บทที่ 9 EP 02 การกลับมา [1]
Riko part :
09.20 น.
หัวใจของฉันเต้นแรงกว่าปกตินับตั้งแต่ที่ฉันก้าวเท้าออกจากบ้าน หนำซ้ำหนังตายังกระตุกอยู่หลายครั้ง มันเหมือนเป็นลางสังหรณ์บอกว่าวันนี้ไม่น่าจะใช่วันดีสำหรับฉันสักเท่าไหร่
วันนี้ฉันตัดสินใจจะไม่ไปโรงเรียนโดยอ้างกับคุณโยชิที่รับหน้าที่ไปรับไปส่งฮานะกับฉันแทนคุณคิราวะชั่วคราวไปว่าฉันรู้สึกปวดหัว ก็เลยขอลาหยุด แต่สาเหตุที่แท้จริงก็คือฉันตั้งใจจะมาดักรอพบผู้ชายคนนั้น ที่โทโมะบอกว่าเขาอ้างตัวกับโทโมะว่าเป็นพ่อของฉัน
ไม่รู้ว่าเป็นโชคดีของฉันรึเปล่าที่เมื่อวานคุณคิราวะบอกว่าเขาต้องไปทำงานให้คุณโอยามะ ซึ่งคุณโยชิจะรับหน้าที่มารับมาส่งคุณฮานะกับฉันแทน การโกหกคุณโยชิว่าไม่สบายเพราะไม่อยากมาโรงเรียนจึงไม่ใช่เรื่องยากอะไร เพราะหากเป็นคุณคิราวะแล้วล่ะก็ ฉันเดาว่าฉันคงไม่มีโอกาสได้มายืนลอยหน้าลอยตาอยู่ตรงนี้แน่ๆ
ฉันออกจากบ้านมาตั้งแต่เกือบๆ แปดโมง กะเวลาโดยตั้งใจรอให้คุณโยชิมาส่งฮานะถึงโรงเรียนก่อนแล้วฉันค่อยตามออกมาทีหลัง เพราะไม่อยากจะบังเอิญมาเจอกับคุณโยชิแถวนี้
อีกอย่างเมื่อวานตอนที่โทโมะบอกว่าผู้ชายคนนั้นจะมารอฉันที่หลังโรงเรียนก็ไม่ได้ระบุเวลาที่ชัดเจนเอาไว้ด้วย บอกแค่ว่าสายๆ เพราะฉะนั้นฉันว่ามาถึงตอนนี้ก็คงไม่ผิดเวลาสักเท่าไหร่
ฟู่~~~
ฉันดูดนมที่เพิ่งแวะซื้อมาจากร้านค้าใกล้ๆ จนหมดกล่อง ก่อนจะหย่อนมันลงถังขยะแล้วยกข้อมือขึ้นมาดูเวลา ตอนนี้เกือบจะเก้าโมงครึ่งแล้ว ฉันนั่งรออยู่ตรงนี้มาเกือบจะชั่วโมงแล้วนะ
หรือว่าฉันจะโดนหลอก แต่ใครจะหลอกฉันล่ะ โทโมะน่ะเหรอ เขาจะหลอกฉันทำไม
หรือจะเป็นผู้ชายคนนั้น ก็ไม่น่าจะมีเหตุผลอะไรให้คนที่ฉันไม่รู้จักมาหลอกฉันนี่นา ฉันไม่เคยมีศัตรูที่ไหนสักหน่อย จะว่าเป็นคนที่คิดจะเล่นงานฉันเพราะฉันทำงานให้คุณโอยามะก็ไม่น่าใช่ เพราะน้อยคนมากที่จะรู้ว่าแท้จริงแล้วฉันเป็นใครและมีหน้าที่อะไร งานของฉันส่วนมากจะเป็นแค่งานเอกสารและอยู่แค่ในแบล็กทาวน์เท่านั้น ดังนั้นไม่น่าจะมีคนรู้จักฉันหรือรู้ว่าฉันเรียนอยู่ที่นี่ด้วยซ้ำ
เอ๊ะ! หรือว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับผู้ชายคนนั้นนะ
ระหว่างที่ฉันกำลังถกเถียงกับตัวเองอยู่ในใจ สายตาของฉันก็พลันเหลือบไปเห็นผู้ชายคนหนึ่งกำลังเดินตรงไปที่ประตูด้านหลังโรงเรียน ผู้ชายคนนั้นแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าเก่าๆ สวมหมวกและแว่นตาดำคล้ายกับต้องการจะปกปิดอำพรางใบหน้า แต่ต่อให้ฉันจะไม่เห็นหน้าตาของเขา ฉันก็จำได้ดีว่าเขาคือคนที่ฉันเคยเรียกว่าพ่อจริงๆ
