บทที่ 5 บทที่ 4 ฉลองความสำเร็จ
ชานนท์ออกจากห้องพักอาจารย์เดินทางกลับมาที่อู่ของเฮียหนุ่มในเวลาต่อมา เมื่อมาถึงก็เห็นใบหน้าของเฮียเจ้าของอู่ซึ่งตอนนี้ยิ้มแย้มดูอารมณ์ดีเป็นอย่างมาก เขาเห็นใบหน้านั้นก็เลยทักด้วยความกวนประสาทตามประสาคนปากเสีย
"กินยาหน่อยนะเฮีย นั่งอยู่คนเดียวยิ้มอยู่ได้ระวังเป็นโรคประสาทล่ะ"
"ไอ้ห่านี่! กำลังจะชมว่าเก่งได้รางวัลมา มากวนตีนกูซะงั้น"
"หึ"
เขายิ้มมุมปากออกมาเล็กน้อยก่อนจะโยนกระเป๋าของตัวเองลงไปตรงโซฟา จากนั้นก็เดินไปหยิบอุปกรณ์เพื่อเตรียมทำงานต่อ ชีวิตของเขามีแค่นี้แหละไปเรียนแล้วก็กลับมาทำงาน นอกจากเฮียหนุ่มก็มีแค่เพื่อนเท่านั้นที่เขาอยากมีชีวิตอยู่ต่อ อย่างน้อยก็ได้เจอคนที่จริงใจหลายคน แต่ถ้าถามว่ามีแรงสู้ต่อไปกับอนาคตของตัวเองไหมบอกเลยว่าไม่มี คงต้องโทษแค่โชคชะตาของตัวเองที่เกิดมาไม่ได้โชคดีเหมือนอย่างคนอื่น
"สรุปมะรืนจะไปรับรางวัลถูกไหม"
"อะไรของเฮียเนี่ย ก็แค่รางวัลเด็กน้อยความจริงไม่จำเป็นต้องให้ผมไปรับก็ได้นะ"
"โห! มันเป็นการแข่งขันระดับประเทศนะเว้ย อะไรที่แกคิดว่ามันเป็นรางวัลของเด็กน้อยกัน เฮ้อ! เอาเถอะเดี๋ยววันนี้เฮียจะไปซื้อชุดใหม่ให้ วันมะรืนก็ใส่ไปรับรางวัลนะเข้าใจหรือเปล่า"
เฮียหนุ่มเอ่ยออกมาก่อนจะเดินไปแตะบ่าของเขาอย่างให้กำลังใจ ถ้าไม่ติดว่าให้หมอนี่ปากหมาแล้วก็ชอบใช้กำลังเตะต่อยเมื่อมีโอกาส ไปเมากับเพื่อนเที่ยวกลางคืนมั่วสุมกัน ก็ถือว่าอย่างอื่นเป็นข้อดีทั้งหมดเลยนะ
"เก็บเงินไว้เถอะเฮีย ไหนจะจ่ายค่าเช่าไหนจะต้องมาจ่ายค่าลูกน้องอีก ดูเอาสิมีกี่ชีวิตเลี้ยงยังไงไหว"
"มึงนี่มันปากหมาจริง ๆ เลยนะไอ้ชานนท์ ในละแวกนี้อู่ของเฮียหนุ่มใหญ่ที่สุดแล้วเว้ย แกจะมาพูดว่าเฮียจ่ายค่าลูกน้องไม่ไหวได้ยังไง"
"นั่นสิวะ แกนี่มันจริง ๆ เลยนะ เฮียเขามีน้ำใจทำไมไม่รับไว้ล่ะ"
"ไอ้เด็กเปรต"
บรรดาลูกน้องของเฮียหนุ่มตะโกนด่าเขาไม่ขาดสาย ชานนท์ได้ยินแบบนั้นก็ส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนจะโยนประแจไปใส่หน้าพวกเขา จนพวกที่นั่งเกาะกลุ่มกันอยู่สะดุ้งดีดถอยหลังกันไปตามกัน
"ไอ้เด็กเหี้ยอะไรของมึงเนี่ย"
