บทที่ 9 บทที่ 8 ความสัมพันธ์ที่เริ่มพัฒนา
แชท...
Lada : รดาสอบได้คะแนนที่ 1 ของโรงเรียนด้วยนะ แล้วก็เป็นที่หนึ่งของจังหวัดด้วย เพราะฉะนั้นเย็นนี้พี่ชานนท์ต้องมารับรดาไปฉลองความสำเร็จนะ จะรอที่หน้าโรงเรียนตอน 16:00 น. ที่เดิมที่พี่ชานนท์มาส่งรดาเมื่อเช้า ถ้าเกิดไม่มารดาจะไปอาละวาดที่อู่แน่!
ชานนท์จ้องมองหน้าจอโทรศัพท์ของตัวเองก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อย กดส่งข้อความตอบกลับไปหาหญิงสาว เพื่อแสดงความยินดีที่เธอสอบได้คะแนนอันดับ 1 ระดับจังหวัด
แชท...
Chanon : ยินดีด้วย
Lada : แค่นี้...? แค่นี้เองเหรอคะ
Chanon : ก็แสดงความยินดีไงก็มีแค่นั้นแหละจะให้มากกว่านี้ต้องพิมพ์ยังไงล่ะ
Lada : ผู้ชายอะไรไม่มีความโรแมนติกเอาซะเลย ชิ!
Chanon : สี่โมงเย็นรออยู่ตรงนั้นแหละเดี๋ยวไปรับ
เขากดส่งข้อความตอบกลับไปก่อนจะปิดหน้าจอเก็บโทรศัพท์เข้าไปในกระเป๋ากางเกงก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองกระดานซึ่งตอนนี้กำลังตั้งใจเรียนหนังสืออยู่
"เอาล่ะวันนี้อาจารย์จะให้นักศึกษาได้เรียนรู้เกี่ยวกับการทำงานของระบบไฟฟ้าในรถยนต์ วันนี้เราจะเรียนเรื่องระบบจ่ายไฟฟ้าการเชื่อมต่อวงจรไฟฟ้าและการตรวจสอบระบบไฟฟ้าในรถยนต์ในกรณีที่เกิดปัญหา ขอให้นักศึกษาทุกคนตั้งใจเรียนหน่อยนะเพราะว่าใกล้จะสอบ ตอนนี้ทุกคนจะต้องทำการเลือกมหาวิทยาลัยแล้ว อาจารย์ได้รวบรวมมหาวิทยาลัยชั้นนำ 50 อันดับของประเทศเพื่อให้นักศึกษาได้เลือกเข้าเรียน ส่วนนายรัชชานนท์อาจารย์ขอแสดงความยินดีด้วยนะ มหาวิทยาลัยอันดับ 1 ของประเทศไทย Vanguard international University ได้ส่งหนังสือเทียบเชิญให้เธอสามารถเข้าไปรายงานตัวได้เลยโดยที่ไม่ต้องสอบเข้า ให้ทุกคนดูนายรัชชานนท์เป็นตัวอย่างนะ ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น ขอเสียงปรบมือให้เพื่อนหน่อย"
และเมื่อเสียงอาจารย์พูดจบนักศึกษาทั้งห้องก็ลุกขึ้นปรบมือให้กับเพื่อนร่วมห้อง รัชชานนท์ส่งยิ้มไปให้ทุกคนก่อนจะขยับตัวลุกขึ้นแล้วโค้งตัวเล็กน้อย ถึงแม้จะอาภัพเกี่ยวกับครอบครัวแต่เขาโชคดีที่มีสังคมรอบข้างเข้าใจและไม่รังเกียจ ยกเว้นก็แต่ชาวบ้านปากตลาดพวกนั่นแหละที่เอาเขาไปพูดเสียหาย
