บทที่ 7 เข้าป่าวันที่สอง

หลังจากที่ทั้งสามคนแบกตะกร้าที่อัดแน่นไปด้วยฟักทองและมันเทศกลับมาถึงบ้าน น้องชายทั้งสองล้มตัวลงนอนข้างตะกร้าด้วยความเหนื่อยล้า

ลี่ถิงรับเอาเถามันเทศไปแช่น้ำไว้ก่อนเพราะกลัวว่าถ้ามันเหี่ยวแล้วจะปลูกไม่ขึ้นแต่นางก็ไม่มั่นใจมากนักว่ามันจะปลูกได้หรือไม่

ลองดูก็ไม่เสียหายอะไรปลูกได้ก็ดีปลูกไม่ได้ก็ไม่เป็นไร หลังจากนั่งพักจนหายเหนื่อยแล้วทั้งสามคนจึงได้ขนเอามันเทศและฟักทองเข้าไปเก็บในครัว

“วันนี้ข้าไม่คิดเลยว่าพวกเราจะเจอของกินในป่า ถ้ามีมันเทศพวกนี้อยู่เราก็จะมีอาหารกินเพิ่มไปอีกหลายวันเลย”

“ข้าว่าพรุ่งนี้พวกเราเข้าป่ากันอีกดีหรือไม่ ข้าคิดว่าในป่าลึกที่เราเข้าไปมันอาจจะมีอะไรดี ๆ อยู่ก็เป็นได้”

“พี่สะใภ้แต่มันจะอันตรายเกินไปหรือไม่ป่าลึกขนาดนั้นข้ากลัวว่าจะมีสัตว์ป่าออกมาน่ะสิ”

“ไม่เป็นไรหรอกวันนี้เราก็ไม่เจอสัตว์ป่าเลยไม่ใช่หรือ ข้าว่าพวกมันน่าจะอยู่เข้าไปลึกกว่าที่พวกเราจะเดินไปถึง พวกมันเองก็คงไม่ออกมาง่าย ๆ หรอกเพราะกลัวถูกนายพรานล่าน่ะ”

“อืม เช่นนั้นเอาตามที่พี่สะใภ้ว่าก็แล้วกัน ตกลงพรุ่งนี้เราจะเข้าป่ากันอีก แต่ข้าว่านะเราออกไปแต่เช้าหน่อยดีกว่าเพราะข้าไม่อยากไปสายน่ะ เดี๋ยวจะพลาดของดี ๆ ไปหมด”

“ได้ตกลงตามนี้ พวกเจ้าสองคนไปอาบน้ำก่อนถ้าจับปลามาได้ก็จับมาด้วยนะเดี๋ยวจะทำของอร่อยให้กิน”

"ได้เลยขอรับพี่สะใภ้วางใจพวกข้าได้เลย ไปกันเถอะพี่รอง"

“เรื่องกินนี่ไวเสียจริงนะน้องเล็ก”

“แน่ล่ะเมื่อก่อนเราไม่ได้กินอาหารที่อร่อยเลยนี่นะ พอพี่สะใภ้มาทำให้ความอยากอาหารของข้าเพิ่มขึ้นล่ะ”

คล้อยหลังน้องชายทั้งสองคนลี่ถิงลงมือทำอาหารเย็นสำหรับพวกเขาทั้งสามคนทันที ฟักทองที่ได้มาวันนี้นำมาทำเป็นโจ๊กฟักทอง

ในบ้านแทบจะไม่มีอะไรเลยอย่าพูดถึงเนื้อสัตว์ถ้าพวกเขาจับปลาได้ก็จะมีเนื้อปลากินถึงจะบอกว่าผัดผักก็เถอะแต่น้ำมันที่มีอยู่น้อยนิดนั้นทำให้ลี่ถิงหดหู่ใจจริง ๆ

หวังว่าเฉิงคุณจะได้หมูป่ากลับมาบ้างไม่เช่นนั้นคงขอให้เขาซื้อมันหมูที่ตลาดกลับมาแทนลี่ถิงต้องการทำน้ำมันหมูเอาไว้ใช้เองเพราะน้ำมันถือเป็นอีกอย่างที่มีราคาแพง

โจ๊กฟักทองสุกแล้วลี่ถิงผัดผักกาดขาวอีกอย่างระหว่างนั้นเด็ก ๆ ที่ไปอาบน้ำก็กลับมาพอดีตอนนี้เวลาล่วงเลยเข้ายามโหย่วแล้ว (17.00-18.59น.)

