ท้าทายซึ่งกันและกัน
ท้องไส้ฉันปั่นป่วนไปหมด ฉันครางออกมาขณะพลิกตัวนอนหงาย ฉันจะไม่ดื่มหนักขนาดนั้นอีกแล้ว ฉันจ้องมองเพดานแปลกตาเหนือศีรษะ นี่ฉันมาอยู่ที่ไหน แล้วเมื่อคืนมันเกิดบ้าอะไรขึ้นวะเนี่ย เตียงยวบลงเมื่อใครบางคนพลิกตัวมาทางฉัน ปากฉันอ้าค้างเมื่อสบเข้ากับดวงตาสีเทาของพี่ชาย
“พี่เจอร์รี่เหรอ” ฉันถามอย่างตกใจ
“อรุณสวัสดิ์ แอนนี่” เขาตอบกลับอย่างใจเย็น
ฉันลุกพรวดขึ้นนั่ง อากาศเย็นเฉียบสัมผัสยอดอกเปลือยเปล่าของฉัน ฉันรีบดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดหน้าอกแล้วกระโดดลงจากเตียงทันทีพร้อมกับพันผ้าห่มรอบตัว ฉันจ้องเขาที่นอนอยู่บนเตียง เอาศีรษะหนุนมือในสภาพที่สวมเพียงบ็อกเซอร์ตัวเดียว ฉันดึงผ้าห่มออกห่างเล็กน้อยเพื่อก้มมองร่างกายที่เปลือยเปล่าของตัวเอง ใบหน้าฉันร้อนผ่าวและถอยหลังไปอีกก้าว ฉันอ้าปากแล้วก็หุบอยู่หลายครั้งขณะที่เขามองมาอย่างขบขันเห็นได้ชัด
“เรามีอะไรกันรึเปล่า” ฉันโพล่งถามออกไป
ฉันรู้ว่านั่นเป็นเหตุผลสำคัญที่ฉันมาหาเขา แต่ฉันก็ไม่แน่ใจว่าตัวเองพร้อมแล้วหรือยัง
เขาเลิกคิ้วข้างหนึ่งแล้วหัวเราะเบาๆ “ไม่หรอก แอนนี่ ตอนที่พี่ไปดื่มที่คลับแล้วเห็นท่าเต้นของเธอกับเจ้าหมาป่าตัวนั้น พี่เลยเข้าไปห้าม พี่พาเธอมาที่นี่แล้วจับเธอนอนบนเตียงนั้น” เขาพูดพลางชี้ไปที่เตียงอีกหลังในห้องพักโรงแรม “แต่เธอก็ดิ้นไปดิ้นมาทั้งคืนจนกระทั่งเมื่อประมาณสามชั่วโมงที่แล้ว เธอก็คลานมาที่เตียงพี่ ในที่สุดเธอก็หลับไปจนกระทั่งเมื่อกี้นี้แหละ”
“แล้วทำไมพี่ถึงใส่แค่บ็อกเซอร์ล่ะ แล้วฉันเปลือยได้ยังไง”
เขากรอกตาขณะลุกขึ้นนั่ง “พี่นอนแบบนี้อยู่แล้ว แอนนี่” เขาชี้ไปทางร่องรอยเสื้อผ้าที่กองจากเตียงอีกหลังมายังเตียงของเขา “เธอถอดเสื้อผ้าของเธอเอง”
ฉันกัดริมฝีปากอย่างประหม่า “ทำไมพี่ไม่ย้ายไปนอนเตียงโน้นล่ะ”
“เธอก็คงตามพี่ไปอยู่ดี แล้วเราก็คงต้องมาคุยกันเรื่องนี้อยู่ดีนั่นแหละ” เขาว่า
“แล้วเราก็ไม่ได้มีอะไรกันเหรอ”
