บทที่ 13 พี่สะใภ้ของข้าดีที่สุด

หลังจากนำเงิน 20 เหรียญทองไปฝากที่โรงรับฝากเงินเรียบร้อยแล้ว ลี่ถิงเอาเงิน 5 เหรียญทองให้เฉิงคุณเป็นคนเก็บเอาไว้

และเงิน 500 เหรียญเงินนั้นนางจะนำไปซื้อเกวียนเทียมลา และของจำเป็นเข้าบ้านและซื้อเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มใหม่ทั้งหมด

และนางยังให้สามีไปสอบถามช่างถึงเรื่องที่จะสร้างบ้านใหม่และทำกำแพงล้อมรอบที่ดินทั้งหมดของพวกเขาด้วย

“ท่านพี่ ท่านไปสอบถามถึงราคาสร้างบ้านที่ร้านช่างไม้ได้หรือไม่เจ้าคะ ข้าอยากทราบหากเราต้องการสร้างบ้านหลังใหม่จะต้องใช้เงินเท่าไหร่”

“อืม เอาไว้ซื้อของเสร็จแล้ว พวกเราค่อยไปด้วยกันดีหรือไม่ จะไปซื้ออะไรก่อนหรือ”

“อืม ข้าต้องการไปที่ร้านขายข้าวกับธัญพืช จากนั้นก็ร้านขายเครื่องเทศ ร้านขายผ้า และไปซื้อเกวียนเทียมลาเจ้าค่ะ”

“จริงหรือขอรับพี่สะใภ้ บ้านเราจะมีเกวียนเทียมลาแล้วจริง ๆ ใช่หรือไม่ขอรับ” สวี่คุณถามออกมา แถมทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อีก จนลี่ถิงไม่รู้ว่าเขาดีใจหรือเสียใจกันแน่

“จริงสิ พี่สะใภ้เคยหลอกเจ้าหรือน้องรอง”

“ไม่เคยขอรับ ข้าดีใจมากเลย ที่บ้านของเราจะมีเกวียนใช้แล้ว เวลาพี่ใหญ่เข้าเมืองจะได้ไม่ต้องเดินอีกเวลาที่เกวียนลุงหลี่ที่นั่งเต็ม”

“น้องเล็กล่ะเจ้าอยากได้อะไร พี่สะใภ้จะซื้อให้เจ้าทุกอย่างเลย”

“จริงหรือขอรับ ข้าอยากได้กระดาษ พู่กันแล้วก็หมึกขอรับ ข้าอยากฝึกเขียนอักษร”

“ได้ ๆ พี่สะใภ้คนนี้จะซื้อให้เอง"

เฉิงคุณมองน้องชายกับลี่ถิงที่จูงมือคุยกันไปตามถนน ในขณะที่เดินไปยังร้านขายข้าวและธัญพืช

นับว่าการตัดสินใจของเขาครั้งนี้ถูกต้องจริง ๆ ขอบคุณสวรรค์ที่เขาไม่ได้เลือกคนผิด ถ้าหากว่านางนิสัยร้ายกาจเขาคงต้องรีบพานางกลับไปหรือไม่ก็ไล่นางออกไปเป็นแน่

“ท่านพี่เจ้าคะ เราสร้างบ้านสัก 5 ห้องก่อนดีหรือไม่ เอาไว้เรามีเงินมากกว่านี้ค่อยซื้อที่ดินเพิ่มและค่อยสร้างบ้านใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม”

“ได้ ๆ  เจ้าต้องการยังไง ก็บอกกับนายช่างเลย รีบซื้อของก่อนเถอะ”

“เจ้าค่ะ”

หลังจากลี่ถิงซื้อข้าวสารชั้นดี 100 จิน แป้งสาลี 100 จินเมื่อจ่ายเงินเสร็จแล้ว จึงฝากหลงจู๊เอาไว้ก่อน

เฉิงคุณพานางมาที่ร้านเครื่องปรุง พบว่ามีเพียง เกลือ น้ำตาล และซีอิ๊วขายเท่านั้น ลี่ถิงซื้อน้ำตาล 5 จิน เกลือ 10 จิน ซีอิ๊ว 1 ไหใหญ่และนางก็ทำเช่นเดิมคือฝากเอาไว้ก่อน

จากนั้นเป้าหมายต่อไปคือร้านขายผ้า นางซื้อเสื้อผ้าสำหรับตัวเอง 5 ชุด และซื้อให้สามีและน้องชาย คนละ 5 ชุดเช่นเดียวกัน