ทั้งสองคนไม่ได้ทำให้ลี่ถิงผิดหวังพวกเขาจับปลากลับมาได้จริง ๆ ถึงแม้ว่าจะมีเพียงตัวเดียวแต่ก็สามารถเพิ่มอาหารมื้อนี้ได้มากเลยทีเดียว

“พี่สะใภ้พวกข้ากลับมาแล้ว พวกข้าจับปลามาได้ 1 ตัว พี่สะใภ้จะให้ทำความสะอาดเลยหรือไม่”

“เดี๋ยวข้าจะทำเองพวกเจ้าเอาผ้าไปตากให้เรียบร้อยแล้วมารอกินข้าว ตากผ้าเสร็จแล้วไปเก็บต้นหอมที่แปลงผักมาให้ข้าด้วยก็แล้วกัน”

“ได้เลยขอรับพี่สะใภ้ พี่รองข้าจะไปเก็บต้นหอม พี่ช่วยตากผ้าให้ข้าหน่อยได้หรือไม่”

“ได้ ๆ เจ้าไปเถอะแล้วก็ล้างมาให้สะอาดเสียด้วยล่ะ”

“เข้าใจแล้ว”

เนื่องจากในห้องครัวมีเครื่องปรุงเพียงแค่เกลือเท่านั้นลี่ถิงนำปลามาขอดเกล็ดควักไส้และล้างจนสะอาดจากนั้นนำขิงมาหั่นฝอยแล้วนำไปขยำ ๆ กับต้นหอมที่ฮั่นคุณเอามาให้จนต้นหอมและขิงมีน้ำออกมา

จากนั้นนำน้ำที่ได้มาหมักปลาและใส่เกลือลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากันและทิ้งไว้ครึ่งเค่อ จากนั้นนำขิงหั่นแว่น ต้นหอม วางใส่จานและนำปลาที่หมักเอาไว้วางทับลงไปแล้วนึ่งให้สุกใช้เวลา 1 เค่อ ก็จะได้ปลานึ่งเกลือเป็นอาหารเย็นอีกอย่าง

หลังจากอาหารทุกอย่างเสร็จแล้วลี่ถิงเรียกเด็กทั้งสองคนมากินข้าว และเป็นไปตามที่นางคิดเอาไว้ อาหารมื้อนี้เป็นที่ถูกอกถูกใจฮั่นคุณเป็นอย่างมาก

“พี่สะใภ้ เจ้าฟักทองนี้ทั้งหวานทั้งมันพอมาผสมกับข้าวทำเป็นโจ๊กแล้วอร่อยมากเลยเสียดายที่พี่ใหญ่ไม่ได้กิน”

“เอาไว้พี่ใหญ่ของเจ้ากลับมาแล้วข้าจะทำให้กินอีกดีหรือไม่”

“ดีขอรับ แล้วเมล็ดมันสามารถนำมาปลูกที่สวนของเราได้ใช่หรือไม่ขอรับ”

“ใช่แล้วล่ะ เดี๋ยวตากให้แห้งก็ใช้ได้แล้วล่ะสามารถนำไปปลูกได้ต่อไปเราจะมีฟักทองเอาไว้กินและฟักทองสามารถเก็บเอาไว้ได้นานพอตอนเข้าสู่ฤดูหนาวพวกเราก็จะมีอาหารเพิ่มขึ้น”

“นี่มันดีมากเลยขอรับ พี่สะใภ้ไปอาบน้ำเลยเดี๋ยวข้ากับน้องเล็กจะล้างชามให้เองจะได้รีบพักผ่อน”

เวลาล่วงเลยเข้ายามซวี (19.00-20.59น.) ทั้งสามคนเข้านอนเป็นที่เรียบร้อยเพราะพรุ่งนี้พวกเขามีงานที่ต้องทำอีกมาก

เช้าวันรุ่งขึ้นลี่ถิงตื่นขึ้นมาในยามอิ๋น (03.00-04.59น.) นางจัดการล้างหน้าแปรงฟัน จากนั้นก็ทำโจ๊กมันเทศและยังเอามันเทศมาเผาหลายหัวด้วยกันมันเผานี้นางตั้งใจจะเอาไปกินเป็นอาหารเที่ยงในป่า

อาหารเช้าวันนี้จึงมีเพียงโจ๊กมันเทศและไข่กวนที่เก็บจากเล้าไก่หลังบ้าน จากนั้นนางออกไปรดน้ำที่แปลงผัก จนถึงยามเหม่า (05.00-06.59น.) งานทุกอย่างก็เสร็จสรรพ

เมื่อเด็กทั้งสองคนตื่นขึ้นมาพี่สะใภ้ของพวกเขาก็ทำงานเสร็จหมดแล้วสวี่คุณรู้สึกละอายใจมากที่ตัวเองปล่อยให้พี่สะใภ้ทำงานหนักอยู่คนเดียวไม่รู้ว่าพี่ใหญ่รู้เข้าจะตำหนิเขาหรือเปล่า ลี่ถิงที่เหมือนจะรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่จึงได้ปลอบใจเขา

