บทที่ 8 บทที่ 4 คนดูแล (2)

หลังจากที่อาบน้ำเร็วกว่าความเร็วแสงแล้ว เธอยังต้องมานั่งรถแบบว่าต่างกันสุดขั้ว ช้าแบบว่าหอยทากเรียกพ่อก็ว่าได้

เออ...กว่าจะถึงฟิตเนสเธอสบถในใจ

“นี่ช้าขนาดนี้เมื่อไหร่จะถึงยะ” เธอที่นั่งนานจนตะคริวจะกินก้นพูดขึ้นเพราะอดทนไม่ไหวอีกต่อไปกับการนั่งรถอะไรที่ช้าปานนี้

“การขับรถบนถนนเราต้องมีสติ มีสมาธิ ทำตามกฎจราจร แล้ว..”

“สาธุ ไปบวชชีมั้ย เดี๋ยวฉันเป็นเจ้าภาพเรื่องอาหารการกินให้” เธอพูดติดเล่นแต่เหมือนคนฟังจะไม่เล่นด้วยแถมยังมองเธอด้วยสายตาไร้ความปราณีมาก

“แฮ่ๆ ไม่เล่นหรอ แซวนิดเดียวเอง”

แม่คู๊ณ!!! แซวนิดแซวหน่อยก็ไม่ได้ เธอบุ้ยปากอย่างเซ็งๆ

กึกกก....

เป็นเสียงรถที่จอดแล้วบ่งบอกถึงอาการจะพังของรถมาก

“ส่งแค่นี้นะ”

“อืม บาย” เธอค่อยๆเปิดประตูแล้วก้าวลงจากรถและไม่ลืมที่จะโบกมือลาเพื่อนสาว

เฮ้อวันแรกเธอก็มาช้าเลยเหรอนี่ มาช้าไม่ใช่ความผิดที่เธอตื่นสายนะแต่เพราะเพื่อนเธอขับรถช้าต่างหาก

เอาดีเข้าตัวเอาชั่วให้เพื่อนสาว

วันนี้ฉันมาดูงานที่นี่สินะ.....เธอมองไปที่ตึกตรงหน้าที่เรียกว่าฟิตเนส มาดูงานแต่เธอไม่มีข้อมูลอะไรเลย รู้แค่ว่าคำรณให้ไปหาคนชื่อ...

เอ่อ.......จำไม่ได้....เฮ้ออออแล้วฉันควรทำไงต่อไปดี...ควรไปอยู่จุดไหนบนโลกไปนี้ เอาเป็นว่าลองเดินดูรอบๆไปก่อนละกัน(ไม่โทรถามพ่อหรอก ก็เพราะว่าขี้เกียจดูงานน่ะสิจะอะไรอีกล่ะ)

เธอไม่เข้าใจเลยว่าทำไมต้องให้เธอมาดูงานที่นี่ด้วย ให้ไปเรียนดนตรียังว่าไปอย่าง

ไม่เห็นชอบอะไรเกี่ยวกับพวกออกกำลังกายเลย พ่อนะพ่อ

ปากก็บ่นเท้าก็เดินสำรวจรอบๆเพราะที่นี่ใหญ่มาก! ใหญ่ขนาดนี้แต่ทำไมไม่เห็นจะมีคนเลยแฮะ ที่นี่มีอาคารหลายอาคารเลย จะว่าไปแล้วที่นี่ไม่มีคนจริงๆนะเนี่ย ว้าเหว่พิลึกกึกกือวังเวงวิเวกโหวงเหวงมาก บรื๋ออออ

“นี่”

อ๊ายยยยย ผีสะกิด

ความคิดแรกประดังเข้ามาในหัว เธอรีบหันไปดูอย่างรวดเร็วปรากฏว่าเป็นคนแถมยังหล่อลากอีกด้วย ดีนะที่เธอหันไปดูก่อน เกือบกรี๊ดแตกแล้วไหมล่ะ

หลังจากที่เธอเดินสำรวจอยู่นาน ป่าวหรอก...จริงๆหลงอยู่นาน ก็มีเทพบุตรที่ฟ้าส่งให้เรามาพบกัน(เพ้อ)เขาที่ทำให้เธอหลุดพ้นจากการสำรวจนี้(หลงนี้)

“มาเดินเพ่นพ่านอะไรแถวนี้ คนดูแลใหม่เหรอไง เธอน่ะ” ผู้ชายคนที่สะกิดเธอเมื่อครู่ถามขึ้น

ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเธอ.....รูปร่างดี...ใบหน้าเนียนใสที่อาบชุ่มไปด้วยเหงื่อ เส้นผมที่ปกหน้าก็เปียกด้วยเช่นกัน เหงื่อที่ท่วมตัวเขาทำให้เห็นซิกแพ็คลางๆผ่านเสื้อกล้ามสีขาว เขาดูเซ็กซี่มากเลยล่ะ

หุ่นจะเป๊ะอะไรขนาดนี้พ่อคุณ!