"โยนมาแบบนี้หัวกูแตกทำไง"
"พูดมาก งานการไม่รู้จักทำ"
"เออ ๆ ไปทำงานก็ได้วะ พูดนิดพูดหน่อยก็ไม่ได้เลยนะ ใช่สิเดี๋ยวนี้เขาเป็นคนเก่งคนดังแล้ว ไอ้เรามันก็แค่พนักงานต๊อกต๋อยประจำอู่ จะไปสู้ลูกพี่ชานนท์ได้ยังไง"
พนักงานคนอื่นเอ่ยประชดประชันเขาก่อนจะหัวเราะออกมาด้วยความขำขัน เป็นอันรู้กันว่าพนักงานที่ทำงานอยู่ที่อู่เฮียหนุ่มรักและเอ็นดูชานนท์ยิ่งกว่าอะไร แต่ด้วยความที่ไอ้หมอนี่มันปากหมา พวกเขาก็เลยต้องใช้คำพูดไม่ถนอมน้ำใจใส่จะได้สมน้ำสมเนื้อกันหน่อย
"รู้ก็ดี พูดมากคราวหลังจะไม่ช่วยแล้วนะ"
"จ้า จ้า ไม่กวนแล้วโว้ยไอ้นี่"
"หึ... พูดเยอะจริง"
เขายิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะหันไปยิ้มให้กับเฮียหนุ่มเจ้าของอู่ซึ่งตอนนี้เขายิ้มกว้างออกมาอย่างมีความสุข เด็กที่รับมาเลี้ยงดูไม่คิดว่ามันจะมีพรสวรรค์มากมายขนาดนี้ หัวไวสอนอะไรก็จำเพียงแค่ครั้งเดียว พอเริ่มไปเรียนหนังสือก็ศึกษาเกี่ยวกับอุปกรณ์รถยนต์ต่าง ๆ ทั้งแบรนด์ในประเทศและนอกประเทศ จนตอนนี้เรียกได้ว่าไม่มีอะไรที่เจ้าคนนี้ไม่สามารถซ่อมได้ ไม่แปลกใจหรอกที่ประดิษฐ์นั่นทำนี่ได้โดยง่าย เก่งแบบนี้เขามีอนาคตไปได้อีกไกลแน่นอน
"ทำงานเถอะเย็นนี้พวกเพื่อนจะมาฉลองที่นี่ไม่ใช่เหรอไง ยังไงก็อย่าเสียงดังรบกวนชาวบ้านล่ะเดี๋ยวแม่งแจ้งตำรวจอีกกูจะซวย"
"ครับเฮีย"
เขายิ้มออกมาก่อนจะเดินออกไปจากตรงนั้น ส่วนชานนท์เขาก็ตั้งใจทำงานของตัวเองตรงหน้าต่อ งานยากภายในอู่ส่วนใหญ่ก็เป็นเขาทำแทบทั้งหมด เพราะบางอย่างพวกพนักงานคนอื่นก็ไม่สามารถทำได้ เขาไม่อยากให้วุ่นวายจึงเป็นคนซ่อมเองทุกขั้นตอน
ในช่วงเย็นเพื่อนของเขาก็หิ้วขวดเหล้าและกับแกล้มมาเต็มไม้เต็มมือ แถมยังชวนพนักงานของเฮียหนุ่มนั่งดื่มด้วยกันเพื่อฉลองให้กับความสำเร็จของชานนท์ในครั้งนี้ เขาตั้งใจประกวดในครั้งนี้มากและไม่ผิดคาดได้รับรางวัลกลับมา มันเป็นความภาคภูมิใจของเขาโดยแท้ แต่ด้วยความที่ปากหมาและไม่ชอบแสดงออกจึงทำให้เขาทำเหมือนไม่รู้สึกอะไรทั้งที่ภายในใจนั้นเต้นรัวดีใจเป็นอย่างมาก
"เอาล่ะเรามาชนแก้วกันดีกว่า ฉลองความสำเร็จของไอ้ชานนท์กัน"
"เอ้า ชน!"
"ชนนนนนน!"
