บทที่ 2 ตอนที่2

“อื้อ…ก็ผิดด้วยกันทั้งคู่แหละ…”ฉันบอกเขาเพื่อตัดบทจะได้ไม่ต้องมาเกี่ยงกันว่าฉันผิดหรือเขาผิด

“เราไปก่อนนะ…มีเรียนอ่ะ…”ฉันว่าอย่างนึกขึ้นได้และรีบเดินหลีกร่างสูงของเขามาทันที โดยที่มุ่งหน้าก้มหน้าก้มตาเดินไปยังห้องเรียนรวมของฉันโดยที่ฉันรู้สึกแปลกๆกับร่างกายของฉันที่มันเบาหวิว

พรึบ

“ยัยเอริบ้าเอ้ย!”ฉันที่นึกขึ้นได้ถึงความตัวเบาว่าสิ่งที่ฉันหอบหิ้วมาจากบ้านแล้วนั่งรถเมล์มาลงที่หน้ามหาลัยที่มันหนักอึ้งแต่ตอนนี้ความหนักอึ้งทั้งหมดได้หายไปหมดแล้ว

พรึบ

“ของเธอ…”เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นพร้อมกับเงาของคนที่สูงกว่าฉันที่ยืนค้ำหัวฉันอยู่และหนังสือหลายเล่มที่ถูกวางลงตรงหน้าของฉันอย่างนุ่มนวลทำให้ฉันที่นั่งอยู่บนเก้าอี้พร้อมเตรียมเรียนในคลาสนี้เต็มที่ต้องเงยหน้าขึ้นไปมองคนที่เอาหนังสือของฉันมาคืนฉัน

“นาย…ขอบคุณนะ…ที่เอาสมุดมาคืนฉันน่ะ”ฉันเอ่่ยบอกเขาไปอย่างซาบซึ้งในน้ำใจของเขา

พรึบ

“ไม่เป็นไรครับ…เราเต็มใจ^_^”เขาว่าเสียงอ่อนโยนพลางยิ้มละมุนให้ฉัน

“ที่ตรงนี้ว่างไหม…?”เขาว่าพลางชี้นิ้วมาที่เก้าอี้นั่งข้างๆฉันซึ่งตอนนี้มันว่างและห้องทั้งห้องก็มีนักศึกษาอยู่เพียงแค่สิบคนรวมฉันกับผู้ชายหน้าหล่อคนนี้ด้วย

“วะว่าง…”ฉันเอ่ยตอบเขาไปเสียงกระตุกในใจร้อนรุ่ม เขาก็ยิ้มบางๆให้ฉัน

“งั้น…เราขอนั่งด้วยคนนะ..”

“อื้อ…นั่งสิ..”ฉันเอ่ยอนุญาตเขาไปด้วยหัวใจที่เต้นตุ้มๆต่อมๆอย่างแปลกๆกลิ่นน้ำหอมผู้ชายลอยเข้ามากระทบจมูกฉันทำให้ฉันรู้ทันทีว่าเป็นกลิ่นกายของผู้ชายคนที่นั่งอยู่ข้างๆฉันแน่นอน เพราะกลิ่นหอมๆแบบนี้มันใกล้จมูกของฉันมาก

“เธอชื่ออะไรเหรอ?”เขาหันมาเอ่ยถามฉัน ฉันก็มองหน้าเขา

“เอริ…”ฉันตอบเขาไปสั้นๆเขาก็อมยิ้มให้ฉัน

“เราชื่อ…ขุนศึกนะ…ยินดีที่ได้รู้จักครับ…เอริ^_^”ขุนศึกว่าพลางยื่นมือหนานุ่มสีขาวเนียนจนมองเห็นเส้นเลือดสีเขียวได้ชัดเจนมาตรงหน้าฉันเพื่อทำการทักทายแบบพวกฝรั่ง ฉันก็ยิ้มแหยๆให้เขาและไม่ยอมยื่นมือไปจับทักทายกับเขาทำให้เขาเก้อหน้าถอดสีไปและก็เป็นจังหวะเดียวกับที่อาจารย์เข้ามาสอนพอดี เราสองคนเลยไม่ได้พูดคุยอะไรกันต่อ ว่าแต่เขาลงเรียนวิชานี้ด้วยเหรอ…?ฉันเข้าเรียนมาตั้งหลายครั้งยังไม่เคยเจอเขาเลยนะ….?ผู้ชายหน้าหล่อ ที่หน้าตาและการแต่งกายรวมไปถึงของใช้ที่เป็นแบรนด์เนมทั้งชุด ผู้ชายที่หล่อและรวยมากๆคนนี้น่ะ?

23:30น.