"ขอบคุณอาจารย์นะครับสำหรับทุกอย่าง"
"วันงานรับรางวัลทางมหาวิทยาลัยจะส่งตัวแทนมาคุยเรื่องการเข้าเรียนโดยตรง ติดปัญหาตรงไหนก็เจรจากับเขาได้เลยในวันนั้น"
"ได้ครับอาจารย์"
"เอาล่ะนักศึกษามาเรียนกันดีกว่า อาจารย์มีเรื่องจะแจ้งเพียงเท่านี้แหละ หวังว่านักศึกษาทุกคนจะได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัยที่คาดหวังเอาไว้ นี่เป็นแค่จุดเริ่มต้นของการใช้ชีวิตกับโลกภายนอก โลกใบนี้กว้างขวางนักเพราะฉะนั้นอย่าหยุดยั้งการเรียนรู้ ขอให้นักศึกษาทุกคนทำให้เต็มที่เพื่ออนาคตของตัวเอง"
อาจารย์เอ่ยออกมาก่อนจะส่งยิ้มให้กับนักศึกษาทุกคนที่อยู่ภายในห้อง การเป็นคุณครูไม่ได้คาดหวังอะไรในตัวของลูกศิษย์เลย ขอแค่ได้ให้ความรู้กับพวกเขามากที่สุดเพียงแค่นั้น ที่เหลือก็เป็นเรื่องของเด็กแต่ละคนที่จะผลักดันตัวเองให้ไปได้ไกลที่สุด
และในช่วงเย็นชานนท์เดินออกมาจากตึกซึ่งตอนนี้พวกเพื่อนของเขากำลังนั่งเล่นอยู่ตรงมานั่ง ด้านข้างมีสาวสวยนั่งอยู่เคียงข้างกาย
"พวกมึงระวังหน่อยล่ะเดี๋ยวก็โดนข้อหาพรากผู้เยาว์หรอก"
และเมื่อเพื่อนเอ่ยแซวแบบนั้นทุกคนก็สะดุ้งก่อนจะรีบขยับตัวลุกขึ้นไปนั่งม้านั่งอีกตัวหนึ่ง เพราะสาวน้อยที่มานั่งด้วยเพิ่งจะอายุอานามสิบกว่าปีเอง ส่วนตัวพวกเขานั้นจะเรียนจบปวช 3 แล้วอายุ 18 ปี การไปยุ่งกับเด็กที่อายุยังไม่ถึง 18 ปีค่อนข้างจะอันตรายไม่น้อย
"น้อง ๆ ไปเถอะพวกพี่ยังไม่อยากโดนข้อหาพรากผู้เยาว์"
"ก็แค่นั่งคุยกันเองนะพี่สุดหล่อ จะมาโดนข้อหาพรากผู้เยาว์อะไรกันล่ะ"
"ก็พวกมันจิตใจสกปรกคิดแต่เรื่องอกุศลไง ออกไปได้แล้วเกะกะ"
รัชชานนท์เอ่ยออกมาก่อนจะเดินไปนั่งลงเคียงข้างธีระ ซึ่งตอนนี้กำลังตั้งใจทำการบ้านอยู่ไม่ได้สนใจเพื่อนที่นั่งอยู่ด้วยเลย
"มึงจะขยันเกินไปหรือเปล่าไอ้ธีระ"
"ขยันเหี้ยอะไรล่ะ กูมัวแต่เล่นเกมตอนกลางคืนทำงานไม่เสร็จเนี่ย อาจารย์บอกว่าถ้าไม่ส่งวันนี้จะให้ ร กู"
"สภาพ! มึงนี่มันไม่เหมาะสมกับการอยู่ในแก๊งพวกกูเลยว่ะ ไอ้ขี้เกียจ"
ธีระเหลือบสายตาขึ้นมองใบหน้าของมินทร์ก่อนจะใช้เท้าถีบเพื่อนรักด้วยความหมั่นไส้
"โลกใบนี้ใครจะดีกว่ามึงอีก"
"มึงจะมาถีบกูเพื่อ ไอ้...!"