“ไปล้างหน้าบ้วนปากเถอะจะได้รีบกินข้าวเดี๋ยวเข้าป่าสายจะร้อนเอา อย่าคิดมากพวกเจ้ายังเด็กนอนให้มากนั้นเป็นเรื่องที่ดี งานแค่นี้ไม่ได้หนักหนาอะไรข้าทำไม่นานก็เสร็จแล้ว”

“ขอบคุณขอรับพี่สะใภ้”

หลังจากจบมื้ออาหารเช้าลี่ถิงเตรียมตัวเข้าป่าอีกวันในตะกร้าของพวกเขามีเสียมอันเล็ก ๆ และมีดเล็กส่วนลี่ถิงเอามีดที่ใช้ถางหญ้าไปด้วย

ในตะกร้าของนางยังมีน้ำดื่มและมันเผาวันนี้นางตั้งใจจะเดินเข้าไปลึกหน่อยเผื่อว่าจะเจออะไรที่สามารถนำมาเป็นอาหารได้เมื่อตอนเช้านางเอาเถามันเทศไปปลูกไว้ข้างแปลงผักไม่รู้มันจะตายหรือไม่

หลังจากนี้ค่อยว่ากันอีกทีทั้งสามคนมุ่งหน้าเข้าป่าไปในปลายยามเหม่า (05.00-06.59น.) ทั้งสามคนเดินไม่ได้รีบร้อนอะไรทั้งสามคนเดินเข้าป่าโดยเลี่ยงอีกทางที่ชาวบ้านเข้าไปหาของป่ากันเป็นประจำ

ลี่ถิงตอนที่นางฝันนั้นนางได้จดจำทางเข้าป่าเอาไว้แล้ว เดินมาได้ไม่นาน ก็เจอเข้ากับผูเถาที่กำลังสุกสีม่วงอมแดงไม่รอช้าลี่ถิงรีบเด็ดใส่ปากทันที

ผูเถานี่อร่อยมากเก็บกลับไปให้หมดแล้วแบ่งหมักเป็นเหล้าผูเถา(องุ่น)เอาไว้ดื่มน่าจะดี นอกจากจะเจอผูเถาแล้วยังเจอผิงกั่วที่ทั้งลูกใหญ่และรสชาติหวานมาก

ตะกร้าที่เอามาด้วยเต็มไปด้วยผูเถาและผิงกั่วนอกจากนี้นางไม่ลืมที่จะขุดต้นเล็ก ๆ กลับไปปลูกด้วยเช่นกันที่ดินหลังบ้าน 7 หมู่นั้นนับว่าสามารถทำสวนผักผลไม้ได้

ถือว่าไม่แย่มันจะดีกว่านี้ถ้านางเจอพวก มะนาว มะกรูด ตะไคร้ เครื่องปรุงในชาติก่อนของนางจะว่าไปพริกมีหรือเปล่ามันต้องมีต้องหาให้เจอนี่คือความตั้งใจของลี่ถิง ยังไม่ทันถึงยามซื่อ (9.00-10.59น.)

ตะกร้าของพวกเขาก็เต็มหมดเสียแล้ว ทั้งสามคนจึงตกลงใจจะเอากลับไปเก็บที่บ้านก่อนแล้วค่อยกลับเข้าป่ามาใหม่ เมื่อตกลงกันได้ทั้งสามคนรีบออกจากป่าประหนึ่งโดนหมาป่าไล่กวดมาก็มิปาน

หลังจากเอาตะกร้าที่เต็มไปด้วยผลไม้ป่าไปเก็บที่บ้านแล้วทั้งสามก็กลับเข้าป่ามาอีกรอบกลับเข้ามาถึงป่าด้านในก็เป็นเวลายามอู่เสียแล้ว (11.00-12.59น.)

