บทที่ 3 บทนำ [3]

“ฆ่าฉันเถอะโอยามะ” ฉันตัดสินใจแล้วพูดออกไปอย่างเด็ดขาด เพราะถ้าให้ฉันเลือกระหว่างการต้องแต่งงานกับผู้ชายอย่างไดสึเกะกับความตาย ฉันขอเลือกอย่างหลังโดยไม่มีเงื่อนไข

“อย่าเรียกร้องอะไรในสิ่งที่ฉันไม่มีให้”

“นายจะบ้าไปแล้วรึไงโอยามะ คนอย่างฉันยอมตายดีกว่าแต่งงานกับไอ้สารเลวนั่น”

“แต่ถ้าฉันไม่อนุญาต ก็แปลว่าเธอตายไม่ได้!”

“ไอ้...อื้อออ”

น้ำเสียงของโอยามะยังคงเยียบเย็นเหมือนเดิม ต่างจากเสียงของฉันที่กลืนหายไปกลับเข้าไปในลำคอเพราะถูกฝ่ามือหนาของคนที่ยืนอยู่ข้างเตียงของฉันตลอดเวลาปิดเอาไว้ตามเดิม และในขณะที่ฉันกำลังดิ้นพล่าน ฉันก็เห็นว่าไดสึเกะกลับยืนนิ่ง ไม่แม้แต่จะพยายามพูดอะไรสักคำ

“ตกลงแกจะเอายังไงไดสึเกะ”

เมื่อฉันหมดสิทธิ์ที่จะปฏิเสธ โอยามะก็หันไปเอาคำตอบจากไดสึเกะอีกครั้ง หากแต่สายตาเย็นชาคู่นั้นของไดสึเกะกลับจ้องมองมาที่ฉันที่ตอนนี้ต่อให้ฉันจะอยากตะโกนปฏิเสธออกไปมากแค่ไหนก็ทำไม่ได้เลย

ฉันรู้ว่าไดสึเกะเองก็ไม่ได้อยากจะแต่งงานกับฉัน แต่ในขณะเดียวกันฉันก็รู้เขาไม่มีทางจะปฏิเสธออกมาแน่ๆ

คนอย่างไดสึเกะไม่มีทางยอมให้เรื่องความเลวของตัวเองรู้ไปถึงหูของโอซึนซึเกะหรอก เพราะนั่นอาจหมายถึงอนาคตของเขาที่จะมืดดับลงอย่างไม่ต้องสงสัย ยิ่งถ้าโอยามะพูดเหมือนสิ่งนั้นเป็นทางเลือกที่ดูก็รู้ว่าไดสึเกะคงไม่อยากเลือก ก็ยิ่งไม่ต้องบอกว่าผลลัพธ์ของมันจะน่ากลัวกว่าการยอมทำตามที่โอยามะพูดมากแค่ไหน

ทำไมฉันจะดูไม่ออกว่านี่มันเกมของโอยามะ!

“แกนี่มัน...”

“ตกลงแกจะเอายังไง...ได-สึ-เกะ”

“แล้วฉันมีทางเลือกอื่นรึไง”

“ไม่!!!!” ฉันสะบัดหน้าตัวเองจนหลุดออกจากฝ่ามือหนาเพื่อเปล่งเสียงออกไป ตอนนี้ต่อให้ฉันจะรู้สึกเจ็บหรือปวดที่แผลมากแค่ไหนฉันก็ต้องต่อต้าน ไม่อย่างนั้นมันจะต่างอะไรกับการถูกโอยามะผลักให้ตกลงไปในนรกทั้งที่ยังหายใจ

“ก็นับว่ายังฉลาด”

หากแต่สุดท้ายเสียงของฉันก็ไม่ได้มีความหมายอะไร เมื่อมุมปากของโอยามะยกยิ้มเป็นสัญญาณที่บอกว่าคำตอบของไดสึเกะทำให้เขาได้ข้อสรุปแล้ว

“เตรียมตัวให้พร้อมล่ะนามิ แบล็กสกอร์เปี้ยนกับเสือขาว...จะรวมกันเป็นหนึ่ง”

“อื้อออ อ่อยอั๊น!”

