บทที่ 4 ลืมตาตื่น

เช้าวันใหม่หลังจากที่ชลดาตื่นขึ้นมากลางดึกและได้เรียบเรียงเหตุการณ์จากความทรงจำของไป๋ลี่ถิงซึ่งเป็นเจ้าของร่างนี้จึงทำให้นางได้รู้ถึงเรื่องราวและต้นสายปลายเหตุและการได้พบจุดจบอันน่าสังเวชนี้

ชลดาได้แต่ขออวยพรให้เธอไปสู่ภพภูมิที่ดีและขอบคุณที่ยกร่างกายนี้ให้เธอต่อไปนี้ชลดาจะใช้ชีวิตเป็นไป๋ลี่ถิงต่อไป

หยางเฉิงคุณที่ตื่นตั้งแต่ยามอิ๋นของทุกวันเพราะต้องไปดูกับดักสัตว์ที่วางเอาไว้หากว่าเขาไปสายอาจจะไม่เหลือเหยื่อในกับดักที่เขาวางเอาไว้เลยก็ได้ เพราะมันเคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้มาแล้วหลายครั้ง

น้องชายทั้งสองคนจะตื่นในยามเหม่าทุกวัน ทั้งสองช่วยกันหุงหาอาหารและรดน้ำผักที่ปลูกเอาไว้กินเองที่สวนหลังบ้านจะเรียกว่าบ้านก็ไม่ถูกต้องนักต้องเรียกว่ากระท่อมเก่า ๆ ผุ ๆ จะพังแหล่มิพังแหล่เสียดีกว่า

ชลดาในร่างไป๋ลี่ถิงนอนลืมตาอยู่บนเตียงถึงแม้อยากจะลุกขึ้นมาเต็มทีแต่ก็ไม่สามารถจะลุกขึ้นมาได้เพราะบาดแผลตามร่างกายและยังมีรอยฟกช้ำที่หัวอีก จึงทำได้เพียงนอนลืมตามองหลังคาฟางเก่า ๆ เท่านั้น

“พี่รองท่านว่าพอพี่สะใภ้ตื่นขึ้นมาแล้วนางจะยินดีอยู่กับพวกเราหรือไม่”

“น้องเล็กทำไมเจ้าพูดแบบนั้นล่ะ พี่ใหญ่บอกว่านางคือพี่สะใภ้ของเราก็ต้องอยู่กับเราสิอีกอย่างพี่ใหญ่บอกว่านางเป็นพี่สะใภ้ก็ย่อมหมายความว่านางคือภรรยาของพี่ใหญ่มีที่ไหนกันที่ภรรยาไม่ยินดีอยู่กับสามีถึงแม้ว่าข้าจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับนางเมื่อวานนางถึงได้มีสภาพแบบนี้กลับมาก็ตามทีแต่ข้ามั่นใจว่านางจะยินดีอยู่กับพวกเราแน่ ๆ”

“ข้าก็แค่กังวลน่ะ พี่รองเองก็รู้ว่าพี่ใหญ่เคยมีคู่หมั้นแล้วพอครอบครัวเรามีสภาพแบบนี้พี่ใหญ่ก็โดนถอนหมั้นทันที ข้าเองก็อยากให้พี่ใหญ่ได้แต่งภรรยาที่ดีเข้าบ้านข้าเองก็อยากมีพี่สะใภ้เช่นเดียวกันแต่บ้านเราจนมากขนาดนี้จะมีผู้หญิงที่ไหนอยากมาอยู่กัน”

“เอาเถอะ อย่าเพิ่งคิดอะไรให้มันมากมายเลย รอดูไปก่อนเดี๋ยวเราเอาข้าวต้มไปให้พี่สะใภ้กินก่อนนางจะได้กินยา”

“อืม ข้ายกข้าวต้มเองพี่รองท่านยกถ้วยยาเถอะ”

ลี่ถิง (ต่อไปนี้จะเรียกชลดาว่าลี่ถิงแทนนะคะป้องกันการสับสนโดยเฉพาะไรต์เองนี่แหละค่ะ) ที่นอนลืมตามองหลังคาฟางอยู่พลันได้ยินเสียงเด็กชายเดินคุยกันเข้ามาในห้องนอน

นางจึงหันไปมองพบว่าเป็นเด็กชายสองคนที่หน้าตาดีตั้งแต่เด็กเลยจริง ๆ นางยังไม่ได้มองหยางเฉิงคุณผู้เป็นพี่ชายแบบเต็มตาจึงไม่รู้ว่าหน้าตาเขาเป็นอย่างไรจากที่เห็นน้องชายทั้งสองของเขาแล้วก็คงหน้าตาดีไม่ต่างกัน