จากนั้นนางซื้อผ้าไปทำเป็นที่นอน หมอน ผ้าห่ม และฟูกนอน เมื่อซื้อของและจ่ายเงินจนครบแล้วและฝากทางร้านเอาไว้ก่อน

จุดหมายต่อไปคือตลาดค้าสัตว์ ลี่ถิงต้องการเกวียนเทียมลา หากต่อไปจะเข้ามาขายของในเมืองจะได้สะดวกไม่ต้องรอเกวียนรับจ้าง

เมื่อเดินมาถึงตลาดค้าสัตว์เฉิงคุณเดินนำหน้าน้องชายและภรรยาเข้าไปในส่วนของลาและม้า ซึ่งอยู่ถัดออกไปจากวัวเข้าไปด้านใน

ฮั่นคุนมองไปรอบ ๆ ด้วยความตื่นเต้น สวี่คุณเองถึงแม้ว่าจะไม่แสดงออกว่าเขาดีใจไม่น้อยแต่ภายในใจเขาร้องกู่ก้องดีใจเป็นที่สุด พี่สะใภ้ของเขาดีที่สุด

“ท่านพี่เจ้าคะ ท่านกับน้อง ๆ ไปเลือกลากันก่อนเถอะเจ้าค่ะ"

“อืม เดี๋ยวพี่ไปเลือกเอง เจ้าพาน้องไปเลือกเกวียนทางด้านนั้นรอพี่เลยก็แล้วกัน”

“เจ้าค่ะ เอาแบบนั้นก็ได้จะได้เสร็จเร็ว ๆ”

เฉิงคุณเลือกลาตัวผู้อายุประมาณ 2 ปี สีเทามาหนึ่งตัว ลาตัวนี้ราคา 40 เงินซึ่งแพงกว่าวัวอยู่ 10 เงิน

ลี่ถิงและน้อง ๆ เลือกเกวียน ราคา 12 เงิน และเมื่อจ่ายเงินสำหรับลาและเกวียนแล้วทางร้านก็ช่วยเทียมลาเข้ากับเกวียนทันที

เมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงพากันขับเกวียนออกจากตลาดค้าสัตว์เพื่อที่จะไปรับของที่ซื้อแล้วฝากเอาไว้ก่อนหน้านั้นด้วย

ลี่ถิงให้เฉิงคุณขับเกวียนไปซื้อเหล้าขาวและไหเปล่า จากนั้นนางก็ไปซื้อเมล็ดผักเพื่อเอากลับไปปลูกในแปลงผักที่นางเตรียมเอาไว้ และนางยังได้ซื้อเชือกเส้นเล็ก ๆ กลับไปด้วยนางจะลองทำที่ดักปลาดู

หลังจากนั้นก็พาฮั่นคุณไปร้านหนังสือและซื้อของที่เขาอยากได้ สวี่คุณเองก็ซื้อกลับไปด้วยเช่นกัน ในอนาคตลี่ถิงจะส่งพวกเขาไปเข้าเรียนที่สถานศึกษาในเมือง

เมื่อซื้อของที่ต้องการครบแล้ว เฉิงคุณบังคับเกวียนมารับข้าวของที่ซื้อเอาไว้จนครบและยังได้ซื้อถั่วเหลืองและถั่วเขียวกลับไปด้วยหลายสิบจิน

จากนั้นทั้งสี่คนมุ่งหน้าไปยังร้านช่างไม้ทันที เพื่อพูดคุยสอบถามเกี่ยวกับการสร้างบ้าน เมื่อมาถึงร้านช่างไม้ เฉิงคุณจอดเกวียนให้ทุกคนลงก่อน

จากนั้นเขาก็หาที่จอดเกวียนโดยมีลูกจ้างในร้านช่างไม้รับหน้าที่ดูแลเกวียนให้เพราะบนเกวียนมีข้าวของอยู่เยอะมาก

“คารวะนายช่างขอรับ วันนี้ข้าและภรรยาอยากมาสอบถามเกี่ยวกับการสร้างบ้านหลังใหม่ขอรับ”

“เข้ามานั่งข้างในก่อนแล้วค่อยพูดคุยกันเถอะ”

“ขอบพระคุณนายช่างขอรับ”

“เอาล่ะไหนว่ามา พวกเจ้าต้องการบ้านแบบไหนและขนาดเท่าไหร่ มีแบบบ้านมาด้วยหรือไม่”

“ไม่มีขอรับ ทางนายช่างเองมีแบบให้ข้าดูหรือไม่”