"รำคาญพวกมึงว่ะ"
เขาบ่นออกมาก็จะมองนาฬิกาตรงข้อมือซึ่งเป็นเวลาเกือบสี่โมงเย็นแล้ว ซึ่งเขาได้นัดกับรดาเอาไว้ว่าวันนี้จะไปรับที่โรงเรียน สงสัยต้องหาเรื่องปลีกตัวออกไปก่อนเพราะไม่อย่างนั้นไอ้พวกนี้จะไม่ยอมให้เขาไปไหนสักที
"วันนี้กูติดงานนะกลับก่อนก็แล้วกัน"
เขาเอ่ยออกมาเพียงแค่นั้นก่อนจะรีบขยับตัวลุกขึ้นจากม้านั่งจากนั้นก็เดินออกไปทันที
"เอ้า! ปกติมึงทำงานหกโมงเย็นไม่ใช่เหรอ"
"รีบไปไหนของมันวะ"
เพื่อนทั้งสี่คนหันมามองสบตากันด้วยความมึนงง ปกติชานนท์จะนั่งเล่นอยู่กับเพื่อนจนเกือบ 18:00 น ถึงจะกลับ ทำไมวันนี้กลับเร็วเป็นพิเศษทำเอาเพื่อนงงไปหมด
และเมื่อเขาปลีกตัวออกมาจากตรงนั้นได้ก็พ่นลมหายใจออกมาด้วยความโล่งอก รีบควบมอเตอร์ไซค์ขี่ไปยังโรงเรียนเอกชนที่อยู่ไม่ห่างจากวิทยาลัยมากนัก เมื่อมาถึงก็เจอสาวน้อยรดาเดินออกมาพอดี และเมื่อเธอเห็นชายหนุ่มขี่มอเตอร์ไซค์มาถึงก็ยิ้มออกมาด้วยความดีใจ
"ก็นึกว่าจะเบี้ยวซะแล้ววันนี้"
"เห็นพี่เป็นคนยังไง"
เขาเอ่ยออกมาก่อนจะส่งหมวกกันน็อกไปให้หญิงสาวสวมใส่เพื่อความปลอดภัย เธอรับมาถือไว้ในมือก่อนจะสวมใส่ลงบนศีรษะด้วยความเก้กัง เขาเห็นแบบนั้นก็รู้สึกขัดใจก่อนจะสวมหมวกให้เธอพร้อมกับล็อกให้เสร็จสรรพ
"ลูกคนรวยก็งี้แหละไม่เคยซ้อนมอเตอร์ไซค์ละมั้ง แค่หมวกกันน็อกยังใส่ไม่ได้เลย"
"จะประชดประชันทำไมเนี่ย ทำไมพี่ชานนท์เป็นคนปากไม่ดีแบบนี้คะ"
เธอจิปากออกมาด้วยความขัดใจก่อนจะขยับตัวขึ้นไปนั่งซ้อนท้าย มือเล็กจับเสื้อของเขาที่เอวทั้งสองข้างดึงไปมาเพราะรู้สึกงอนที่เขาพูดจาไม่ค่อยดีกับเธอ
"ไม่กอดเอวระวังตกนะ"
"ก็พี่ชานนท์พูดจาไม่น่ารักกับหนูนี่"
เขาถึงกับกุมขมับเพราะรู้สึกว่าเด็กคนนี้งี่เง่าซะเหลือเกิน ทำไมเขาจะต้องมารองรับอารมณ์เด็กขี้งอนแบบนี้ด้วยก็ไม่รู้ อยู่คนเดียวก็ดีอยู่แล้วไม่น่ามารู้จักพวกผู้หญิงเลย น่ารำคาญมากให้ตายสิ
"ผู้หญิงนี่น่ารำคาญชะมัด"
เขาเอ่ยออกมาเพียงแค่นั้นก่อนจะใช้มือทั้งสองข้างจับข้อมือของหญิงสาวเอาไว้จากนั้นก็ดึงรั้งเธอเข้าหาตัวจากทางด้านหลัง จับข้อมือของเธอมาโอบเอวของเขาไว้ทั้งสองข้าง เหลือบสายตาหันไปมองทางด้านหลังซึ่งสบตาเข้ากับสายตาของเธอที่จ้องมองมาเช่นกัน
"ทำไมชอบดุรดาจัง"
"ถ้าไม่อยากให้ดุก็ทำตัวน่ารักหน่อยสิ"
"รดาไม่น่ารักตรงไหนคะ"
ไม่พูดเปล่าแถมยังกะพริบตาปริบมองใบหน้าของเขาดวงตาใส่แป๋ว แววตาดูอ้อนเหมือนกับแมวน้อยซึ่งมันทำให้เขารู้สึกหัวใจเต้นรัวรีบเบือนหน้าหนีไปอีกทางเพราะไม่กล้าสบสายตา
"อะแฮ่ม! กอดให้แน่นล่ะ"
เขาเอ่ยออกมาเพียงแค่นั้นก่อนจะรีบขี่มอเตอร์ไซค์ออกไปจากตรงนั้นทันที รดาเห็นท่าทีของเขาที่ดูเขินอายก็ยิ้มออกมาด้วยความอารมณ์ดีเป็นอย่างมาก
'ก็ดูเป็นคนมีความรู้สึกอยู่นะ นึกว่าจะใจแข็งกว่านี้ซะอีก ก็ไม่เท่าไหร่นี่นา!'
....