พลันในใจกู่ร้องว่าโชคหล่นทับแล้วนังดาเอ๊ย แต่ถ้าเป็นชายในฝันคนนั้นจริง ๆ ก็ดีเพราะตัวเธอเองก็มีความรู้สึกผูกพันโดยไม่รู้สาเหตุเหมือนกัน

เสียอย่างเดียวบ้านจนมากถึงมากที่สุดก่อนตายก็จนตายมาแล้วก็ยังจะจนอีกหรือเนี่ย ในขณะที่ลี่ถิงจมอยู่กับความคิดของตัวเองเสียงเล็ก ๆ ของเด็กชายก็ดังขึ้น

“พี่สะใภ้ท่านตื่นแล้ว ลุกไหวหรือไม่ขอรับกินข้าวเสียก่อนจะได้กินยา” หยางฮั่นคุณที่เห็นว่าหญิงสาวตื่นแล้วจึงรีบถามออกมา

“ไม่ค่อยไหวเท่าไหร่จ้ะ”

“พี่รองช่วยพยุงพี่สะใภ้ให้ลุกขึ้นนั่งก่อนขอรับ”

“ได้สิ” หลังจากที่ช่วยให้ลี่ถิงนั่งได้สบายแล้วทั้งสองยื่นชามข้าวต้มที่มีน้ำมากกว่าข้าวให้นาง ลี่ถิงมองด้วยความท้อใจ

แต่เพื่อให้ร่างกายหายเป็นปกติจึงต้องทนกินข้าวต้มที่ไร้รสชาติและยาขม ๆ เข้าไปจนหมดหลังจากนั้นเมื่อทั้งสองเห็นว่าพี่สะใภ้ตัวเองกินข้าวกินยาแล้วจึงปล่อยให้นางได้นอนพัก

พวกเขาจึงออกจากห้องไปและทำงานบ้านและขุดแปลงผักเพิ่มขึ้น หยางสวี่คุณอยากเลี้ยงไก่เพราะมันสามารถออกไข่ให้ได้เก็บกินทุกวัน

เขาจึงบอกกับพี่ชายว่าถ้าหากได้ไก่ป่าที่ยังไม่ตายมาและเป็นตัวเมีย เขาจะขอเอามาเลี้ยงไว้ที่บ้านเอาไว้กินไข่ซึ่งหยางเฉิงคุณก็รับปากน้องชายเป็นอย่างดี นอกจากนี้พวกเขายังปลูกผักเล็ก ๆ น้อย ๆ เอาไว้กินเองอีกด้วย

ยามซื่อหยางเฉิงคุณกลับมาจากดูกับดักที่วางเอาไว้วันนี้เขาไม่ได้อะไรติดไม้ติดมือมาเลยนอกจากกระต่ายป่าหนึ่งตัวเท่านั้นและผักป่าอีกนิดหน่อย

หลังจากกลับมาแล้วเขานำกระต่ายไปทำความสะอาดและเก็บเอาไว้ทำอาหารเย็นจากนั้นจึงได้ไปช่วยน้องชายทำแปลงผักเพิ่มหลังจากที่กินข้าวต้มไปแล้วหนึ่งชาม

“พี่ใหญ่ท่านกลับมาแล้วหรือขอรับ”

“อืม วันนี้พี่ไม่ได้อะไรมาเลย นอกจากกระต่ายป่าหนึ่งตัว ขอโทษพวกเจ้าด้วยนะที่ทำให้ลำบาก”

“พวกข้าไม่ได้ลำบากอะไรพี่ใหญ่อย่าพูดแบบนี้เลย ถ้าไม่มีพี่ใหญ่พวกเราก็ไม่รู้จะเป็นยังไงท่านพ่อท่านแม่เองก็ไม่อยู่แล้ว”

“เอาไว้พี่ล่าสัตว์พวกหมูหรือกวางได้และนำไปขายพี่จะซื้อชุดใหม่ให้พวกเจ้านะ”

“ขอรับพี่ใหญ่ อ่อพี่สะใภ้ตื่นแล้ว ข้าให้นางกินข้าวกินยาแล้ว ตอนนี้คงหลับไปแล้วล่ะ”

“อืม พี่ก็หวังว่าเมื่อนางหายดีแล้วนางจะยอมอยู่กับพวกเรานะ”

“ข้ามั่นใจว่านางจะต้องอยู่กับพวกเราแน่ ๆ ขอรับ”

“ทำไมน้องรองมั่นใจขนาดนั้นล่ะ”

“ก็พี่ใหญ่บอกว่านางไม่มีใครและถูกนำมาขายอีกอย่างนางจะมาเป็นภรรยาของพี่ ภรรยาก็ต้องอยู่กับสามีสิขอรับ”

“อืม พี่ก็หวังว่านางจะยอมเป็นภรรยาของพี่และยอมอยู่กับพวกเราต่อไป”

