บทที่ 4 EP 01 หน้าที่ของบอดี้การ์ด [1]
Kirawa part :
Black Life
“แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะริโกะ” คุณฮานะหันไปโบกมือลาริโกะที่ยังคงนั่งนิ่งอยู่ที่เบาะด้านข้างคนขับ
แบล็กไลฟ์จัดเป็นคอนโดที่เน้นความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยสูง เพราะเป็นพักส่วนตัวของคุณโอยามะ รวมถึงบอดี้การ์ดอย่างผม และคนอื่นๆ ที่ได้รับความไว้วางใจให้ทำหน้าที่ซึ่งมีความจำเป็นที่จะต้องใกล้ชิดกับคุณโอยามะ มีระบบรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนาและห้ามคนนอกที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาโดดเด็ดขาด ยิ่งเป็นชั้นบนสุดที่เป็นห้องพักของคุณโอยามะกับคุณฮานะแล้ว ขนาดผมยังต้องได้รับคำสั่งเท่านั้นถึงจะขึ้นไปได้
“คิราวะ”
“ครับคุณฮานะ”
“นายจะฟ้องโอยามะเรื่องที่โทโมะกอดริโกะเหรอ”
น้ำเสียงของคุณฮานะเข้มขึ้นทำเหมือนกำลังจะปกป้องเพื่อนสนิท ซึ่งผมได้ยินแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ แม้จะแอบคิดในใจว่าตัวเธอเองยังเอาไม่รอดเลยจะไปปกป้องใครได้ก็ตาม
“การก้าวก่ายหน้าที่คนอื่น มันเสียมารยาทนะครับคุณฮานะ”
จริงๆ ผมไม่ได้คิดเรื่องนั้นเลยสักนิด เพราะถ้าผมอยากรู้เรื่องนั้นจริงๆ ผมว่าผมง้างปากคนในรถด้วยตัวเองง่ายกว่าตั้งเยอะ
“นี่นาย...”
“เชิญครับคุณฮานะ คุณโอยามะรออยู่” ตัดบทสั้นๆ พลางผายมือเป็นเชิงสัญลักษณ์ให้คุณฮานะเดินนำไปที่ลิฟต์ส่วนตัวก่อน ซึ่งเธอก็ยอมเดินออกไปแม้จะมีท่าทีกระฟัดกระเฟียดบ้างก็ตามที แต่ผมเห็นจนชินแล้ว
หลังจากที่คุณฮานะขึ้นลิฟต์นำผมไปก่อนแล้ว ผมก็กลับมามองริโกะอีกครั้ง ซึ่งทันทีที่ผมหันกลับมาสบตากับเธอโดยบังเอิญ เธอก็รีบก้มหน้าหลบสายตาของผมในทันที
นี่มันลักษณะของคนที่กำลังกลัวความผิดชัดๆ ต่อให้เป็นคนอื่นที่ไม่ได้ถูกฝึกมาอย่างผม ผมว่าก็คงดูออกเหมือนกัน จะว่ายังไงดีล่ะ ต้องโทษผมที่ไหวพริบดีมากกว่าคนปกติหรือโทษเธอที่เก็บอาการไม่เก่งเอง
ก๊อกๆ ๆ
แล้วผมก็ตัดสินใจเดินเข้าไปเคาะกระจกรถ แต่ทั้งที่มั่นใจว่าไม่ได้เคาะแรงมาก ผมกลับเห็นว่าคนด้านถึงกับสะดุ้งตัวโยน และเหมือนจะตั้งสติอยู่หลายวินาทีกว่าจะกดลดกระจกลงได้
ผมสตาร์ทเครื่องยนต์ไว้น่ะ เพราะคิดว่าผมน่าจะคุยกับคุณโอยะมะสักพัก เดี๋ยวจะมีคนขาดอากาศหายใจตายคารถไปซะก่อน
“คะคุณคิราวะ”
“ยี่สิบนาที” ผมพูดเพียงแค่สั้นๆ เพราะรู้ว่ามันเป็นวิธีสร้างความกดดันให้คนในรถได้เป็นอย่างดี สายตาของผมยังคงมองตรงไปที่คู่สนทนาอย่างตั้งใจจะสบตาด้วย ซึ่งถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้หลบสายตาผม แต่นัยน์ตาคู่นั้นก็ไม่ได้มุ่งมั่นเหมือนที่ผมเคยเห็น แม้จะไม่ได้สั่นมาก แต่ผมมั่นใจว่าไม่ใช่อาการปกติ