“นี่…..เป็นอะไรหรือเปล่า” เขาใช้มือข้างหนึ่งจับไหล่เธอเขย่าเบาๆเพื่อเรียกสติพร้อมกับจ้องหน้าเธออย่างสงสัย

“หะ….หา เมื่อกี้ถามว่าไงนะ” เธอที่หลุดจากภวังค์เพิ่งระลึกได้ว่าควรตอบคำถามเขา

มัวแต่หลงในความหล่ออยู่ได้ยัยคีย์เอ้ย เธอเตือนตัวเอง

“ไม่ได้ฟังที่พูดรึไง ตะลึงในความหล่อของฉันอยู่ละสิ” เขายิ้มอย่างมีเลศนัยมาให้พร้อมกับขยิบตาข้างหนึ่ง

อย่ายิ้มแอบนี้สิเขินเป็นนะเว้ย ตอนนี้รู้สึกร้อนยังไงไม่รู้เหมือนกำลังวิ่งแข่งทีมชาติอยู่เลย ไม่ได้สิเราเป็นผู้หญิงต้องสงวนอาการไง เก๊กขรึมๆ

“หลงตัวเองไปเปล่าคะ” เธอทำหน้านิ่งอย่างเก็บอาการเขินที่จะประทุทุกเมื่อ

“ช่างเถอะ เป็นคนดูแลคนใหม่ใช่ไหม”

“คนดูแลใหม่?” เธอชี้หน้าตัวเองแบบงงๆว่าเธอไปเป็นดูแลใคร อะไร ตอนไหน?

“ใช่ ก็คนดูแลความสะดวกสบายของลูกค้าที่นี่ไง” เขาพูดอย่างไม่ยี่หระ

เมื่อกี้นายนั่นว่าไงนะ หน้าตาและอายุของฉันน่าจะเป็นลูกค้ามากกว่าคนดูแลไหมฮะ ที่คิดว่านายเป็นเทพบุตร ฉันขอถอนความคิดค่ะ!

“คือ ฉันไม่..ชะ..เฮ้ย”

“นี่เดี๋ยวช่วยถือกระเป๋าไปที่ห้องด้านโน้นด้วย”

ชายหนุ่มโยนกระเป๋าให้เธอโดยที่เธอไม่ทันตั้งตัว อย่าได้ถามว่าเป็นบ้าง….ก็เซสิ เธอออกจะบอบบางร่างน้อย(หรอ) เขานั้นเดินจากไปโดยไม่ใส่ใจเธอสักนิด คือแบบว่า…คือไม่มีมารยาทมาก นี่ยังพูดไม่จบเลยแถมยังพูดแทรกอีก ที่สำคัญยังหาว่าเธอเป็นคนดูแลอะไรนั่นอีก และยังไม่พอดันใช้ให้ถือกระเป๋าให้แถมให้ดีๆไม่เป็นซะด้วย โลกนี้ช่างโหดร้ายกับเธอเกินไปแล้ว

คิดว่าจะทำงั้นเรอะ หึ ไม่มีทาง!!!

.

.

.

“นี่กระเป๋า”

สุดท้ายก็เอามาให้ หนักก็หนัก(แล้วเมื่อกี้จะพูดทำไมเนี่ยคีย์) ในใจอยากจะฟาดหัวคอหักไปเลย หมั่นไส้ๆ คิดว่าหล่อนักหรอ(แต่จริงๆแล้วหล่อมากเลยล่ะ)

“follow me” หนุ่มหล่อในชุดกีฬาที่โยนกระเป๋าใส่เธออย่างไม่ใยดียืนรอหน้าประตูอยู่แล้วเดินนำเข้าไปด้านใน

เห็นหน้าก็เรียกใช้เลยนะยะพ่อคนงาม! สุดท้ายก็บ่นในใจอีกตามเคย

ขณะที่กำลังจะเดินตามไปสมองฉุกคิดได้ว่าเธอควรเดินตามเขาไปในห้องดีไหม ถ้าเขาคิดจะทำอะไรเธอล่ะ ยิ่งสวยๆอยู่ แต่แล้วก็คิดผิดถนัด เพราะในห้องมีคนเยอะไปหมดที่กำลังออกกำลังกันอยู่ด้วยเครื่องเล่นต่างๆมากมาย เธอเดินหลีกจากผู้คนเหล่านั้นที่มีเหงื่อกันท่วมตัว ไปที่ห้องที่อยู่ทางด้านหลัง

เมื่อเดินเข้าไปแล้วปรากฏว่าเป็นห้องน้ำรวมขนาดใหญ่...

จะทำอะไรฉันในห้องน้ำหรอเนี่ย ต้องใช่แน่ๆเขาคิดมิดีมิร้ายกับฉันแน่ๆ

“นี่คิดไรลามกอยู่รึป่าว” ชายหนุ่มหรี่ตามองเธออย่างไม่ไว้วางใจ

เฮ๊ย!.....รู้ทันด้วย เอ๊ะไม่ใช่ละ อย่ามามั่วน่า

“รู้ได้ไงอย่ามั่วสิ” เธอกลบเกลื่อน

“ดูหน้าก็รู้” เขาพูด

ไอ้บ้าหน้าฉันแสดงออกขนาดนั้นเลยรึ เธอยังคงตะลึงที่เขารู้ทันเธอก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติ

“ฉันคิดอะไรก็เรื่องของฉันน่ะ…หมดธุระของฉันแล้วใช่ไหม ฉันจะได้ไปสักที” เธอหันหลังแล้วกำลังจะก้าวขาออกไป แต่ทว่า...

“เดี๋ยวสิ…จะรีบไปไหน” เขาดึงข้อมือเธอไว้เมื่อเธอกำลังจะเดินหนี เธอเลยจำใจหันกลับไปหาบุคคลที่จับแขนเธออยู่พร้อมกับใบหน้าที่ไม่สบอารมณ์...

มันจะอะไรกันนัก! ไม่ใช่เบ๊โว้ย!

บทก่อนหน้า
บทถัดไป