ไป๋ลี่ถิงที่นอนมาทั้งวันตอนนี้นางรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาแล้วสามารถลุกขึ้นได้แล้วดูเหมือนว่ายาที่ดื่มเข้าไปจะดีพอสมควรตอนนี้นางไม่รู้สึกเจ็บปวดเท่าไหร่แล้วยังมีแค่ส่วนหัวที่มีรอยฟกช้ำเท่านั้น

นางจึงลุกขึ้นและเดินออกมาจากกระท่อม เมื่อออกมาข้างนอกนางมองเห็นภูเขาและป่าเท่านั้น ภายในระยะทาง 1 ลี้นี้ไม่มีบ้านคนอื่นอยู่เลย

นางเดินไปรอบ ๆ บ้านและมองดูสภาพกระท่อมเก่า ๆ นี้ มันจะผ่านฝนผ่านหนาวไปได้หรือไม่ก็ยังไม่รู้ จะทำยังไงได้ มาก็มาแล้วกลับไปก็ไม่ได้แล้วคงต้องทำใจยอมรับและอยู่กับมันให้ได้เท่านั้น

“เจ้าตื่นแล้วหรือ รู้สึกอย่างไรบ้างยังเจ็บอยู่หรือไม่” หยางเฉิงคุณที่มาตอนไหนไม่รู้จู่ ๆ ก็ถามออกมาจึงทำให้นางถึงกับสะดุ้งตกใจ

"อ๊ะ ท่านตกใจหมดเลย ตื่นเมื่อสักครู่เจ้าค่ะ ตอนนี้ไม่เจ็บเท่าไหร่แล้วขอบคุณมากนะเจ้าคะที่ช่วยเหลือข้า”

“ไม่ต้องขอบคุณหรอกต่อไปเจ้าต้องตอบแทนข้าในฐานะสามีอยู่แล้ว” หยางเฉิงคุณตัดสินใจพูดออกมาและรอดูท่าทีของนางว่าจะมีปฏิกิริยาอย่างไร

“ข้าทราบเจ้าค่ะ แต่ก็อยากขอบคุณท่านเพราะถ้าหากท่านไม่ยื่นมือเข้ามาช่วยข้าก็คงตายไปแล้วจริง ๆ (ถึงแม้ว่าจะตายไปแล้วจริง ๆ ก็เถอะแต่ใครมันจะไปพูดแบบนั้นได้กันเล่า) ถ้าหากท่านไม่รังเกียจข้าที่ยากจนไร้ญาติไม่มีพ่อแม่ไม่มีทรัพย์สินเงินทองข้าก็ยินดีอยู่เป็นภรรยาของท่านเจ้าค่ะ แต่ถ้าหากวันใดท่านมีคนที่รักและต้องการจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันก็ขอให้ท่านปล่อยข้าไปได้หรือไม่เจ้าคะเพราะข้ารู้ดี ถึงแม้ท่านจะบอกว่าข้าคือภรรยาแต่ความจริงข้าเป็นเพียงทาสของท่านเท่านั้น”

“ข้าไม่เคยคิดเช่นนั้น เจ้าเอาอะไรมาพูดกัน ภรรยาคือภรรยาจะเป็นทาสได้ยังไง เจ้าเลิกคิดไร้สาระได้แล้วกลับเข้าห้องไปนอนพักผ่อนเถอะ”

“ข้านอนมามากแล้วเจ้าค่ะ ขอบพระคุณท่านที่ห่วงใย”

“เจ้าเลิกเรียกข้าว่าท่านสักทีเถอะ ข้าชื่อหยางเฉิงคุณเจ้าเรียกข้าว่าพี่หยางหรือท่านพี่ก็แล้วกัน”

“เจ้าค่ะพี่หยาง เช่นนั้นข้าขอไปดูในครัวก่อนว่ามีอะไรให้ทำหรือไม่”

“อืม มาเถอะข้าพาเจ้าไปเอง”

หยางเฉิงคุณเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเช่นกันทำไมตอนที่เขาได้ยินนางพูดว่าเป็นเพียงทาสของเขาเท่านั้นและนางบอกว่าให้เขาปล่อยนางไปทำไมเขารู้สึกเจ็บปวดที่ใจแปลก ๆ

เมื่อก่อนเขาไม่เคยเป็นแบบนี้เลยหรือว่าเขาจะป่วยเป็นโรคร้ายแรงเข้าแล้วครั้งหน้าที่เข้าไปขายของในเมืองคงต้องไปให้หมอชราตรวจดูเสียหน่อย

เขาจะเป็นอะไรไปตอนนี้ไม่ได้ น้องทั้งสองคนยังไม่โตที่สำคัญเขาเองเพิ่งจะมีภรรยาไม่ใช่หรือ ไม่ได้แล้วคงต้องรีบหาทางรักษาหากว่าเขาป่วยจริง ๆ

บทก่อนหน้า
บทถัดไป