“ไม่ มีเรื่องเกิดขึ้นเยอะแยะ แต่ไม่ใช่เรื่องนั้น เธอเมา พี่ไม่ได้เมา ที่จริงพี่หงุดหงิดมากด้วยซ้ำที่เมื่อคืนต้องมาคอยดูแลเธอ พี่มีแผนอื่นต้องทำ”
ฉันจ้องหน้าเขา “ไม่มีใครขอให้พี่ทำนี่”
เขาแยกเขี้ยวใส่ฉัน “พี่จะดูแลเธอเสมอ”
“แล้วเราก็ไม่ได้มีอะไรกันแน่นะ”
เขาครางออกมาพลางตบหน้าผากตัวเอง “รอบที่สามแล้วนะ แอนนี่ ไม่ เราไม่ได้มีอะไรกัน”
ฉันจ้องหน้าเขาอยู่ครู่หนึ่ง พยายามตัดสินใจว่าจะเชื่อเขาดีหรือไม่ ถ้าเราไม่ได้มีอะไรกัน แล้วทำไมเขาถึงดูพอใจนักที่ร่างกายเปลือยเปล่าของฉันเบียดชิดเขาตอนที่เราหลับ แล้วฉันก็คิดออก เขาบอกว่ามีเรื่องเกิดขึ้น ซึ่งทำให้ฉันสงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ฉันเลียริมฝีปากอย่างประหม่าขณะที่มาร์ชาส่งเสียงครางอย่างพอใจในหัวของฉัน
‘แกทำอะไรลงไป!’ ฉันตวาดใส่หล่อนในหัว
‘ก็ทำในสิ่งที่แกไม่กล้าทำไง’ หล่อนตอบกลับอย่างเหนือกว่า ทำให้ฉันต้องครางออกมา
‘เรามีอะไรกับพี่เจอร์รี่รึเปล่า’ ฉันถามหล่อน เสียงสั่นเล็กน้อยด้วยความตื่นตระหนก
‘ไม่ เขาไม่ยอมทำแบบนั้นถ้าแกไม่อนุญาต’
ฉันถอนหายใจอย่างโล่งอกพลางชำเลืองมองเขา
“แล้วเราทำอะไรกันบ้าง” ฉันเอ่ยถามเสียงแผ่ว
“พี่ใช้นิ้วให้เธอ แล้วก็เลียให้เธอ” เขาพูดช้าๆ “แล้วมาร์ชาก็อาจจะ... ออรัลให้พี่ด้วย”
ปากฉันอ้าค้างด้วยความตกตะลึงขณะที่ใบหน้าแดงก่ำ มาร์ชาทำอะไรนะ โอ้ พระแม่เจ้า หล่อนเป็นบ้าอะไรไปแล้วเนี่ย ฉันถอยหลังไปอีกก้าวเมื่อความรู้สึกอยากหนีพุ่งสูงขึ้น ฉันอับอายกับการกระทำของมาร์ชา ฉันก้มหน้าลงแล้วถอยหลังไปอีกก้าว
“แอนนี่” เขาพูดเสียงนุ่ม “อย่าหนีไปเลยนะ แอนนี่ พี่พยายามต้านมาร์ชาแล้วนะ พี่พยายามแล้วจริงๆ ได้โปรดเชื่อพี่นะ”
“ฉันยังไม่พร้อมจะมีเซ็กส์” ฉันกระซิบอย่างอายๆ
เขาสางผมอย่างหัวเสีย “พี่รู้ว่าเธอยังไม่พร้อม นั่นคือเหตุผลที่พี่ไม่ยอมให้มาร์ชามอบร่างกายของเธอให้พี่”
“ฉันกลัวค่ะ พี่เจอร์รี่ ฉันอยากอยู่กับพี่นะคะ อยากจริงๆ แต่ว่ามัน...”
