บทที่ 2 บทที่1.รอยตราที่ไม่อาจลืม... 2

สถานที่ที่เคยสงบเป็นนิจ วันนี้กลับไม่เป็นเหมือนเดิมเสียแล้ว ชายหนุ่มเซ็งสุดขีด!! เพราะเพิ่งโดนบิดาจอมเข้มงวดตะโกนด่า เพียงแค่เรื่องความเสเพลของเขา กับข่าวฉาวรายวันของทายาทตระกูลดังของ จางไท่กรุ๊ป

“อยากมีเอี่ยวด้วยเหรอลูกพี่ แต่คงยาก ตาลุงนี่หวงก้างฉิบหาย!!”

หนุ่มนักเที่ยวที่จ้องเมรีตาเป็นมันเอ่ยเสียงเซ็งสุดขีด

“มาอีกคนแล้ว ไอ้พวกพูดไม่รู้เรื่อง” หนุ่มใหญ่บ่นพึมพำ เขายกมือเท้าเอว โครงศีรษะไปมา เมื่อมีผู้ชายอีกคนเสนอหน้าเข้ามา เหมือนต้องการมีส่วนร่วม

หนุ่มลูกครึ่งไทย-จีนหรี่เปลือกตาลง เขามองเป้าหมายที่ทำให้เกิดกรณีพิพาท ด้วยสายตาประเมิน

วงหน้าที่เห็นแค่เสี้ยวเดียว เมื่อส่วนที่เหลือเอนซบผิวโต๊ะ จากสายตาเสเพลตัวพ่อ!! เขาคิดว่า ส่วนที่ไม่ได้เห็นก็คงงดงามไม่ใช่น้อย ผมสีดำนิลดั่งขนของนกกาน้ำเป็นมันระยับล้อเล่นกับแสงไฟ ปลายจมูกเล็กๆ นั่นเชิดขึ้นนิดๆ เหมือนเจ้าตัวเป็นคนแสนงอน ปากอิ่มรูปกระจับเคลือบลิปสติกสีอ่อน แต่ก็ชวนให้ชิดเชยไม่น้อย ไม่แปลกหรอกที่เสือหิวจะจ้องตะครุบ!! อีธานไล่สายตาลงไปเรื่อยๆ เอวคอดกิ่วของหล่อนทำให้น้ำลายในปากของเขาเหนียวหนึบ เรียวขาเรียวที่พ้นชายกระโปรงนั่นอีก เรียวสวยจนลมหายใจของเขาสะดุด

“ไปไหนก็ไปเลย คนนี้กูเจอก่อน” หนุ่มใหญ่กันท่าสุดฤทธิ์ เขาวางก้าม อวดเบ่งให้ตนเองน่าเกรงขาม จนใครๆ ก็ขยาดไม่กล้าเข้าใกล้

“ถ้าหล่อนยินยอมดีๆ ฉันก็จะไม่ขวางหรอกนะ แต่ถ้าไม่!!” ไม่รู้เพราะอะไรเหมือนกันคนที่ไม่ชอบยุ่งกับคนอื่นอย่างอีธาน นึกอยาก ‘เสือก’ เป็นครั้งแรก

เขากำลังอารมณ์ไม่ดี เนื่องจากเพิ่งโดนบิดาเฉ่งมาหมาดๆ เรื่องความไม่เอาไหนของตัวเอง ทั้งๆ ที่เป็นทายาทคนเดียวแท้ๆ แต่เรื่องงานในบริษัท อีธานแทบจะไม่สนใจ เขาสนุกไปกับการสังสรรค์ ท่องราตรี ควงสาวไม่ซ้ำหน้า เพื่อนฝูงรุมล้อม แต่บิดากลับไม่ปลื้ม คำสั่งด่วนก่อนที่เขาจะมาหมกตัวอยู่ที่นี่ คือการระงับบัตรเครดิตทุกใบของเขา และหากยังไม่เดินทางกลับไปพบบิดา ท่านจะยึดสิ่งอำนวยความสะดวกของเขาทั้งหมด

อีธานเลยมาทิ้งทวน ด้วยการดื่มอย่างหนัก ก่อนที่อิสรภาพของเขา จะหมดสิ้นลง...

“ไอ้หนุ่มอย่า ‘เสือก’ ได้มั้ยวะ หมูเขาจะหาม อย่าเอาคานเข้ามาสอด”

สุภาษิตสอนใจของคนโบราณ หนุ่มลูกครึ่งขมวดคิ้ว เขาได้ยินแต่ไม่เข้าใจ ฟังรู้เรื่องแต่แปลความหมายไม่ออก เมื่อตั้งแต่เด็ก จนโต อีธานใช้ชีวิตที่อเมริกาเป็นส่วนใหญ่ เพียงแต่มัทนาที่เป็นคนไทย นางไม่ทิ้งขว้างภาษาบ้านเกิด อีธานเลยเป็นหนุ่มลูกครึ่งที่พูดได้ถึงสามภาษา ไทย จีน และอังกฤษ

ชายหนุ่มปรายตามองผู้หญิงหนึ่งเดียวในที่นั้น เขาไหวไหล่ เมื่อหล่อนไม่ได้มีทีท่าร้อนรน หลังหล่อนผงกศีรษะขึ้นมาจากการนอน หล่อนก็ยังคงดื่มเครื่องดื่มในมือแบบสบายอารมณ์ ไม่ได้สนใจความวุ่นวายรอบตัวสักนิด เขาเลยยอมถอย