“เอ่อ ท่านพี่เจ้าคะ ข้าขอวาดแบบเองได้หรือไม่เจ้าคะ”

“โอ้ แม่นางเจ้าวาดเป็นเช่นนั้นหรือ ถ้าอย่างนั้นข้าจะเอากระดาษกับพู่กันมาให้ รอประเดี๋ยว”

หลังจากที่นายช่างนำกระดาษและพู่กันมาให้แล้ว ลี่ถิงลงมือวาดแบบบ้านในแบบที่ตัวเองต้องการพร้อมทั้งวาดแบบห้องน้ำอีกด้วย

พอนายช่างใหญ่เจ้าของร้านช่างไม้ได้เห็นแบบบ้านที่ลี่ถิงวาดถึงกับเอ่ยปากขอซื้อแบบบ้านที่นางวาดเพื่อที่เขาจะได้นำไปเสนอลูกค้าหากมีคนต้องการจะสร้างบ้านในอนาคต

ลี่ถิงเองกลับบอกว่าไม่ขายแต่จะยกให้เลยขอเพียงนายช่างทำบ้านของนางออกมาให้ดีที่สุด นายช่างจึงตกลงจะไม่รับค่าจ้างค่าสร้างบ้านจะคิดแค่ค่าวัสดุเท่านั้น

เมื่อเป็นแบบนี้ลี่ถิงเองก็พอใจมาก และได้ปรึกษาเรื่องทำกำแพงล้อมรอบที่ดินด้วย ซึ่งนายช่างเองก็บอกว่าจะรับสร้างให้และให้ลี่ถิงจ่ายแค่ค่าวัสดุก็พอ

ส่วนค่าแรงถือว่าแลกกับแบบบ้านของนางไป จากแบบบ้านที่นางวาดแบบออกมาหลังคาใช้กระเบื้องมุงทั้งหมด บ้าน 5 ห้องนอน  ห้องครัว 1 ห้องน้ำ 2 ห้อง ห้องเก็บเสบียง 1ห้อง

ลี่ถิงให้ช่างทำเป็นห้องใต้ดินประตูทางลงอยู่ที่ห้องครัว และมีห้องโถงรับแขก 1 ห้อง และห้องกินข้าว 1 ห้อง รวม ๆ แล้วจากที่คิดว่าจะทำบ้านแค่หลังเล็ก ๆ ก่อน กลับทำเล็ก ๆ ไม่ได้แล้ว

ไหน ๆ ก็จะสร้างบ้านใหม่แล้วก็สร้างให้ดีไปเลยในเมื่อค่าแรงไม่ต้องจ่าย จ่ายแค่ค่าวัสดุ ลี่ถิงคิดว่าเงินในมือมีพอแต่ก็กลัวว่าเงินสำรองจะไม่มี นางจึงตั้งใจว่าจะต้องเข้าป่าทุกวันเพื่อหาของป่ามาขายจะได้มีเงินสร้างบ้านหลังใหม่

“จากที่ข้าคำนวนดูแล้วค่าอิฐกับกระเบื้อง 30 เหรียญทอง ส่วนกำแพงข้าต้องขอไปดูที่ดินของพวกเจ้าก่อนข้าถึงจะรู้ได้แน่ชัดว่าต้องใช้เงินเท่าไหร่”

“ได้ขอรับ ท่านสะดวกจะไปดูวันไหนหรือขอรับ ข้าจะได้ไม่ต้องเข้าป่า อยู่รอท่านก่อน”

“ข้าอยากทำกำแพงก่อนเจ้าค่ะ ส่วนบ้านเอาไว้สร้างหลังจากที่ผ่านฤดูหนาวไปแล้วเจ้าค่ะ แต่วันนี้ข้าจะจ่ายค่ามัดจำไว้ก่อน 5 เหรียญทอง นายช่างใหญ่เห็นว่าเป็นเช่นไรเจ้าคะ”

“ได้ ข้าไม่มีปัญหา รอสักครู่ข้าจะไปนำสัญญาจ้างงานมาให้พวกเจ้าลงชื่อ”

“ขอรับ”

หลังจากที่ลงชื่อในสัญญาจ้างงานแล้ว เฉิงคุณพาภรรยากับน้องชายกลับบ้านทันที โดยมีนายช่างขี่ม้าตามมาด้วยเพื่อไปดูที่ดินบริเวณที่จะสร้างกำแพงล้อมรอบ