สองขาของฉันสั่นขึ้นมาโดยอัตโนมัติเมื่อได้พบกับใครคนนั้นอีกครั้งหลังจากที่เราไม่ได้เจอกันมาเกือบจะสี่ปีแล้ว ตอนนี้ผู้ชายคนนั้นเดินไปถึงประตูทางด้านหลังโรงเรียนและทำท่าเหมือนจะชะเง้อคอรอใครบางคนอยู่ ซึ่งก็คือฉันเอง
เขามาจริงๆ อย่างที่โทโมะบอกฉันเอาไว้เมื่อวาน และท่าทางของเขาก็เหมือนจะกำลังรอฉันอยู่เพราะตั้งแต่ที่เขามาถึง เขาก็ยังไม่หยุดที่จะชะเง้อคอมองหาฉันเลย
ตอนนี้ยืนอยู่ในตรอกเล็กๆ ที่ฝั่งตรงกันข้ามกับประตูด้านหลังโรงเรียน เยื้องจากจุดที่ผู้ชายคนนั้นยืนอยู่ไม่ไกล ไม่ได้ไปยืนรอเขาที่จุดนัดพบแบบที่โทโมะบอกหรอก เพราะถึงฉันจะยอมมาตามนัด แต่ก็ไม่ได้แปลว่าฉันจะอยากเจอเขานี่นา เขาทิ้งฉันไปแล้ว เขาเป็นคนพาฉันมาขาย และถ้าคนที่ซื้อฉันไปไม่ใช่คุณโอยามะ ป่านนี้ก็ไม่รู้ว่าชีวิตของฉันจะเป็นยังไง หรือบางทีฉันอาจตายไปแล้วก็ได้
อีกอย่างคือมันเป็นข้อตกลงที่ระบุเอาไว้ชัดเจนในสัญญาว่าเราจะไม่พบกันอีก เขาไม่ควรกลับมา และฉันก็ไม่กล้าพอจะทรยศคุณโอยามะ คนที่เขาดีกับฉันมากกว่าผู้ชายที่ทำให้ฉันเกิดมาด้วยซ้ำ
ฟุ่บ!
แต่แล้วสองขาของฉันก็เกือบจะก้าวออกไปพ้นปากตรอกเมื่ออยู่ๆ ผู้ชายคนนั้นก็ล้มลงไปกับพื้น แต่โชคดีที่มีเด็กนักเรียนผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังเดินผ่านมาเห็นเข้าก็เลยรีบเข้าไปช่วยรับเขาเอาไว้
“โทโมะ” ฉันถึงกับประหลาดใจเมื่อเห็นว่าเด็กนักเรียนที่มีน้ำใจคนนั้นคือโทโมะ และกำลังนึกสงสัยอยู่ว่าโทโมะมาทำอะไรแถวๆ หลังโรงเรียน ทั้งที่ปกติแล้วโทโมะไม่เคยมาโรงเรียนสาย และตอนนี้ประตูด้านหลังโรงเรียนก็ปิดแล้ว จะคิดว่าเขากำลังจะเดินอ้อมไปด้านหน้าก็คงไม่ใช่อีก เพราะฉันจำได้ว่าโทโมะพักอยู่ที่หอพักที่เดินเลยหน้าโรงเรียนไปไม่ไกลเลยด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นเขาคงไม่เสียเวลาเดินอ้อมมาทางนี้แน่ๆ
ฉันยืนมองโทโมะประคองผู้ชายคนนั้นไปนั่งพักที่พื้นแถวๆ ใต้ร่มไม้ใหญ่ เพราะทั่วทั้งบริเวณนั้นไม่มีเก้าอี้เลยสักตัว และหลังจากที่โทโมะประคองผู้ชายคนนั้นนั่งลงได้แล้ว เขาก็วางกระเป๋าเป้ของเขาลงกับพื้น เปิดกระเป๋าออกแล้วหยิบสมุดออกมาหนึ่งเล่ม พร้อมกับขวดน้ำดื่ม
โทโมะหยิบยื่นขวดน้ำดื่มที่เขาเพิ่งเปิดฝาขวดออกให้กับผู้ชายคนนั้น พร้อมกันกับที่ใช้สมุดของเขาพัดให้ผู้ชายคนนั้นต่อไปเรื่อยๆ ท่าทางและความมีน้ำใจของเขาทำให้ฉันรู้สึกตื้นตันอยู่ในอก หากแต่ก็ยังไม่แม้แต่จะก้าวออกไป
ไม่นานเมื่อผู้ชายคนนั้นอาการดีขึ้น โทโมะก็หยุดพัด เขาเก็บสมุดลงกระเป๋าเป้ตามเดิมแล้วยิ้มให้ผู้ชายคนนั้นอีกครั้ง พวกเขาสองคนพูดคุยกันนิดหน่อย ก่อนที่ฉันจะเห็นว่าโทโมะหยิบโทรศัพท์มือถือของเขาออกมา เดาว่าเขาจะน่าหยิบมันออกมาเพื่อโทรหาฉัน
