บทที่ 6 ตอน แสงตะวันของหัวใจ/3

“โอ เด็กผู้ชายจริงๆ ด้วย ช่างยิ่งใหญ่สมกับเป็นทายาทของมาร์เซียอาโน่”

นายฟรองซัวร์เปิดผ้าอ้อมดูเพศของเด็กแล้วยิ้มกว้าง ชอบอกชอบใจกับความเป็นชายของเหลนตัวน้อย

“ผมทำตามคำขอร้องของคุณปู่แล้วนะครับ”

ริคคาโด้มองปู่ของเขาที่กำลังปลาบปลื้มกับทายาทคนล่าสุด มาเฟียหนุ่มรู้สึกโล่งใจที่ได้ทำตามความต้องการของผู้เป็นปู่สำเร็จได้ด้วยดี เอริกทำหน้าที่แทนเขาในการคัดเลือกผู้หญิงที่จะมาทำหน้าที่แม่อุ้มบุญ ดูแลจัดการจนเด็กคลอดออกมา แล้วนำมามอบให้เขา

“เจ้าหนูชื่ออะไรรึ”

คนเป็นปู่เอ่ยถาม พลางส่งเด็กน้อยให้พยาบาลรับไปดูแลต่อ

“ผมยังไม่ได้ตั้งชื่อให้แกเลยครับ คุณปู่ช่วยตั้งชื่อให้แกหน่อยสิครับ”

ริคคาโด้ขอให้ผู้เป็นปู่ตั้งชื่อให้ลูกของเขา ผู้สูงวัยกว่านิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะบอกว่า

“ให้ชื่อว่า โรมิโอ... โรมิโอ มาร์เซียอาโน่ ก็แล้วกันนะ โตขึ้นเจ้าหนูจะได้เป็นผู้ชายทรงเสน่ห์”

ริคคาโด้ถอนหายใจออกมาเมื่อหลุดจากภวังค์ความทรงจำในอดีต ตอนนั้นเขามอบลูกชายของเขาให้คนเป็นปู่ดูแล ตัวเขาไม่มีความสามารถในการดูแลเด็กเล็ก และยังต้องทำงานในหน้าที่บางครั้งก็ต้องเดินทางไปดูแลธุรกิจต่างเมือง การเลี้ยงเด็กจึงไม่ใช่งานที่เขาทำได้ นายฟรองซัวร์จึงให้ภรรยาของราฟาเอลซึ่งตอนนั้นก็เพิ่งมีลูกน้อยรับโรมิโอไปดูแล ตัวเขาจะแวะไปหาลูกเดือนละสองครั้ง ก่อนจะลงเรือเขาเพิ่งแวะไปหาลูกชายมา

“คุณป๋า ผมอยากไปเที่ยวด้วย” เมื่อรู้ว่าเขาจะมาเซริตาน่า โรมิโอจึงขอมาด้วย

“ไม่ได้หรอก ป๋าไปทำงานไม่ได้ไปเที่ยว ไว้ให้อาราฟพาไปเที่ยวสวนสนุกนะ”

การกระเตงลูกชายมาด้วย ไม่ใช่สิ่งที่เขาทำได้ เขาเดินทางมาเซริตาน่าเพื่อเจรจาเรื่องการแต่งงานกับหลานสาวของนิโคลัส ตัวเขาพยายามบ่ายเบี่ยงถ่วงเวลามาได้ห้าปีแล้ว ตอนนี้อีกฝ่ายกำลังเร่งรัดให้เขายอมตกลง เขารู้ข่าวว่านิโคลัสป่วย และอยากสละตำแหน่งให้อเลส ซานโดรหลานชายขึ้นมาทำหน้าที่แทน จึงพยายามหาพันธมิตรให้หลานชายเพื่อเป็นกันชนกับแก๊งอื่น ก่อนที่ตัวเองจะหมดลมหายใจ แล้วทิ้งหลานชายให้ขึ้นสู่ตำแหน่งเพียงลำพัง

“ปู่อยากให้แกไปฟังคารมตาแก่นั่นสักนิด กับดูหน้าหลานสาวสักหน่อย ค่อยตัดสินใจว่าจะตกลงรับข้อเสนอหรือเปล่า บางทีแกอาจจะติดใจความสวยของหลานสาวนิโคลัสก็ได้นะ” นายฟรองซัวร์บอกหลานชาย

ริคคาโด้ไม่คิดว่าเขาจะติดใจผู้หญิงอย่างอนาสตาเซีย เบตาโทรี่ เขาเคยให้นักสืบหารูปของเธอมาให้ดูแล้ว ยอมรับว่าเธอสวยแต่คนสวยไม่ใช่สิ่งที่ขาดแคลนสำหรับริคคาโด้ ผู้หญิงสาวสวยมากมายล้วนเสนอตัวให้เขาลิ้มชิมรส อนาสตาเซียต่างจากคนอื่นตรงเป็นหลานสาวของหัวหน้าแก๊งไทก้าซานโตนี่เท่านั้น น่าเสียดายราฟาเอลน้องชายของเขาแต่งงานไปแล้ว ไม่อย่างนั้นเขาจะยุให้น้องชายรับข้อเสนอแทน จะได้ไม่ต้องมาลำบากใจแบบนี้