“ไม่เป็นไร แอนนี่ เธอไม่ต้องอธิบายอะไรให้พี่ฟัง แค่เพราะพี่ได้ชิมเธอไปแล้ว ไม่ได้หมายความว่าพี่จะกดดันเธอนะ”
“แล้วถ้ามันไม่เกิดขึ้นเลยล่ะคะ”
“มันก็แค่ไม่เกิดขึ้น ไม่ว่ายังไง พี่ก็จะไม่ปล่อยเธอไป พี่ทำไม่ได้” เขาบอกฉัน
“แล้วพี่จะมาแตะต้องตัวฉันตอนหลับอีกรึเปล่าคะ”
“พี่จะพยายามไม่ทำ มันยากที่จะหักห้ามใจไม่ให้แตะต้องเธอ เธอน่ะสวยมากสำหรับพี่” เขายอมรับ
มือของฉันที่กำผ้าห่มอยู่เกร็งขึ้นขณะครุ่นคิดถึงคำพูดของเขา ก่อนจะสบตาเขาแล้วปล่อยให้ผ้าห่มร่วงลงสู่พื้น ฉันต้องรู้ให้ได้ว่าเขาจะทำได้ไหม สายตาของเขาจับจ้องอยู่ที่ฉันไม่วางตาขณะที่ฉันคลานกลับขึ้นไปบนเตียงแล้วนั่งคุกเข่าอยู่ข้างๆ เขา ฉันวางมือที่สั่นเทาลงบนหน้าอกของเขาตรงตำแหน่งหัวใจขณะโน้มตัวลงไปประทับริมฝีปากกับเขา เขาปล่อยให้มันดำเนินไปอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะไล้นิ้วไปตามกระดูกไหปลาร้าของฉัน แล้วปล่อยให้มือเลื่อนขึ้นไปตามลำคออย่างเชื่องช้าเพื่อจับคางของฉันไว้ เขาหันหน้าฉันออกจากเขา เป็นการหยุดจูบแผ่วเบาของฉัน ริมฝีปากของเขาเคลื่อนผ่านแนวกรามขึ้นไปยังใบหู
“ไปแต่งตัวซะ แอนนี่ ถึงเธอจะเป็นน้องสาวของพี่ และองค์เทพีก็คงไม่พอพระทัยกับความรู้สึกที่พี่มีให้เธอ แต่พี่ก็ยังเป็นผู้ชายเต็มตัว และเธอก็มานอนเปลือยกายอยู่บนเตียงของพี่ เด็กน้อย” เขาคำราม
ฉันตัวสั่นกับคำมั่นที่แฝงในน้ำเสียงของเขา ฉันเลียริมฝีปาก “พี่คิดว่าฉันน่าปรารถนาจนต้านทานไม่ไหวเลยเหรอคะ”
“ใช่”
“แต่เราเป็นพี่น้องกันนะคะ” ฉันกระซิบเสียงสั่น
ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วเกินไปจนฉันต้องหาอะไรยึดเหนี่ยวไว้ก่อนที่จะคุมตัวเองไม่อยู่ เขาคว้าข้อมือฉันแล้วลากลงไปตามร่างกายแข็งแกร่งของเขา ฉันพยายามกลืนก้อนแข็งๆ ในลำคอ ขณะที่ร่างกายบิดเร่าด้วยความคาดหวังและปรารถนา เขาหยุดมือฉันไว้เหนือช่วงเชิงกราน ที่ซึ่งกล้ามท้องเป็นลอนของเขาสั่นระริกใต้สัมผัสของฉัน และแก่นกายที่กำลังเต้นตุบๆ ก็ฟาดกับหลังมือฉันเบาๆ
“พี่ว่าร่างกายของพี่ไม่สนความจริงข้อนั้นเท่าไหร่หรอกนะตอนนี้” เขาบอกเสียงห้าว “พูดกันตามตรง... พี่เองก็ไม่สนเหมือนกัน”
ฉันหลับตาลงชั่วครู่ “พี่กำลังจะบอกว่าอะไรคะ”
เขาปล่อยคางฉันก่อนจะปีนลงจากเตียงไปยืนอยู่ข้างๆ แล้วมองลึกเข้ามาในตาของฉัน
“พี่กำลังจะบอกว่า ถ้าเธอไม่ยอมใส่เสื้อผ้า พี่จะจับเธอกดลงบนเตียงนี่แล้วกระแทกเธอให้หนักจนเดินไม่ไหวเลยล่ะ ฉะนั้น ทำเพื่อเราทั้งคู่เถอะ... ไปแต่งตัวซะ”
“เราเป็นพี่น้องกัน...” ฉันย้ำ ทั้งที่พยายามนึกอย่างหนักว่าทำไมเรื่องนั้นถึงได้สำคัญจนต้องยกมาเป็นข้ออ้าง
เขาคำรามขณะที่ดวงตาไล่มองไปทั่วร่างของฉัน “เธอมีเวลาห้าวินาทีที่จะหาอะไรมาปิด แอนนี่”
