พยายามต่อต้านแอนนี่

ผมครางขณะที่วงแขนรัดรอบตัวเธอแน่นขึ้น “พี่ไม่คิดว่านั่นเป็นความคิดที่ดีนะ แอนนี่”

“ทำไมล่ะคะ เพราะพี่อยากจะฟันหนูเหรอ” เธอถาม ทำเอาผมถึงกับชะงัก

“ฟันเธอน่ะเหรอ พี่ไม่ได้อยากจะฟันเธอสักหน่อย” ผมปฏิเสธ

“แต่จดหมายของพี่บอกว่าอยากนี่คะ มันโกหกเหรอ” เธอเอ่ยถามอย่างลังเล

“พี่ไม่ได้ส่งจดหมายให้เธอนะ แอนนี่” ผมพูดอย่างอ่อนโยน

“ค่ะ พี่ไม่ได้ส่ง แต่หนูเจอฉบับหนึ่ง” เธอล้วงกระดาษยับยู่ยี่ออกมาจากบรา “ฉบับนี้ค่ะ จ่าหน้าซองถึงหนู... หนูคิดว่างั้นนะ หนูเป็นคนเดียวที่พี่เรียกว่าบานานนี่นี่คะ” เธอกะพริบตา หยาดน้ำตาเม็ดโตไหลอาบแก้ม “ใช่ไหมคะ”

ผมพูดไม่ออก ได้แต่จ้องมองจดหมายในมือเธอ ผมรู้ดีว่าในนั้นเขียนว่าอะไร แต่เธอไปเจอมันได้อย่างไร สายตาผมตวัดขึ้นมองหน้าเธอถ้ารู้ว่าทำไมผมถึงจากมา แล้วคนอื่นในครอบครัวของเรารู้ด้วยหรือเปล่า

“แอนนี่...” ผมเปล่งเสียงแหบพร่า

เธอซบหน้าลงกับอกผม “ถึงหนูจะไม่ใช่ ก็ช่วยโกหกหนูหน่อยได้ไหมคะ” เธอกระซิบ

ผมวางแก้มลงบนศีรษะของเธอขณะสบตากับคอรี่ในกระจกมองหลัง เขาเปิดกระแสจิตของเรา

‘พี่จะเอายังไงครับ’ เขาถาม

‘ฉันไม่รู้ ฉันกลัวที่จะทิ้งเธอไว้ในสภาพเมาเละในถิ่นที่ไม่คุ้นเคย โดยเฉพาะเมื่อเธอเป็นลูกสาวของอัลฟ่าคู่แข่ง’

‘นั่นคือเหตุผลจริงๆ ที่พี่คิดจะอยู่กับเธอเหรอครับ หรือเป็นเพราะพี่อยากได้เธอมาเป็นของตัวเอง’ เขาถาม

ผมหลับตาลง ดื่มด่ำกับความสุขที่ได้แอนนี่ตัวน้อยของผมกลับมาอยู่ในอ้อมแขน ในที่สุดผมก็ถอนหายใจ

‘ถ้าฉันบอกว่าทั้งสองอย่าง มันจะทำให้ฉันเป็นพี่ชายที่แย่น้อยลงไหม’

‘ก็ไม่นะครับ แล้วพี่จะทำยังไงต่อ’

“เจอร์รี่” เสียงของแอนนี่แทรกเข้ามาในการสนทนาของเรา

“ว่าไง แอนนี่”

เธอดึงตัวกลับแล้วลูบไล้มือขึ้นมาบนอกผม “หนูก็อยากให้พี่ฟันหนูเหมือนกันค่ะ”

ผมจ้องเธอ “ว่าไงนะ”

“พี่ไม่อยากเหรอคะ” เธอถาม ริมฝีปากล่างสั่นระริก

ผมครางออกมา “แอนนี่ เธอเมาแล้วนะ มาเถอะ เดี๋ยวพี่พาไปที่เตียง” ผมสบถในใจเมื่อเห็นตาเธอเบิกกว้าง “พี่ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นนะ”

คอรี่หรี่ตามองผม ‘นี่ไม่ใช่ความคิดที่ดีเลยนะ เจรัลด์’

‘ไม่เป็นไรหรอกน่า ฉันไม่แตะต้องเธอตอนเมาแน่’ ผมบอกเขา

‘ก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้นนะครับ พี่ไม่ควรจะไปเริ่มอะไรกับเธอเลย องค์เทพีจะไม่พอพระทัย’