ผับ W

ขุนศึก ขุนณรงค์……

พรึบ

“หึ!….”ผมยกยิ้มที่มุมปากขึ้นพลางจับจ้องสายตาไปที่ร่างบางที่อยู่ในชุดเสื้อเกาะอกมีแขนสีขาวโชว์ที่ปิดแค่ช่วงหน้าอกโชว์เอวเล็กคอดและร่างกายที่เป็นส่วนเว้าส่วนโค้งของเธอและเธอก็สวมกางเกงยีนส์ขาสั้นสีดำโชว์เรียวขาขาวยาวที่ตอนนี้เธอกำลังขยับร่างกายของเธอโยกย้ายไปตามเสียงเพลงอยู่กับเพื่อนๆผู้หญิงในกลุ่มของเธอ

“ไอ้ขุนนี้แม่งร้ายกาจ…”คำพูดของไอ้ทีทำให้ผมหันไปมองหน้ามันทันทีพลางลดแก้วเหล้าในมือลงเพื่อรอว่าเพื่อนผมมันจะเผาอะไรผม

“ทำไมวะ?”ไอ้ฟิวเอ่ยขึ้นถามไอ้ทีด้วยสีหน้าของคนที่อยากเผือกเต็มๆ

“ก็มันอ่ะชอบยัยเอริ…”ไอ้ทีเอ่ยขึ้นและหันมามองหน้าผมสลับกับหน้าไอ้ฟิว

“เอริ?..คนที่สวยๆขาวๆนมโตๆที่หน้าตาเหมือนนางเอกเอวีญี่ปุ่นป่ะ?”ไอ้ฟิวว่าอย่างนึกคิด

“เอ่อใช่คนนั้นแหละ…”ไอ้ทีว่าพลางชี้นิ้วไปที่ร่างเล็กๆของเอริที่อยู่ถัดจากโต๊ะของพวกผมไปสองโต๊ะ ตอนนี้พวกผมมากินเลี้ยงฉลองวันเกิดเพื่อนในกลุ่มที่อยู่คณะ เดียวและสายปาตี้อย่างผมไม่มีทางพลาดแน่นอน ผมเพิ่งรู้ว่ายัยตุ๊กตายางญี่ปุ่นอ้อหมายถึงเอริน่ะก็อยู่คณะเดียวกับผมด้วยเหมือนกัน แถมเพื่อนในกลุ่มของเธอยังเป็นเพื่อนในกลุ่มเดียวกับของผมอีกด้วยนะ อะไรช่างบังเอิญขนาดนี้

“ไหนเล่ามาดิ…”ไอ้ฟิวว่าพลางทำสีหน้าอยากรู้อยากเห็น

“ก็พ่อคาสโนว่าคุณขุนศึกของเราที่เดือนๆหนึ่งเข้ามหาลัยไม่ถึงห้าครั้ง…วันนี้กลับไปสะดุดรักยัยแม่ตุ๊กตายางเอริเข้าอย่างจัง”

“มันก็เลยทำเป็นเดินเข้าไปชนให้เธอล้มและทำเป็นสุภาพบุรุษช่วยเธอเก็บของและทำทีเป็นตีเนียนทำความรู้จักกับเธออย่างเนียนๆว่างั้น?”ไอ้ฟิวว่าอย่างตาเห็นทำให้ไอ้ทีมองหน้าไอ้ฟิวอย่างเหวอๆและตกใจที่ไอ้ฟิวรู้กลไกวิธีตีสนิทจีบหญิงแบบเนียนๆของผม

“มึงรู้ได้ไง?”ไอ้ทีเอ่ยถามไอ้ฟิวไปอย่างสงสัยหน้าตาของมันกำลังบ่งบอกว่ามันกำลังชื่นชมความสามารถของไอ้ฟิวที่รู้และคาดเดาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างแม่นยำจริงๆ

“หึ…มันเป็นมุขจีบหญิงของไอ้ขุนที่มันใช่เป็นประจำ!”ไอ้ฟิวว่าพลางยกยิ้มที่มุมปากขึ้น ทำให้ไอ้ทีทำปากขมุบขมิบด่าไอ้ฟิว ใช่ครับมันเป็นวิธีการจีบหญิงแบบเนียนๆของผม และที่สำคัญกับเธอคนนี้โดนใจผมเข้าอย่างจัง ดวงตาโตๆสดใสที่แอบเศร้านิดๆของเธอริมฝีปากสีชมพูที่ขยับปากพูดแต่ละทีน่าดูดดึงยิ่งนักและไหนจะหน้าอกหน้าใจที่ขาวนวลเต่งตรึงน่าขย้ำนั้นอีก โดนใจผมโคตรๆ

พรึบ

บทก่อนหน้า
บทถัดไป