“ตามสบาย เธอคงยินดี” อีธานไม่ใช่คนดีนัก แต่เขาก็คงทนไม่ไหวหากคนอ่อนแอกว่าถูกรังแก

แต่เหตุการณ์ตรงหน้ามันราบเรียบ ไร้การขู่บังคับ เพียงแต่แม่โฉมงามนั่นสวยซึ้งเกินกว่าจะถูกรุมทึ้งจากเสือหิวกักขฬะ

ชายหนุ่มถอยกลับมานั่งที่เดิม แต่สายตาของเขาไม่ได้ละจากวงหน้างดงามนั่นสักนิด

“ยัยบ้าจะโดนลากไปปู้ยี่ปู้ยำยังไม่รู้ตัว” เสียงบ่นพึมพำ แก้วบรั่นดีถูกยกขึ้นกรอกปาก เพื่อลดทอนความหงุดหงิดในหัวใจ

เมรีเอียงคอมองสองหนุ่มแปลกหน้าที่ยังคงตื๊อไม่เลิก เธอขมวดคิ้ว ถามเสียงแหลมด้วยความไม่พอใจ

“คุณต้องการอะไรหะ ฉันบอกแล้วไงว่าจะดื่มเงียบๆ”

เสียงของเมรีอ้อแอ้จนแทบฟังไม่รู้เรื่อง เนื่องจากแอลกอฮอลล์จำนวนมากที่เธอดื่มเข้าไปนั้น ทำให้การควบคุมตัวลดน้อยลง

“พี่แค่อยากนั่งดื่มเป็นเพื่อนน้อง มาคนเดียวไม่เหงาเหรอไงจ๊ะ” ลีลาพ่อปลาไหลเพื่อให้สาวสวยหลงเคลิ้ม เพียงแต่เมรีไม่ชื่นชอบ เธอกำลังกลัดกลุ้มมากกว่าอยากเสวนากับคนแปลกหน้า

“ไม่เลยยยย ไปไหนก็ไป ฉันอยู่คนเดียวได้” เสียงของเมรีเริ่มดังขึ้น เปลือกตาหรี่ปรือลงทุกขณะเพราะความเมามาย

“อย่าเสียงดังสิจ๊ะ อยากโวยเพราะมีปัญหาทางบ้านเหรอไง? ไปกับพี่สิ... เดียวพี่หาที่เงียบๆ ให้ระบายให้เต็มที่” หนุ่มใหญ่จอมเจ้าเล่ห์เริ่มตะล่อม เขาลดสายตาลง กวาดไล่ตั้งแต่เนินอก จนถึงสะโพกผายงามงอน ลูกกระเดือกที่ลำคอเต้นพล่าน เพราะความกระสันซ่านตีตื้นขึ้นมาจุกอก

คำพูดของฝ่ายตรงข้ามกระทบความรู้สึกเจ็บปวด มือเรียวงามยกขึ้นฟาดปัง!! บนผิวโต๊ะ “หึ!! เมรีมันก็แค่ส่วนเกิน เป็นตัวปัญหาของพ่อ...เชิญเลย ไม่เห็นจะสน!!” ความรู้สึกลึกๆ ผุดพรายขึ้นมา เธอบ่นว่าบิดาด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ

และมันเข้าทางคนที่จ้อง...

“อ๋อ!! ทะเลาะกับพ่อมา พ่อไม่รักหรือไงล่ะ?” ช่วงวัยของเขาก็มีบุตรสาววัยประมาณนี้เลย แต่ก็ไม่นึกละอายที่คิดจะทำมิดีมิร้ายกับสาวแปลกหน้า

“เมรีไม่สนหร๊อก อยากแต่งงานเหรอ... เชิญ!!” ความประสงค์ของเก่งกาจ เขาต้องการมีเพื่อนปรับทุกข์ในบั้นปลายชีวิต แต่เมรีไม่ต้องการ เธอรู้สึกเหมือนถูกพราก ใครอีกคนแย่งความรักของบิดาไป

แก้วใบสวยในมือของเมรีว่างเปล่า หนุ่มใหญ่จอมเจ้าเล่ห์จึงรินบรั่นดีที่หนีบมาด้วยลงไปแทน คนสติสัมปชัญญะไม่เต็มร้อย แถมยังไม่รู้ว่ามีคนจ้องจะทำลาย เผลอยกกระดกใส่ปาก ครั้งนี้มันไม่ใช่น้ำพั๊นที่ผสมแอลกอฮอล์แบบเจือจาง แต่มันคือบรั่นดีรสแรง มีแอลกอฮอลล์มากกว่า40ดีกรี ผลที่ได้คือ...

สติอันน้อยนิดของเมรีหลุดผึ่ง เธอเมาหนักกว่าเก่า จนแม้แต่การทรงตัวยังไม่ไหว

เสือหิวที่จ้องตะครุบยิ้มร่า เขาโบกมือให้บริกร พร้อมกับชำระค่าใช้จ่ายของเมรี ก่อนจะหิ้วปีกเธอออกไปจากสถานที่แห่งนั้น

ถึงจะเมามายจนสติเหลือเพียงน้อยนิด เมรีก็ยังรับรู้ถึงความน่ากลัว ของชายแปลกหน้า เธอพยายามขัดขืนแล้ว แต่มันไร้ประโยชน์ เรี่ยวแรงที่เธอมีนั้น แม้แต่ยกแขนยังยาก ดวงตาหรี่ปรือ กวาดมองหาทางรอดให้ตัวเอง พยายามส่งเสียงบอกคนอื่นๆ แต่มันไม่ต่างอะไรกับเสียงกระซิบ...

บทก่อนหน้า
บทถัดไป