“ฉันรู้” ผมพึมพำขณะขยับตัวไปอีกฝั่งของเบาะหลังเพื่ออุ้มแอนนี่ลงจากรถไปพร้อมกัน

“เธออยู่ห้องไหน ยัยตัวเล็ก” ผมถาม

“หนูไม่ใช่เด็กตัวเล็กนะ พี่แก่กว่าหนูแค่สี่ปีเอง” เธอสวนกลับ

“ห้องไหน บานานนี่” ผมถามย้ำ

เธอหัวเราะคิกคักขณะเอนตัวพิงอกผม “106”

ผมอุ้มเธอไปตามทางเดิน มองหาป้ายบอกทางไปยังห้อง 106 เมื่อผมหยุดอยู่หน้าประตูห้อง ผมก็ก้มลงมองเธอ

“กุญแจเธออยู่ไหน” ผมถาม

“ในบราค่ะ” เธอตอบ

“ส่งมาให้พี่”

เธอส่ายหน้า “พี่เอาเองสิ” เธอกระซิบเสียงขาดห้วง

ผมคราง “นี่เธอกำลังยั่วพี่อยู่เหรอ”

เธอโอบแขนรอบคอผม ดึงศีรษะผมลงไปจูบเธอ เปลือกตาของผมค่อยๆ ปิดลง ปล่อยให้ตัวเองได้เพลิดเพลินอยู่ชั่วครู่ขณะดำดิ่งลงไปในจูบนั้น สอดลิ้นเข้าไปในปากเธอ พอเธอเริ่มดูดดึงลิ้นของผม ผมก็ถอนริมฝีปากออกมา เธอแตะริมฝีปากตัวเองขณะจ้องมองผมอย่างตกตะลึง บ้าเอ๊ย! นี่กูทำบ้าอะไรลงไปวะ

“พี่ขอโทษ” ผมพึมพำ

เธอล้วงเข้าไปในชุดเพื่อดึงคีย์การ์ดออกมา ผมลดตัวเธอลงเล็กน้อย ไม่อยากปล่อยเธอไป เพื่อให้เธอปลดล็อกประตูได้ ผมพาเราเข้าไปข้างในแล้วใช้เท้าเตะประตูปิดตามหลัง ผมพาเธอไปที่เตียงหนึ่งแล้ววางเธอลง เธอยื่นมือมาคว้าแขนผมไว้ตอนที่ผมทำท่าจะเดินจากไป

“เจอร์รี่ อยู่ต่อเถอะนะคะ”

ผมก้มมองมือของเธอบนแขนผมก่อนจะสบตาเธอ “คนอื่นๆ ในครอบครัวรู้ไหมว่าทำไมพี่ถึงจากไป” ผมถามเสียงเบา

เธอส่ายหน้า “ไม่ค่ะ หนูสาบาน หนูไม่ได้บอกอะไรพวกเขาเลย”

“แล้วเธอเล่าเรื่องที่ไม่มาหาพี่เลยสามปีว่ายังไง”

“พวกเขาคิดว่าเราทะเลาะกัน ก็เลยไม่คุยกันค่ะ” เธอตอบ

ผมถอนหายใจพลางนั่งลงบนเตียงของเธอ จับมือเธอไว้ “ทำไมเธอถึงไม่มาหาพี่เลย แอนนี่ พี่เจ็บปวดมากนะ ทั้งหมดที่พี่ต้องการก็คือการได้เจอเธอ” ผมบอกเธอ “พี่ต้องการเจอเธอ แต่เธอกลับไม่อยู่ตรงนั้น”

เธอคลานขึ้นมาบนตักผม ซบศีรษะลงบนอก “หนูจะอยู่ใกล้ๆ พี่ได้ยังไงคะหลังจากที่รู้ว่าพี่รู้สึกกับหนูแบบไหน มันเป็นสิ่งเดียวที่หนูคิดถึงมาตลอดตั้งแต่วันที่พี่จากไป หนูแอบชอบพี่มาหลายปีแล้ว หนูเคยคิดว่ามันผิด คิดว่าตัวเองบ้าไปแล้ว แต่หนูจะบ้าได้ยังไงในเมื่อพี่ก็รู้สึกเหมือนกันกับหนู”

“แอนนี่... แบบนี้มันผิดนะ” ผมพึมพำ

“แต่มันรู้สึกว่าใช่เลยนะคะ” หล่อนกระซิบ “เราอยู่ด้วยกันสักครั้งได้ไหมคะ? แล้วไม่ต้องบอกใคร”