ตอนนี้ในบ้านเหลือเงินอยู่ไม่พอสร้างบ้านส่วนกำแพงนั้นอย่างต่ำจะต้องไม่น้อยกว่า 5 เหรียญทองแน่ ๆ หากทั้งหมดใช้อิฐในการสร้างจากการคาดเดาของลี่ถิง

หลังจากที่นายช่างมาดูที่ดินของพวกเขาโดยละเอียดแล้ว จึงประเมินราคาอิฐทั้งหมดที่ใช้ เป็นเงิน 5 เหรียญทอง ลี่ถิงนำเงินที่นางมีอยู่จ่ายเป็นค่ามัดจำให้กับนายช่างใหญ่อีก 3 เหรียญทอง

หลังจากนายช่างใหญ่กลับไปแล้วทุกช่วยกันขนของลงจากเกวียนและน้องชายทั้งสองจูงลาไปเล็มหญ้าและดื่มน้ำที่ลำธาร โดยสวี่คุณตั้งชื่อให้กับเจ้าลาว่าต้าหวัง

“ท่านพี่มื้อกลางวันกินซาลาเปาไปก่อนนะเจ้าคะ พวกเรามัวแต่ตื่นเต้นดีใจจนลืมกินข้าวไปเสียได้นี่ก็เลยเวลามามากแล้ว”

“อืม พี่จะไปตักน้ำที่ลำธารมาใส่ตุ่มให้เจ้าก่อน เจ้าเก็บของให้เข้าที่เข้าทางก่อน ของสิ่งไหนหนักเจ้าอย่าได้ไปยกมันเด็ดขาดรอพี่กลับมาแล้วพี่จะมายกไปเก็บให้”

“เจ้าค่ะ ข้าทราบแล้ว ท่านพี่ชุดของท่านที่มันเก่าและขาดมากแล้วก็ทิ้ง ๆ ไปเถอะเจ้าค่ะไม่ต้องซักแล้ว หากชุดไม่พอข้าจะทำให้ท่านเพิ่ม”

“อืม ได้พี่จะเชื่อเจ้า”

ในขณะที่คนบ้านหยางกำลังใช้ชีวิตอย่างมีความสุขอยู่นั้นไม่รู้เลยว่าตัวเองได้ตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของชาวบ้าน ไม่นานข่าวที่บ้านหยางซื้อเกวียนเทียมลากลับมาก็แพร่สะพัดไปทั่วทั้งหมู่บ้าน

บ้างยินดีไปกับพวกเขา บ้างก็พากันอิจฉาริษยา บ้างก็นินทาว่าร้าย จะมีใครไม่อิจฉาบ้างล่ะ เด็กกำพร้าไร้บิดามารดาสามารถแต่งภรรยาที่งดงามเข้ามาได้ แถมยังสามารถซื้อเกวียนลาได้ นับว่าฐานะความเป็นอยู่ของพวกเขาดีไม่น้อย

อย่ามองว่าบ้านที่พวกเขาอยู่เป็นกระท่อมผุพัง เกวียนลายังสามารถซื้อมาได้ อีกไม่นานก็คงสามารถสร้างบ้านหลังใหม่ได้เช่นกัน

ส่วนคนบ้านอันนั้นอิจฉาระคนเกลียดชัง อิจฉาแล้วยังไงในเมื่อคนบ้านอันตัดสัมพันธ์กับคนบ้านหยางทันทีที่บิดาของเฉิงคุณเสียชีวิตลง

แถมยังไม่คืนของหมั้นให้กับบ้านหยางอีกด้วย ซึ่งเรื่องนี้ก็ทำให้เฉิงคุณไม่พอใจและไม่คิดจะญาติดีกับคนพวกนี้อีกต่อไป

ตอนนี้เขามีภรรยาที่ดี นางงามทั้งหน้าตาและจิตใจ และยังเป็นผู้หญิงที่มีความรู้ความสามารถเขาจะต้องเกาะขานางเอาไว้ให้แน่น ๆ เชียวล่ะ

ไม่ว่าชาตินี้หรือชาติไหน ๆ เขาจะไม่มีวันปล่อยนางไปเด็ดขาด นางจะต้องเป็นภรรยาของเขาเท่านั้น

แต่จะว่าไปยังไม่ได้เข้าหอเลยนี่นะ ไม่ได้การแล้วจะต้องรีบเปลี่ยนข้าวสารเป็นข้าวสุกให้เร็วขึ้นไม่เช่นนั้นอาจจะมีคนมาแย่งนางไปจากพวกเขาพี่น้องก็เป็นได้

บทก่อนหน้า
บทถัดไป