ลี่ถิงจึงได้หาที่พักและเอามันเผาแบ่งให้น้องชายทั้งสองกินคนละสองหัว ทั้งสองคนดูจะชอบมันเผามากมันเทศที่เติบโตในป่ามีรสชาติดีกว่าที่ชาวบ้านปลูก

อีกทั้งยังหัวใหญ่กว่ามากเพราะป่ามีความอุดมสมบูรณ์ต่างจากชาวบ้านในยุคนี้ไม่รู้จักใช้ปุ๋ยบำรุงดิน

“ข้าไม่เคยรู้เลยว่ามันเทศนำมาเผาจะอร่อยและหอมมากขนาดนี้” ฮั่นคุณผู้หลงใหลในการกิน

“นั่นสิปกติพวกเราเอามาต้มและผสมลงในโจ๊กเท่านั้น”

“พี่สะใภ้เก่งมากอีกไม่นานข้าต้องอ้วนเป็นหมูแน่ ๆ”

หลังจากที่ฮั่นคุณพูดจบทั้งสามก็หัวเราะออกมา ถึงแม้ว่าวันนี้จะยังลำบากแต่นางไม่เชื่อหรอกว่าคนที่มาจากยุค 2021 อย่างนางจะหาของกินและหาวิธีทำให้ครอบครัวสุขสบายไม่ได้

ยังมีอะไรอีกเยอะที่คนสมัยนี้ไม่รู้จักแต่นางรู้จักนี่คือข้อได้เปรียบหลังจากอิ่มกันแล้วทั้งสามก็ออกเดินต่อ

เดินมาได้ไม่นานฮั่นคุณก็เจอเข้ากับรังไก่ฟ้ามีไข่อยู่ 5-6 ฟองเขาเก็บเอามาทั้งหมด จากนั้นจึงได้พากันเดินต่อเดินมาได้สัก 2 เค่อ ลี่ถิงเจอเข้ากับข้าวโพด

ใช่มันคือข้าวโพดหวานมีทั้งฝักที่แก่แล้วและฝักที่ยังอ่อนอยู่สามารถนำไปต้มกินสด ๆ หรือทำเป็นโจ๊กข้าวโพดได้เช่นกัน

“อืมดูเหมือนเราจะเจอของอร่อยอีกแล้วล่ะฮั่นคุณ”

“อะไรหรือขอรับพี่สะใภ้ เจ้านี่หรือขอรับมันเรียกว่าอะไรหรือ”

“เจ้านี่เรียกว่า ยวี่หมี่ ฝักอ่อนสามารถนำไปต้มกินได้เลยหรือทำเป็นโจ๊กก็ได้อร่อยเหมือนกัน”

“อู้ววว ของอร่อยอีกแล้วงั้นก็เก็บเลยขอรับ พี่รองท่านไปเก็บฝักที่แก่แล้วนะข้าจะเก็บฝักที่ยังอ่อนอยู่พี่สะใภ้เราจะปลูกยวี่หมี่ในที่ดินของเราด้วยไหมขอรับ”

“ปลูกแน่นอนอยู่แล้วล่ะจะนอกจากนี้มันยังสามารถนำไปทำเป็นแป้งเอาไว้ทำซาลาเปาหรือหมั่นโถวได้ด้วยนะ”

“ขอรับ ดีจังเลยที่พี่สะใภ้ได้เรียนรู้มาจากท่านพ่อของท่านเยอะแยะเลย ขอบคุณพี่สะใภ้มากนะขอรับ ที่ยอมอยู่กับพวกเรา”

“ทำไมเจ้าพูดแบบนั้นล่ะข้าเป็นภรรยาของพี่ชายเจ้า ภรรยาก็ต้องอยู่กับสามีสิ รีบ ๆ เก็บเข้าจะได้รีบกลับ”

“ขอรับ"

ฮั่นคุณเก็บข้าวโพดใส่ตะกร้าจนเต็มถึงแม้จะเหน็ดเหนื่อยแต่เขายังยิ้มได้เพราะมีอาหารเพิ่ม พี่สะใภ้บอกว่ามันอร่อยมันก็ต้องอร่อยแน่อยู่แล้ว

ตั้งแต่ที่นางอยู่กับพวกเขามาสิ่งไหนที่นางบอกอร่อยก็อร่อยจริง ๆ สิ่งไหนนางบอกว่ามีพิษก็ต้องมีพิษเพราะนางมีความรู้มากมาย

ทั้งสามคนกลับออกจากป่าถึงบ้านก็ยามโหย่วพอดี (17.00-18.59น.) ลี่ถิงตรงเข้าครัวและเช่นเดิมทั้งสองคนไปอาบน้ำและจับปลาเพื่อมาให้พี่สะใภ้ทำอาหารแต่น่าเสียดายที่วันนี้พวกเขาจับไม่ได้เลยสักตัว

ทำให้ตอนเย็นมีเพียงโจ๊กยวี่หมี่และผักต้ม ยวี่หมี่ต้มเท่านั้น แต่เพียงแค่นี้ฮั่นคุณก็กินจนพุงกาง สวี่คุณเองก็ไม่น้อยหน้าน้องชาย หลังจากนั้นพวกเขาจึงได้แยกย้ายกันไปพักผ่อน

บทก่อนหน้า
บทถัดไป