บทที่ 4 ตอนที่ 1 ห้องพักด้านใน3

หลิงเวยที่กำลังหลับใหลอยู่เริ่มสะลึมสะลือปรือตาขึ้นมาด้วยกำลังรู้สึกร้อนแบบแปลกๆ

ก่อนหลับไปนางจำได้ว่าอากาศช่างหนาวเย็น แต่เหตุใดยามนี้ช่างร้อนยิ่งนัก ผ้าห่มที่ควรให้ความอบอุ่นเมื่อร่างกายเหน็บหนาวกลับเกะกะหนาหนักจนนางต้องผลักออกไป

อืม...ร้อน...

หลิงเวยเริ่มเอื้อมมือขึ้นปัดป่ายไปมาเบาๆ ตามใบหน้าตามเนื้อตัว นางลูบคลำเลื่อนไล้ไปตามลำตัวของตนเองอย่างเหม่อลอยด้วยอารมณ์บางอย่างที่ไม่คุ้ยเคย

นางไม่เคยรู้สึกร้อนแบบแปลกๆ เช่นนี้มาก่อน

มันคืออันใด?

ในขณะที่หญิงสาวกำลังจะสรรหาคำตอบให้กับคำถามบางเบาภายใต้จิตสำนักอันน้อยนิดของตน นางเริ่มรู้สึกร้อนขึ้นเรื่อยๆ  ร้อนจนต้องพยายามปลดเปลื้องอาภรณ์ที่ห่อหุ้มร่างกายของตนเองให้ออกไป เพื่อที่ว่ามันจะสามารถคลายความร้อนแบบแปลกๆ นี้ให้เจือจางลงได้

นางเคลื่อนฝ่ามือน้อยๆ ลงต่ำมาที่ผ้าผูกเอวแล้วปลดมันออกในขณะที่นัยน์ตายังคงครึ่งหลับครึ่งตื่นมองไม่เห็นสิ่งใด นางเปิดสาบเสื้อของตนออกเพียงนิดเพื่อคลายความร้อน

นางมั่นใจว่าเปิดเผยอสาบเสื้อของตนเองแค่เพียงเล็กน้อยก็เท่านั้นแต่ทว่าทำไมถึงได้คล้ายกับว่ามันถูกเปิดออกกว้างมากกว่าที่ควรจะเป็น ทั้งยังคล้ายกับถูกกระชากให้ออกไปกระนั้น

ไยสาบเสื้อของนางถึงเคลื่อนตัวออกกว้างจนเนินอกของนางล้นออกมาได้กัน

แต่ที่แปลกมากกว่านั้นก็คือสัมผัสบางอย่าง

สัมผัสบางอย่างที่ว่าคือความร้อนชื้นแบบแปลกๆ ความร้อนชื้นที่อยู่กับเนินอกของนาง ทั้งยังมีความร้อนกรุ่นมากมายเนิบนาบอยู่ตามลำตัวของนาง ร่างทั้งร่างของนางคล้ายกับถูกทาบทับด้วยความร้อนผ่าวบางอย่าง

“อืม...” หญิงสาวส่งเสียงผ่านลำคอระหงออกมาเบาๆ ความรู้สึกแปลกใหม่เริ่มเด่นชัด มันร้อนแต่ทว่ารู้สึกดี ก่อเกิดความรู้สึกวาบหวามเกินรำพัน

และเพียงไม่นานความร้อนชื้นตรงเนินอกพลันหายไป ความกรุ่นร้อนที่เลื่อนวนไปมาตามลำตัวของนางเริ่มหนักหน่วง เสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่คล้ายกับมิได้ห่อหุ้มเนื้อตัวของนางอีกต่อไป

คำถามบางเบาเกิดขึ้นภายในจิตใต้สำนึกอันน้อยนิดอีกครั้ง แต่ครั้งนี้สิ่งที่ทดแทนคำตอบของนางมิใช่เพียงความร้อนที่เกิดจากตัวนางแต่กลับเป็นความร้อนจากภายนอกที่กำลังครอบคลุมนาง

ความร้อนที่ว่าโอบล้อมนางทั้งเรือนกาย ทั้งยังมีความร้อนคล้ายกับลมพ่นเป่าออกมาใส่ใบหน้านาง

และเพียงอึดใจความร้อนผ่าวคล้ายกับก้อนไฟก็นาบลงมาที่กลางลำตัว และเสียดแทงเข้าร่างกายนาง

“อ๊ะ!” หลิงเวยถึงกับหลุดอุทาน

“อ๊ะ!” หญิงสาวร้องออกมาอีกครา ลูกไฟแท่งนั้นสอดแทรกเข้าร่างมาแล้วถอยออกไป

นางรู้สึกเจ็บเสียดช่วงกลางลำตัว

เจ็บแปลบแต่...