พนักงานและพวกเพื่อนของชานนท์รวมถึงเจ้าของอู่ยกแก้วขึ้นมาโชว์ไว้เหนือหัวก่อนจะชนกันพร้อมกับยิ้มออกมาด้วยความสนุกสนาน ราตรีนี้ยังอีกยาวไกลไม่รู้ว่าพวกเขาจะกินดื่มกันดึกดื่นแค่ไหน แต่ชานนท์ก็รู้สึกอบอุ่นเพราะอย่างน้อยเขาก็ไม่ได้รู้สึกโดดเดี่ยว
"พี่ชานนท์คะ"
เสียงเล็กดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง ซึ่งสายตาของคนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะจ้องมองไปทางด้านหลังของเขาเป็นตาเดียว ชานนท์จ้องมองไปยังใบหน้าของทุกคนก่อนจะรีบหันหลังกลับไปมอง ในเมื่อเห็นใบหน้าเล็กยิ้มกว้างออกมาด้วยความสดใสก็สะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะรีบวางแก้วเหล้าลง ขยับตัวลุกขึ้นจากที่นั่งก่อนจะเดินเข้าไปหาเธอทันที
"มาทำไมเนี่ยกลับไปเลยนะ"
เขารีบลุกขึ้นไปไล่สาวน้อยหน้ามนหรือก็คือน้องรดาผู้หญิงที่เขาช่วยไว้เมื่อหลายวันก่อน เธอชูอะไรบางอย่างขึ้นมาไว้ตรงหน้าของเขาก่อนจะเอ่ยออกมา
"รดาเพิ่งมาถึงเองนะคะทำไมไล่กันแล้วล่ะ"
"ทำไมต้องมาตอนนี้ล่ะเห็นไหมผู้ชายเยอะแยะเลย กลับไปก่อนไว้ค่อยคุยกันใหม่"
เขาพยายามไล่เธอให้กลับไปก่อนเพราะไม่อยากให้เจอกับไอ้พวกเพื่อนบ้ากามทั้งหลาย ซึ่งดูเหมือนว่าตอนนี้พวกมันกำลังจ้องเด็กสาวเป็นตาเดียว
"เฮ้ยเพื่อนรักใครอะ ทำไมไม่พามาให้เพื่อนรู้จักล่ะ"
"นั่นสิ ใครนะสาวน้อยคนนี้สวยจัง"
"เสือก! เก็บปากไว้อมข้าวไปพวกมึงอะ"
เขาถอนหายใจออกมาด้วยความเซ็ง จ้องมองใบหน้าของเด็กสาวที่ตอนนี้ส่งปิ่นโตในมือของเธอมาให้ตรงหน้า
"รดาเอากับข้าวมาให้ค่ะ ทำเองด้วยนะอยากให้พี่ชานนท์ลองชิมดูค่ะ"
"ขอบใจ กลับไปได้แล้ว"
เขาเอ่ยออกมาเพียงแค่นั้นก่อนจะเร่งรีบไล่หญิงสาวให้ออกไปจากตรงนั้น แต่ดูเหมือนว่าเธอจะดื้อดึงไม่น้อย เอามือมากอดอกจ้องมองมาทางเขาด้วยความไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่
"รดาอยากคุยกับพี่ชานนท์ค่ะขออยู่ด้วยได้ไหม"
"อยู่ไม่ได้บอกว่าผู้ชายเยอะไง"
เขาพยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ไม่ให้โกรธเด็กสาวตรงหน้า ดูท่าทางดื้อซะเหลือเกินทำเอาเขาถึงกับปวดหัวไม่น้อย
"แต่ว่ารดาไม่ถือนะ นั่นเฮียหนุ่มรดารู้จักค่ะ คนนั้นก็ลุงมี ลุงเกิด พี่ตาม แล้วก็..."
เธอเอ่ยออกมาพร้อมกับกะพริบตาใส่เขาปริบ ๆ เพื่อขอความเห็นใจแต่ทว่าชายหนุ่มไม่ยอมให้เธออยู่ท่ามกลางผู้ชายมากมายแบบนี้แน่นอน ถึงแม้ว่าเธอจะรู้จักพวกเขาก็เถอะ
"เอาโทรศัพท์มา"
"คะ...โทรศัพท์เหรอ"
เธอทำหน้าเหมือนงงก่อนจะรีบส่งโทรศัพท์ของตัวเองไปให้ชายหนุ่ม เขารับมือถือไว้ในมือก่อนจะกดเบอร์โทรศัพท์ลงไปจากนั้นก็กดโทรเข้าไปหาโทรศัพท์ของตัวเอง
"อันนี้เบอร์พี่ เดี๋ยวคืนนี้โทรไปหาค่อยคุย"
เมื่อหญิงสาวได้เบอร์โทรศัพท์ของชายหนุ่มก็ยิ้มออกมาด้วยความดีใจก่อนจะรับโทรศัพท์มาเก็บไว้กับตัวเอง จากนั้นก็หันไปมองใบหน้าของผู้ใหญ่ที่นั่งอยู่ที่โต๊ะซึ่งตอนนี้พวกเขากำลังส่งยิ้มมาให้เธออยู่
"งั้นรดาไม่รบกวนทุกคนแล้วนะคะ อย่าลืมโทรมานะไม่อย่างนั้นรดาจะมากวนพี่ชานนท์ทุกวันเลย ชิ"
เธอยิ้มออกมาก่อนจะเดินกลับออกไปจากตรงนั้นทันที ชานนท์ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกและเมื่อหันหลังกลับไปมองที่โต๊ะก็สะดุ้งเล็กน้อยเพราะสายตาของคนพวกนั้นกำลังมองมาทางเขาด้วยความจับผิด
"ฮั่นแน่! ไหนมานั่งตรงนี้ มาเล่าให้ฟังหน่อยซิสาวน้อยคนนั้นเป็นใคร"
"ถ้าวันนี้ก็กูไม่ได้คำตอบ มึงไม่ต้องนอน!"