“อีกยี่สิบนาทีจะถึงท่าเรือเซริตาน่าแล้วครับ” เอริกมารายงานผู้เป็นนาย

ในการเดินทางครั้งนี้ริคคาโด้ให้เอริกมากับเขาด้วย นิโคลัสเสนอการร่วมทุนสร้างอู่ต่อเรือแห่งใหม่ ทนายคู่ใจมีหน้าที่ในการดูแลผลประโยชน์ให้ผู้เป็นนาย

“นายไม่ได้แจ้งไปทางนั้นใช่ไหม ว่าฉันเดินทางมาทางเรือ ฉันอยากพวกนั้นเข้าใจว่าฉันจะใช้เครื่องบินส่วนตัวมาที่นี่ในอีกสองวันข้างหน้า”

ริคคาโด้มาก่อนวันนัดหมายล่วงหน้าสองวัน เขาเป็นพวกไม่ชอบการนัดหมายที่จำเพาะ จึงอยากเดินทางมาก่อนล่วงหน้าเผื่อดูสถานการณ์ สองวันนี้บางทีเขาอาจจะใช้เวลาเป็นส่วนตัวโดยไม่ต้องให้ทางฝ่ายนั้นเข้ามาวุ่นวาย

“ผมทำตามที่ท่านบอกเรียบร้อยครับ พอถึงวันนั้นเราค่อยเดินทางไปพบท่านนิโคลัสที่คฤหาสน์ของท่าน”

เอริกทำตามที่ผู้เป็นนายต้องการทุกอย่าง เขาหาที่พักเป็นส่วนตัวให้ผู้เป็นนาย โดยเลือกบ้านพักในแหล่งไม่มีผู้คนพลุกพล่าน ปิดข่าวการเดินทางมาที่นี่ไว้ไม่ให้ทางแก๊งไทก้าซานโตนี่รู้

“ผมจองที่พักให้ท่านแล้ว อยู่ไม่ไกลจากท่าเรือ ค่อนข้างสงบเพราะไม่ใช่รีสอร์ทหรือโรงแรมขนาดใหญ่”

“ดีมาก ฉันอยากพักสมองสักสองวัน ก่อนจะไปเจรจากับตาเฒ่านั่น บางทีฉันอาจจะยื่นข้อเสนอบางอย่าง แทนการแต่งงานกับหลานสาวของตาเฒ่า”

ริคคาโด้เหนื่อยหน่ายกับเรื่องการแต่งงาน เขาไม่อยากมีภาระผูกพันกับผู้หญิงคนไหน แต่ผู้เป็นปู่ก็ยังไม่เลิกหาทางให้เขาแต่งงาน จะมีเมียทั้งทีขอเลือกที่ถูกใจเองจะได้ไหม

“เรือจะเทียบท่าแล้วครับท่าน”

เอริกหิ้วกระเป๋าเดินทาง พร้อมกับส่งแว่นกันแดดให้ผู้เป็นนาย ริคคาโด้รับมาสวมไว้ เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้า กางเกงขาสั้นและรองเท้าผ้าใบ ทำตัวเหมือนนักท่องเที่ยวคนอื่นไม่ให้สะดุดตา

เรือจอดเทียบท่าในเขตเรือยอร์ช ซึ่งอยู่คนละด้านกับท่าเทียบเรือน้ำลึกใช้สำหรับเทียบท่าเรือสำราญ ร่างสูงใหญ่ของมาเฟียหนุ่มเดินลงมาจากเรือ เขากวาดสายตามองไปรอบๆ ด้วยเพิ่งเคยมาเยือนเซริตาน่าเป็นครั้งแรก

บริเวณท่าเรือมีนักท่องเที่ยวค่อนข้างพลุกพล่าน เสียงเรือเสียงผู้คนดังจอแจ บรรยากาศดูวุ่นวายไม่น้อย ริคคาโด้พาตัวเองเดินเล่นไปรอบๆ เขาไปสะดุดตากับเด็กหญิงคนหนึ่ง ร่างกลมป้อมนั้นกำลังช่วยหญิงชรานักท่องเที่ยวเก็บของหล่นพื้น ใกล้ๆ กันนั้นมีเด็กชายสองคนอายุประมาณเจ็ดแปดขวบยืนอยู่

“คุณยายคะ เดินดีๆ นะคะ”

บทก่อนหน้า
บทถัดไป