“อืม...” เสียงทุ้มต่ำคำรามออกมา เสียงนั้นดังอยู่ใกล้ใบหน้านางพร้อมลมหายใจร้อนกรุ่นพ่นเป่าลงมาแรงๆ

“อ๊ะ!” หลิงเวยร้องออกมาอีกครั้งและครั้งนี้ความรู้สึกแปลกใหม่พลันปรากฏ

คราแรกนางเจ็บ คราที่สองนางก็ยังเจ็บ คราต่อมานางก็ยังเจ็บแต่ทว่าครั้งต่อๆ มาสิ่งที่ร้อนผ่าวคล้ายกับแท่งไฟตรงกลางลำตัวกลับเพิ่มความรู้สึกแปลกประหลาด

ความรู้สึกแปลกประหลาดที่ว่ามันมาพร้อมกับความเจ็บแปลบเสียดสีและความเจ็บหน่วงเสียดเสียว

“อา...” ครานี้เสียงของหลิงเวยพลันเปลี่ยนไปตามความรู้สึกแปลกประหลาดนั้น

ความรู้สึกรุ่มร้อน ความรู้สึกร้อนเร่าที่กำลังโลดเล่นโอบล้อมเรือนกายคล้ายกับจะเผานางให้มอดไหม้ ความรู้สึกเสียดเสียวเมื่อกลางลำตัวถูกเสียดสี จังหวะบางอย่างที่กำลังถาโถมอยู่กลางลำตัว ความรู้สึกเจ็บปวดแต่สร้างความเสียวซ่านมากมาย

นี่นางกำลังเป็นอะไร เกิดอะไรขึ้นกับนาง

หลิงเวยแหงนหงายใบหน้าร้องครางออกมาตามจังหวะแปลกประหลาดจนร่างบางโยกโยน

หญิงสาวพยายามเรียกสติสัมปชัญญะทั้งหมดที่มีเพื่อลืมตาถึงแม้ว่าริมฝีปากจะกำลังอ้าเผยอเปล่งเสียงน่าอาย

นางพยายามเหลือเกินที่จะลืมตาขึ้นมา แต่ทุกจังหวะที่กระชับตรงกลางลำตัวทำให้นางต้องหลับตาแน่นแต่อ้าปากออกเพื่อส่งเสียงครวญคราง

เมื่อลืมตามิได้ดังใจนางจึงเอื้อมฝ่ามือขึ้นมาปัดป่ายจนเจอเข้ากับสิ่งหนึ่ง คล้ายกับผิวหนังของบุคคลแต่แข็งขึงตึงแน่น

นางพยายามลืมตาขึ้นมองอย่างสุดชีวิตถึงแม้จะกำลังร้องออกมาตามจังหวะที่ถูกกดดันอยู่กลางแก่นกายจนร่างทั้งร่างโยกโยนขึ้นลงไปมา

และแล้วนางก็ลืมตาได้สำเร็จ ทันใดนั้นดวงตาที่หรี่ปรือครึ่งหลับครึ่งตื่นคล้ายเคลิบเคลิ้มเมื่อครู่พลันเบิกโพลง แสงเทียนที่ถูกจุดเมื่อไหร่มิทราบได้สาดประกายสีเหลืองนวลส่องมา

และนางก็ได้เห็น

เงาร่างบึกบึนใหญ่โตกำลังทอดตัวอยู่เหนือร่างของนาง เงาร่างล่ำสันกำลังขยับอยู่บนเรือนร่างของนาง

เงาร่างที่ว่ากำลังพ่นลมร้อนๆ ใส่ใบหน้านาง เงาร่างที่ว่ากำลังกระทำการบางอย่างกับเรือนกายของนาง

เงาร่างที่ว่ากำลังขยับเรือนกายขึ้นลงแต่กำลังกดกระชับเสียดแทงตรงกลางลำตัวของนาง เงาร่างที่ว่ากำลังมอบความรู้สึกแปลกประหลาดให้ตรงกลางลำตัว

จนนางต้องร้องครวญคราง

อา...นี่คืออันใด!?

บทก่อนหน้า
บทถัดไป