บทที่ 8 เห็นหน้าก็ชื่้นใจ

ปืนใหญ่ (เล่าเรื่อง)

“อือฮึ ผมจะไม่แชร์ แต่เก็บไว้ดูได้ไหม เสียงปืนใหญ่เร่าร้อนจนผมแทบคลั่ง นานแล้วนะที่ไม่ถูกใจใครแบบนี้”

ผมไม่อยากคุยเรื่องนี้ให้อับอายอีก จึงเดินไปเอากล้องยูเอสบีมาแล้วกระทืบอย่างคนเสียสติ พออารมณ์ลดลง หายกรุ่นๆ ในอกจึงค่อยรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย

“เอาละ คืนนี้ฝันดีนะครับ นอนพักผ่อนให้เพียงพอ พรุ่งนี้เจอกันตอนเจ็ดโมงตรง อาบน้ำแต่งตัวหล่อๆ ด้วย เวลาเห็นหน้าผมจะได้ชื่นใจ”

เขาบอกผมจบก็เดินไปที่ประตู เป็นตอนนั้นที่ผมเห็นว่าเพื่อนร่วมแก๊งทยอยเดินมาพอดี ผมจึงรีบสวมเสื้อผ้าให้เรียบร้อย พอประตูเปิดออก ลงเอยก็ทำให้เพื่อนๆ ผมประหลาดใจ ก่อนที่สายตาพวกมันจะสอดส่องเข้ามาถึงผม

“เชี่ยปืน มึงพาใครมากินที่ออฟฟิศเลยเหรอ แบบนี้เจ้ตุ้งแช่ไม่เอ็ดตายห่า เสียระบบของหอพักหมด”

พร หรือ เจริญพร เด็กช่างศิลป์ ต่อว่าผมชุดใหญ่ มันมองตามแผ่นหลังของลงเอย พลอยให้ผมรู้สึกใจหายใจคว่ำไปด้วย

“ปละ เปล่า กูคุยงาน” ผมปฏิเสธเสียงตื่น และไอ้หน้าเด็กสุดของกลุ่มชื่อ อเนก ทำเป็นหรี่ตามองผม ตามด้วยไอ้แดนซึ่งก้าวยาวๆ มาใกล้ผม มันทำจมูกเหมือนหมาดมตามเนื้อตัวผม

“กลิ่นเนย นม ผสมวนิลา ไอ้ห่า ตั้งแต่กูมาอยู่ที่นี่ ไม่เคยรู้มาก่อนว่ามึงตัวหอมเหมือนขนม”

เสียงแดนไกล เด็กช่างยนต์ที่ตอนนี้หน้าแดงมากและตาเยิ้มจัด นั่นคงเป็นเพราะมันขี้เหล้าที่สุดในกลุ่ม แถมยังหน้าหล่อเป็นอันดับสองรองจากผม ถ้าสาวหรือหนุ่มคนไหนที่ผมเลิกควง มันจะเป็นคนรับไม้ต่อ เรียกได้ว่าเป็นอีกร่างของผมได้เลย

“ตัวมึงหอมชวนฝันฉิบหาย” แดนไกลเอ่ยย้ำและไม่วายหันไปมองด้านนอกออฟฟิศ ดูเหมือนมันก็เป็นอีกคนที่สนใจการปรากฏตัวของลงเอย

เวลานั้นผมหน้าซีดปากคอสั่นทีเดียว อยากเถียง อยากแก้ตัว ทว่าโทรศัพท์มือถือผมกลับดังขึ้น และคนโทร.เข้ามา คือไอ้สาดเอย!


ผมคิดว่าลงเอยต้องเล่นคุณไสยแน่ๆ ไม่อย่างนั้น ผมจะรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว และเสียวที่ต้นคอและบั้นท้ายขนาดนี้หรือ อีกอย่างพอผมไปส่องกระจกเพื่อสำรวจเนื้อตัวตนเอง ความเชี่ยขั้นสุดยอด ก็ปรากฏให้เห็น

รอยถูกดูดที่คอมันกำลังจะประจานผมต่อทุกสายตา เชี่ยสัดๆ เรื่องแบบนี้ใครจะรู้เห็นไม่ได้ โดยเฉพาะเพื่อนร่วมแก๊ง และพวกที่อยู่หอพักชายเจ้ตุ้งแช่

ผมอาบน้ำถูตัว เรียกได้ว่าขัดขี้ไคลครั้งใหญ่ในรอบปีเลยก็ว่าได้ ขณะอาบน้ำ มือก็พยายามทะลึ่งทำเรื่องอย่างว่าไปด้วย แต่ให้ตายเถอะ ภาพที่อยู่ในหัวผม กลับเป็นใบหน้าลงเอย ผมไม่คาดคิดว่าความซวยจะเกิดขึ้นรุนแรงถึงเพียงนี้ ผมอาจเป็นพวกที่ก่อกวนชาวบ้านนิดๆ หน่อยๆ เปรี้ยวตีนอยู่บ้าง หรือทำเรื่องที่ไม่เข้าท่าตลอด แต่ผมไม่เคยคิดจะข่มเหงใครทั้งทางร่างกายและจิตใจ เรื่องนี้เป็นความจริง พวกที่ผมนอนด้วยส่วนมากเต็มใจทั้งนั้น มีหลายคนที่กลับมาใช้บริการซ้ำ เมื่อคิดได้ดังนั้นผมจึงรีบออกไปใส่เสื้อผ้า กดโทรศัพท์มือถือเรียกหาคนคุ้นเคยกัน