ผมส่ายหน้า “มันทำแบบนั้นไม่ได้หรอก”

หล่อนสูดจมูกฟุดฟิด เช็ดน้ำมูกกับเสื้อของผม “มันน่าจะทำได้สิคะ”

ผมหลับตาลงแล้วเริ่มโยกตัวหล่อนเบาๆ “พี่รู้ แอนนี่ เชื่อพี่เถอะ พี่ก็อยากให้มันเป็นแบบนั้นเหมือนกัน”


เมื่อแอนนี่หลับไปในที่สุด ผมก็ค่อยๆ จัดท่าให้หล่อนนอนดีๆ ในเตียงก่อนจะปัดผมออกจากหน้าให้ หล่อนโคตรสวย และตอนนี้หล่อนจะนอนห่างจากผมไม่ถึงสิบฟุต ถ้าจะมีสถานการณ์ไหนที่เป็นนิยามของคำว่าเย้ายวนใจได้อย่างแท้จริง ก็คงเป็นสถานการณ์นี้แหละ น้องสาวตัวน้อยของผมโตเป็นสาวขึ้นมากจริงๆ ในช่วงสามปีที่ผ่านมา ร่างกายของหล่อนเติบโตเป็นสาวเต็มตัวในแบบที่สมบูรณ์พร้อมซึ่งยิ่งทำให้ผมแทบบ้า ตอนก่อนที่หล่อนจะเข้าสู่วัยแรกรุ่นมันก็แย่มากพอแล้ว และตอนนี้ผมไม่มีทางต้านทานไหวแน่ๆ ซึ่งนั่นคือเหตุผลที่ผมกอดหล่อนไว้อยู่นานหลังจากที่หล่อนหลับไปแล้ว

ตอนนี้ ควยผมแข็งจนแทบจะปริ พร้อมจะแตกในกางเกงอยู่รอมร่อ สัมผัสจากหน้าอกของหล่อนที่แนบชิดกับอกผมมันเกินกว่าที่ผมจะทนไหว ระหว่างทางไปห้องน้ำ ผมดึงกางเกงยีนส์ของตัวเอง ผมเลือกตัวนี้เพราะมันโชว์ไอ้หนูของผมตอนที่มันอ่อนตัวได้เป็นอย่างดี ผมไม่ใช่คนไซส์ใหญ่อะไร แต่ก็มีมากพอที่จะทำให้ผู้หญิงทุกคนที่ผมเคยนอนด้วยพึงพอใจได้ ตอนที่มันกึ่งแข็งกึ่งอ่อน กางเกงยีนส์ตัวนี้ยิ่งทำให้ผมดูน่าอร่อยขึ้นไปอีก ผมไม่เคยแข็งเต็มที่ตอนใส่กางเกงตัวนี้มาก่อน และตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนควยผมกำลังโดนบีบรัด ทันทีที่ปิดประตู ผมก็กระชากกางเกงลงจนกระดุมขาดด้วยความต้องการที่จะแตกอย่างสุดกลั้น

“เวรเอ๊ย!” ผมคำรามขณะเริ่มชักควยตัวเองอย่างรวดเร็ว

ผมหลับตาลงขณะนึกถึงท่วงท่าที่แอนนี่ขยับตัวบนฟลอร์เต้นรำที่บาร์ ผมกัดริมฝีปากขณะจดจ่ออยู่กับภาพหน้าอกของหล่อนที่กระเพื่อมไหวตอนที่หล่อนส่ายตัว ให้ตายสิ ผมยอมแลกทุกอย่างเพื่อให้ได้สัมผัสบั้นท้ายของหล่อนที่บดเบียดอยู่กับผมขณะที่ผมกุมสะโพกหล่อนไว้ ผมหายใจหอบสั่นขณะที่ควยในมือผมมันเต้นตุบๆ

“เวรเอ๊ย! แอนนี่!” ผมครางลั่นขณะที่กำขอบอ่างล้างหน้าแน่นขึ้น

“เจอร์รี่!”

