บทที่ 10 ที่มาของพลัง

เวธัสยกท่อนแขนปาดน้ำตา สุดท้ายไม่ได้มีใครรักเขาจริงเลยสักคน หวังเพียงผลประโยชน์จากการเลี้ยงดูเท่านั้น เพื่อนพ่อยังดีกว่าเสียอีก อย่างน้อยก็คงไม่หวังอะไรจากตัวเขาเหมือนคนอื่น

พลอยภัทราสะอื้นมองดูพี่เวย์ จากนี้พี่คงไม่ได้พูดุคุยกับเธออีกแล้ว คงเดินทางไปอยู่ที่อื่น ยิ่งคิดน้ำตายิ่งไหลรินออกมา ความเศร้าถาโถมเข้าหาเรื่องราวมากมายยากจะรับได้จริงๆ มันทรมานเหลือเกิน

ร่างเล็กวิ่งหนีจากจุดนั้นออกมาด้านนอก ภาพความทรงจำอันแสนสุขหมุนวนเข้ามา เสียงฝีเท้าด้านหลังทำให้เธอยกมือเช็ดน้ำตาแล้วหันมอง เห็นชายร่างสันทัดกำลังเดินอยู่กระเป๋าเงินร่วงหล่น พลอยภัทรารีบหยิบขึ้นมาแล้วเดินตรงไปหาเขา

“คุณน้าคะ”เธอเรียกไว้

ชายคนนั้นหันมา ขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ

“อะไรเหรอหนู”

“คุณน้าทำกระเป๋าเงินหล่นค่ะ”

“อ๋อ ขอบใจมาก”เขารับมา

จังหวะนั้นมือซ้ายเธอเผลอโดนปลายนิ้ว ภาพทั้งหมดหมุนวนเข้ามา ไฟโหมกระหน่ำ รอยยิ้มเหี้ยมเกรียม การถกเถียงและคราบน้ำตา รวมถึงเลือดสีแดงฉานไหลรินออกจากร่าง

พลอยภัทราเกิดอาหารกระตุกดวงตาเหลือกขึ้น ร่างเล็กผงะล้มลงกองกับพื้น ยกมือปิดหูน้ำตาไหลพรั่งพรูไม่หยุด

“กรี๊ด! ไม่! คุณป้า คุณลุง ริน ทำไมต้องฆ่าเขา ทำไมต้องฆ่า!”

เทพยุทธชะงักดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ เด็กคนนี้พูดจาอะไรออกมา

“นังเด็กบ้าแกพูดอะไรออกมา!”

คนในงานเริ่มมุง พิมลตรารีบเข้ามาประคองลูกที่กองกับพื้น ที่กำลังยกมือปิดหู ดวงตาเบิกกว้างราวกับคนไม่มีสติ

“ทำไมต้องฆ่า ฆ่าพวกเขาทำไม แกฆ่าเขา!”นิ้วเรียวเล็กชี้ไปยังเทพยุทธ

“ลูกใครทำไมพูดจาแบบนี้ พูดบ้าอะไรแบบนี้มันหาเรื่องกันชัดๆ เด็กนี่มาจากไหน!”เทพยุทธแสร้งอาละวาดสีหน้าไม่พอใจ

“ฉันขอโทษค่ะ พอดีลูกสาวเสียใจมากเรื่องเพื่อนน่ะค่ะ”พิมลตรารีบแก้ตัว

พลอยภัทราโอบกอดมารดาไว้แน่น อาการสั่นเทาทำให้พิมลตรางุนงง เมื่อมองชายหนุ่มซึ่งเป็นแขกในงานท่าทางไม่พอใจสะบัดหน้าหันกายเดินหนีด้วยความเดือดดาล เธอหันกลับมาสนใจลูกต่อ