ไม่น่าเชื่อ โทร.ไปสิบสาย รวมถึงทิ้งข้อความในแชตอีกหลายคน แต่พวกเขาจู่ๆ ก็ไม่ว่างขึ้นมาเสียอย่างนั้น ผมเลยหัวเสียหนัก แต่มันยังมีคนน่ารักอีกคนที่อยู่บ้านใกล้ผม

“ได้ไหมจ๊ะจ๋า... ครางให้พี่ฟังก็ได้ ทำเสียงกระเส่าๆ อ้อนๆ หน่อย เริ่มจากใช้ลิ้น ปาก แล้วต่อด้วยน้องจุ๋มจิ๋ม”

จ๊ะจ๋าหรือลีลาวดี เธอคือหนึ่งในคนที่ผมเคยควงด้วยสมัยที่เธออยู่ปวช.3 ตอนนี้เธอพยายามตัดบทผมผ่านการคอลวิดีโอ (เล่นเซ็กซ์โฟน)

“ไม่เอา พี่เป็นคนบอกว่าเราควรห่างกันสักพักนี่นา อีกอย่าง... พี่ไปนอนกับพี่เก่งด้วย!”

เมื่อถูกท้วง สติผมจึงกลับคืนสู่โลกปกติ ไม่เจือความงุ่นง่านเหมือนเมื่อครู่

“เก่งให้ท่าพี่ก่อน จ๊ะจ๋าจำไม่ได้เหรอ”

“จำได้ แต่พี่ปืนทำไม่ถูกรู้ไหม พี่เขาเป็นญาติจ๊ะจ๋า อีกอย่างตอนนี้พี่เก่งเปลี่ยนไปมาก ทั้งหมดเพราะพี่ปืน”

จ๊ะจ๋าทำให้ผมปวดหัวจนความคิดอยากปลดปล่อยหดหายไปชั่วขณะ “จะบอกว่าพี่จุดไฟในตัวเก่งให้ลุกโชนหรือไง อีกอย่างก็แฟร์ๆ นี่นา มีอะไรสนุกกันทั้งสองฝ่าย”

“ก็รู้ว่าพี่ปืนชอบแบบนั้น แต่จ๊ะจ๋า... ใช้ผู้ชายคนเดียวกันกับลูกพี่ลูกน้องตัวเองไม่ได้ โดยเฉพาะผู้ชายที่ได้ทั้งหน้าและหลัง แบบพี่ปืน!”

ผมหน้าชานิดๆ อันที่จริงผมไม่ได้สำส่อนหรือหลอกฟันใครต่อใครไปทั่วขนาดนั้น แค่คุยเล่นไปวันๆ ใครอยากลึกซึ้งก็ชวนขึ้นเตียง นับนิ้วแล้วมันไม่กี่คน ที่สำคัญผมป้องกันทุกครั้ง ส่วนจ๊ะจ๋าเราแค่คุยกัน พอจะสานต่อบทลึกซึ้ง เก่งก็เข้ามาแทรกกลาง

“สรุปจะครางให้พี่ชักว่าวไหม”

จ๊ะจ๋าเงียบไปชั่วอึดใจ ก่อนที่ใบหน้าของเก่งจะโผล่เข้ามาในจอโทรศัพท์มือถือ

“ฉิบหาย! อยู่ด้วยกันเหรอเนี่ย”

“เออ ก็ใช่น่ะซี อยากให้ครางพร้อมกันเลยไหมปืนใหญ่!”

เสียงห้าวๆ ของเก่งดังแทรกเข้ามา ผมใจฝ่อนิดๆ อีกฝ่ายเรียกได้ว่าแมนแบบผู้ชายเตะบอล แถมอายุเขามากกว่าผมสามปี แต่เขายอมให้ผมทำทุกอย่าง แถมครางดี ร่อนเอวเยี่ยม

“เลิกยุ่งกับจ๊ะจ๋าเสียที แล้วถ้าอยากนัก ก็ไปซื้อกินเอา ไม่ก็หาพวกที่พร้อมยกขาให้นายดีกว่าไหม อย่ามาเล่นกับความรู้สึกคนอื่นอีกเลย”

ผมรู้สึกเหมือนถูกต่อยหน้าหงาย ก่อนตัดสายของเก่ง ผมถามเขาว่า “เนี่ย โทษที นายกับจ๊ะจ๋า ไม่ได้แบบตีฉิ่งกันอยู่ใช่ไหม”

เก่งคำรามเสียงข่มขู่ แล้วตวาดเสียงดังใส่โทรศัพท์จนหูผมแทบดับ “ไอ้ห่า อย่าคิดว่าคนอื่นจะวิตถารและโรคจิตเหมือนตัวเองสิปืนใหญ่ ถ้ามึงเสี้ยนนัก ก็ไปแก้ผ้าเอาดอเย็บกับต้นไม้ หรือจุดธูปเรียกผีมาปี้เลยไอ้สาด!”

บทก่อนหน้า
บทถัดไป