“ปล่อยได้ ที่เหลือให้ไดสึเกะจัดการเอาเอง และถ้าหลังจากนี้มีอะไรผิดพลาดเกิดขึ้น คงไม่ต้องถามว่าใครจะต้องรับผิดชอบ” โอยามะย้ำเสียงเข้ม พูดจบเขาก็เดินกลับออกไปโดยไม่สนใจสิ่งที่เขาทิ้งเอาไว้ด้านหลังอีกเลย

คนของโอยามะรีบตามเจ้านายออกไปติดๆ เสียงประตูห้องปิดลงดังก้องสะท้อนไปมาอยู่ในหัวของฉันซ้ำๆ ราวกับว่าฉันเริ่มจะประสาทหลอน ตอนนี้ในห้องพักเหลือเพียงฉันที่ยังนอนบอกให้ตัวเองตั้งสติ กับไดสึเกะที่ยังคงยืนจ้องหน้าฉันราวกับว่ากำลังจะโยนความผิดของเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดมาที่ฉันคนเดียว

“อย่าให้ฉันต้องวุ่นวายมากไปกว่านี้นามิ”

“อย่าฝันว่าฉันจะยอมแต่งงานกับคนอย่างนาย...อื้อออ” ไดสึเกะก้าวเข้ามาชิดด้านข้างเตียงก่อนจะยื่นมือมาบีบปลายคางของฉันเอาไว้แน่น สายตาที่เรามองกันมันคือการเห็นอีกฝ่ายเป็นศัตรูอย่างชัดเจน

“แล้วคิดว่าฉันดีใจรึไงที่ได้แต่งงานกับผู้หญิงอย่างเธอ” ไดสึเกะกระซิบบอกก่อนจะสะบัดใบหน้าของฉันออกจากมือแรงๆ จนฉันได้ยินเสียงฟันในปากกระทบกันดังกึก

“ให้แต่งงานกับนาย ฉันยอมตายซะดีกว่า”

“ก็แล้วตายได้มั้ยล่ะ หรือเธอไม่ได้ยินที่ไอ้โอยามะมันพูดว่ามันไม่อนุญาตให้เธอตาย” ไดสึเกะย้ำด้วยใบหน้าเรียบเฉย แต่แววตากลับไม่ได้สงบนิ่งเลยสักนิด

“แล้วคิดว่าฉันจะขี้ขลาดเหมือนนายรึไงไดสึเกะ เพราะแบบนี้ไงนายถึงได้แพ้โอยามะ โอ๊ย!” ฉันโพล่งออกไปเสียงดังด้วยความเดือด ก่อนจะต้องหลุดปากร้องพร้อมกับนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวดเมื่อไดสึเกะกดไหล่ทั้งสองข้างของฉันตรึงเอาไว้กับเตียง มือขวาของเขาจับที่ต้นแขนของฉันแล้วบีบเอาไว้แน่นเมื่อเขารู้ดีว่ามันเป็นบริเวณที่ฉันถูกยิง

“เดี๋ยวเธอก็รู้ว่าใครกันแน่ที่จะแพ้”

หยดน้ำตาร่วงเผาะลงมาเมื่อมันเกินจะสะกดกลั้น อาการปวดที่แผลเริ่มค่อยๆ เบาลงเมื่อไดสึเกะค่อยๆ คลายมือออก แต่กลับยังไม่ยอมถอยออกไปง่ายๆ

“เสียใจด้วยนะที่เธอกำลังจะได้แต่งงานกับผู้ชายที่ทำให้พี่ชายผู้แสนจะขี้ขลาดของเธอต้องฆ่าตัวตาย และยังเป็นคนยิงเธอเองกับมือ”

“ออกไป๊!”

บทก่อนหน้า
บทถัดไป