจ้าค่ะ จะใช้แล้วค่อยมาเบิกเอาบ้านเราไม่แข็งแรงเก็บเงินมาก ๆ ไว้กับตัวมันอันตราย”
“ได้ ตามมาทางนี้เลย”