“ไม่เป็นไรค่ะ ริโกะรอได้”
ริมฝีปากสีระเรื่อระบายยิ้มออกมาจางๆ และยิ้มแค่แวบเดียวเพราะเธอแค่แสร้งยิ้มเพราะต้องการใช้รอยยิ้มนั้นกลบเกลื่อนบางอย่างที่ผมคิดว่าอีกไม่นานผมคงจะได้รู้
“ฉันหมายถึงเธอมีเวลายี่สิบนาทีในการคิดคำตอบไว้รอ”
แล้วผมก็ทำให้ใบหน้าที่ซีดขาวอยู่แล้ว ซีดลงได้อีกหนึ่งระดับ แถมยังประดับไปด้วยเม็ดเหงื่อผุดพราวทั้งที่ในรถแอร์เย็นเฉียบ
“ฉันอยากได้ยินคำตอบที่ถูกต้องมากกว่าคำตอบที่ถูกใจ” ผมย้ำเบาๆ ก่อนจะผละตัวออกมาอย่างตั้งใจจะทิ้งความกดดันเอาไว้ให้คนด้านหลัง
ริโกะเป็นเด็กฉลาดและโตมาในสภาพแวดล้อมที่บังคับให้เธอเคยชินกับความรู้สึกกดดัน แต่บางทีมันก็ทำให้เธอไม่หลงเหลือความสดใสแบบที่เด็กสาวอายุแค่สิบเก้าปีควรจะมี ซึ่งถ้ามีทางเลือกอื่น ผมคงไม่ทำแบบนี้กับเธอ แต่มันไม่มีน่ะสิ ผมเองก็ไม่ชอบให้ตัวเองเป็นแบบนี้เหมือนกัน แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ชอบให้ใครมาถึงเนื้อถึงตัวเธอมากกว่า
ติ๊ง!
เสียงสัญญาลิฟต์ดังขึ้นก่อนที่ประตูด้านหน้าของผมจะเคลื่อนตัวออกจากกันเมื่อพาผมขึ้นมาถึงชั้นบนสุดของแบล็กไลฟ์
“เข้ามา”
ทันทีที่คุณโอยามะเอ่ยปากอนุญาต ผมก็เอื้อมมือออกไปเปิดประตูแล้วก้าวเท้าเข้ามายังห้องประชุม ก้มหัวทำความเคารพผู้ชายร่างสูงที่นั่งสง่าอยู่ที่หัวโต๊ะ กวาดสายตามองไปที่ผู้ชายห้าหกคนที่ผมคุ้นหน้าคุ้นตาพวกเขาเป็นอย่างดีเพราะทำงานร่วมกันมานาน ก่อนจะเดินผ่านทุกคนนั่งมานั่งประจำที่ของผม ซึ่งก็คือด้านขวามือของคุณโอยามะ ผู้ชายที่เป็นทุกอย่างของแบล็กสกอร์เปี้ยน ผู้ชายกุมมารุทั้งเมืองเอาไว้ในกำมือ
“ขอโทษที่มาช้าครับ”
“นั่งเถอะ จะได้เริ่มกันสักที”
น้ำเสียงของคุณโอยามะยังคงความเด็ดขาดเอาไว้เสมอ
“ตรงหน้าคุณโอยามะและทุกคนคือรายงานการเคลื่อนไหวผลกำไรของแบล็กซิโนเมื่อไตรมาสที่แล้ว ริโกะเพิ่งส่งให้ผมเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาครับ” ผมรายงานต่อหน้าคุณโอยามะ
ก่อนหน้านี้ผมให้ริโกะจัดเตรียมเอกสารสำหรับการประชุมในวันนี้เรียบร้อยแล้ว และผมเองก็อ่านมันมาหมดทุกบรรทัดแล้วตั้งแต่ได้รับรายงาน
“ฉันอ่านแล้ว ไอ้ไดสึเกะยักยอกผลกำไรเข้ากระเป๋าตัวเองไปเดือนละแปดเปอร์เซ็นต์” คุณโอยามะพูดพลางกวาดสายตามองไปยังเอกสารรายงานตรงหน้า โดยที่ยังไม่ขยับตัวเองเลยด้วยซ้ำ
“ครับ ซึ่งโดยปกติแล้วมันจะสอดคล้องกับตัวเลขของเงินที่ถูกโอนเข้าบัญชีลับของไดสึเกะ ที่คนของเรารายงานอยู่ตลอด แต่ครั้งนี้ผมเช็คอย่างละเอียดแล้วแต่กลับไม่พบยอดเงินดังกล่าวครับ”
“หมายความว่าเงินก้อนนั้นไม่ได้ถูกโยกเข้าบัญชีของไดสึเกะ”
“ครับ รายละเอียดคัตซึจะเป็นคนรายงานต่อ”