“แกเป็นอะไรยัยพลอย ทำไมพูดจาแบบนี้!”คนเป็นแม่ดุ

เด็กสาวมองมือซ้ายรีบหยิบถุงมือที่ใส่กระเป๋าสะพายออกมา เพราะเข้าห้องน้ำเลยถอดออก เลยต้องพบเจอกับเรื่องแสนน่ากลัว ความคิดหนึ่งตีขึ้นมาหากชายคนนั้นทำร้ายครอบครัวคุณลุงวิรุตม์จริง เธอไม่มีทางปล่อยไปแน่ แต่ตอนนี้เธอไม่กล้าพอจะพูดกับใคร เพราะภาพเหล่านั้นทำให้รู้ว่าหากปากพล่อยแม่อาจเดือดร้อน

“แม่ พลอยอยากกลับแล้วแม่”

เวธัสหยุดยืนมอง จังหวะนั้นสองสายตาผสาน เด็กหนุ่มจ้องมองไม่วางตา ราวกับต้องการรู้สิ่งที่เธอพูดออกมา เด็กสาวรีบหลบตาตอนนี้ยังพูดอะไรไม่ได้ทั้งนั้น เพื่อความปลอดภัยของแม่และตัวเธอเองด้วย

รถยนต์จอดรอหน้าบ้านเวธัสหยิบของบางส่วนที่ยังหลงเหลือจากเพลิงไหม้ แล้วเดินออกจากรั้วบ้าน จังหวะนั้นพลอยภัทราเปิดประตูรั้วออกมาเพื่อเดินทางไปโรงเรียน เด็กสาวทอดสายตามองด้วยความรู้สึกอัดอั้นในใจ เวธัสตัดสินใจเดินเข้ามาหาดึงมือเธอไว้แล้ววางรูปถ่ายระหว่างเธอกับน้องสาวของเขา

“รินสนิทกับพลอยมาก พี่อยากให้พลอยเก็บไว้”

มือเล็กยกปิดปากสะอื้นไห้ออกมา ช้อนสายตามองพี่ชายเพื่อนด้วยความรู้สึกแสนเศร้า

“พี่เวย์จะไปแล้วเหรอคะ พี่เวย์จะไม่เจอพลอยอีกแล้วใช่ไหม”เด็กสาวถามทั้งน้ำตา

“พี่ต้องไปแล้ว ดูแลตัวเองด้วยนะพลอย”

มือเธอรั้งท่อนแขนไว้ ทำไมต้องเป็นแบบนี้ เธอไม่มีเพื่อนที่ไหนและครอบครัวพี่เวย์คือสถานที่พักพิงใจเพียงหนึ่งเดียว

“อย่าไปได้ไหมคะพี่เวย์”

“ไม่ได้หรอกพลอย”เขาตอบแววตาหม่น

เกลียดการจากลาเหลือเกิน ไม่ว่าจากเป็นหรือตายมันช่างสร้างความรวดร้าวในหัวใจได้ไม่แตกต่างกันเลย เธอรู้ว่าพี่เวย์คงทนทรมานจากการมองสภาพบ้านตัวเองไม่ได้ เธอ... อยากให้เขาได้พบเจอสิ่งที่ดีกว่านี้ และมือคู่นี้ไม่อาจรั้งไว้ได้อีกแล้ว ปล่อยท่อนแขนเป็นอิสระทั้งน้ำตา หนทางข้างหน้าน้องสาวคนนี้จะอวยพรให้เขาโชคดี

“พลอยคงรั้งพี่เวย์ไว้ไม่ได้ สิ่งที่ทำได้คืออวยพรให้พี่เวย์โชคดีนะคะ”

“ขอบใจมากนะพลอย พี่ดีใจนะที่เราได้รู้จักกัน”เด็กหนุ่มลูบศีรษะเพื่อนน้องสาวแผ่วเบา ก่อนหันหลังก้าวออกมา

เด็กสาวกัดริมฝีปากเพื่อกลั้นสะอื้น นำรูปเพื่อนกอดแนบอกแน่น ไม่เหลือใครเลยสักคนไม่มีอีกแล้ว

คนเป็นแม่ยืนกอดอกมองลูกแล้วระบายลมหายใจหนักออกมา วันเวลาเท่านั้นจะช่วยเยียวยาหัวใจให้ทุเลาเบาบางต่อความเจ็บปวดลง

บทก่อนหน้า
บทถัดไป