ผมตัวแข็งทื่อเมื่อได้ยินเสียงหล่อนครางชื่อผมออกมาอย่างหอบกระเส่า เมื่อหล่อนครางชื่อผมอีกครั้ง ผมก็สูดอากาศอย่างระแวดระวัง และกลิ่นความเงี่ยนของแอนนี่ก็แรงขึ้นเรื่อยๆ ฉิบหายล่ะ ผมย่องกลับไปที่ประตูทั้งที่ยังสาวแก่นกายตัวเองอยู่ ผมแง้มประตูออกกว้างพอที่จะเห็นหล่อนอยู่บนผ้าห่มในสภาพขาถ่าง ผมแทบลืมหายใจเมื่อเห็นหล่อนใช้นิ้วกับตัวเองทั้งที่ยังหลับ แผ่นหลังของหล่อนแอ่นโค้งขึ้นชั่วขณะตอนที่ครางชื่อผมอีกครั้งก่อนจะพลิกตัวมาขย่มนิ้วของตัวเอง ควยผมแข็งขึ้นอีกเมื่อเห็นบั้นท้ายของหล่อนเด้งขึ้นลงในอากาศขณะที่หล่อนกระแทกนิ้วให้ลึกเข้าไปในตัวเอง เวรเอ๊ย! ผมอยากจะขย้ำบั้นท้ายอวบอิ่มนั่น

ผมเปิดประตูให้กว้างขึ้นเพื่อจะได้เห็นร่างกายของหล่อนชัดเจนกว่าเดิม ความรู้สึกผิดแล่นวาบขึ้นมาเพียงเล็กน้อยก่อนจะถูกแทนที่ด้วยความสุขสมเมื่อลูกอัณฑะของผมเริ่มตึงเปรี๊ยะ เสียงครางแผ่วเบาทุกครั้งของหล่อนทำให้ควยผมแข็งขึ้นไปอีก ผมไม่เคยเงี่ยนขนาดนี้มาก่อนในชีวิต ผมอยากจะกระแทกตัวเองเข้าไปในหีเล็กๆ คับๆ ของหล่อนให้ลึกจนสุด เมื่อหล่อนแทบจะกรีดร้องเรียกชื่อผมขณะที่กลิ่นตอนที่หล่อนถึงจุดสุดยอดฟุ้งไปในอากาศ ผมก็หันขวับไปพ่นน้ำของผมใส่อ่างล้างหน้า ครางเสียงดังลั่นขณะที่ศีรษะเอนไปด้านหลัง

แรงถึงจุดสุดยอดทำให้ร่างกายผมสั่นสะท้านจนต้องคว้ากำแพงไว้เพื่อพยุงตัวให้ยืนอยู่ได้ขณะที่ยังคงชักควยต่อไปเพื่อรีดน้ำกามที่เหลือออกมาให้หมดลงในอ่าง ผมหลับตาลงขณะที่ร่างกายยังคงซึมซับความสุขสม เมื่อร่างกายเริ่มสงบลงในที่สุด ผมก็ปล่อยให้คางตกชิดอก ฉิบหายแล้ว ผมซวยแล้ว ไม่ว่าผมจะนอนกับผู้หญิงกี่คนเพื่อพยายามจะลืมหล่อน ก็ไม่มีใครเทียบหล่อนได้เลยสักคน แค่ได้เห็นหล่อนสัมผัสตัวเองก็ทำผมแทบคลั่งได้มากกว่าคู่นอนทุกคนของผมรวมกันเสียอีก

ผมรีบล้างเนื้อล้างตัวก่อนจะเปิดน้ำล้างอ่างให้สะอาด ผมดึงบ็อกเซอร์ขึ้นก่อนจะหยิบกางเกงจากพื้นแล้วเดินกลับออกไปที่ห้องหลัก ผมเหลือบมองหล่อนก่อนจะถอดเสื้อออก ผมดีใจที่เห็นว่าหล่อนสงบลงแล้วและกลับไปหลับลึกอีกครั้ง สายตาผมเลื่อนลงไปยังร่างกายที่ยังคงเปลือยเปล่าของหล่อนก่อนจะเดินไปหาเพื่อดึงผ้าห่มคลุมให้ ผมไม่อาจมองบั้นท้ายงดงามของหล่อนต่อไปได้อีกแล้ว แค่นี้ผมก็อยากจะรู้แล้วว่าผิวขาวเนียนละเอียดราวกับครีมของหล่อนจะนุ่มแค่ไหน ผมอยากจะรู้ว่าหล่อนมีกระที่อื่นอีกไหมนอกจากบนใบหน้า ผมสางนิ้วเข้าไปในเรือนผมของหล่อน มันนุ่มสลวยยิ่งกว่าที่ผมจำได้เสียอีก

“โธ่เว้ย แอนนี่! พี่อยากให้เรามีสักคืนด้วยกันจริงๆ”

บทก่อนหน้า
บทถัดไป