“หรือจะทำไมคะ” มาร์ชากระตุ้นให้ฉันท้าทายเขา ทำให้ฉันหน้าแดงยิ่งกว่าเดิม
เขาโน้มตัวข้ามเตียงเข้ามาจนใบหน้าเราแทบชิดกัน “หรือพี่จะฝังแก่นกายเข้าไปในช่องสวาทของเธอให้ลึกจนลืมไปเลยว่าเราเป็นอะไรกัน” เขาเหยียดตัวตรงอีกครั้ง “1” ฉันกลืนน้ำลายอึกใหญ่ “2” ฉันสบตาเขาอีกครั้ง รู้สึกกล้าขึ้นมาวูบหนึ่ง “3” ฉันเหลือบมองเสื้อผ้าบนพื้น “4” ฉันมองกลับเข้าไปในดวงตาต้องมนตร์ของเขา “5”
ฉันพยายามถอยหนี แต่ในขณะเดียวกันเขาก็พุ่งข้ามเตียงมา ฉันถูกรวบเอวแล้วเหวี่ยงกลับลงบนเตียง ฉันดันมือยันไหล่ของเขาไว้
“เราเป็นพี่น้อง— อ๊า” ฉันครางเมื่อเขากระแทกเข้ามา
ขาของฉันเกี่ยวรอบเอวสอบของเขาขณะยกสะโพกขึ้นรับแรงกระแทกอันทรงพลังอย่างบ้าคลั่งของเขาอย่างช่วยไม่ได้ เขาจับสะโพกฉันยกขึ้นเพื่อให้ตัวเองดันเข้ามาได้ลึกกว่าเดิม หลังของฉันแอ่นโค้ง และเขาก็ลดปากลงมาครอบครองยอดถันที่แข็งเป็นไตของฉัน
“ดีมาก แอนนี่ รับพี่เข้าไป รับเข้าไปให้หมด” เขาสั่งขณะที่นิ้วของเขาสอดประสานกับนิ้วของฉัน ก่อนจะจับมือกดไว้ข้างศีรษะ “เด็กดี ที่รัก”
เขากลับไปประทับจูบพร่างพรมไปทั่วผิวเนื้อขณะที่เราโยกกายเข้าหากัน ฉันคราง ส่วนเขาก็คำรามอยู่บนผิวเนื้อของฉัน ปลุกเร้าความสุขสมของฉันให้พุ่งสูงจนเจ็บปวดด้วยก้อนความรู้สึกที่เกร็งแน่นอยู่ภายในท้องน้อย ช่องสวาทของฉันตอดรัดรอบแก่นกายของเขา และเขาก็ตอกกระแทกเข้ามาหนักขึ้น หอบหายใจเรียกชื่อฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“แอนนี่!”
หลังของฉันแอ่นมากขึ้นขณะที่ดวงตาปิดแน่นตอนที่ร่างกายของฉันระเบิดออกรอบตัวเขา ขาของฉันยกสูงขึ้นไปบนหลังของเขา และเขาคำรามออกมาขณะดึงฉันลงมารับเขามากขึ้นเพื่อให้สามารถปลดปล่อยเมล็ดพันธุ์เข้ามาในตัวฉันได้ เขาโน้มลงมาจูบฉันก่อนจะถอนกายออกไปช้าๆ เขานอนลงข้างๆ ขณะที่ฉันได้แต่นอนจ้องเพดานอย่างตกตะลึง
“เอ่อ... เรื่องเมื่อกี้เพิ่งเกิดขึ้นสินะ” ฉันพูดติดตลกกลบเกลื่อน
เขาหัวเราะเบาๆ ขณะเอนหลังพิงหัวเตียงแล้วยกแขนพาดตา “ใช่แล้วล่ะ เธอยังคุมกำเนิดอยู่ใช่ไหม บอกพี่ที”
ฉันหน้าแดงแต่ก็พยักหน้า “หนูไปซื้อยาคุมฉุกเฉินมากินก็ได้ค่ะ”
เขาหันหน้ามามองฉัน “อืม แต่หลังจากนี้”
“หลังจากนี้? หมายความว่ายังไงคะหลังจากนี้”
เขาดึงฉันขึ้นไปคร่อมทับเขาจนฉันอยู่ในท่านั่งทับ เขาเอื้อมมือมาที่หว่างขาของเราแล้วถูไถแก่นกายของเขาไปตามกลีบเนื้อของฉัน
“หลังจากที่พี่เสร็จธุระกับเธอแล้วไง”
ตาฉันเบิกกว้าง “พี่ล้อเล่นแน่ๆ”
เขาดันตัวสวนขึ้นมาขณะที่ดวงตาของเขาเข้มขึ้น “พี่ว่าเธอน่าจะรู้สึกได้นะว่าพี่จริงจังแค่ไหน”
ฉันเอนศีรษะไปด้านหลังขณะที่เล็บของฉันลากไล้ลงไปตามหน้าอกและหน้าท้องของเขา “เจอร์รี่!”
มือของเขาโอบอุ้มทรวงอกของฉัน “แอนนี่” เขาคำรามขณะกระแทกสวนขึ้นมาอีกครั้ง
“อย่าหยุดนะ” ฉันร้องออกมาขณะที่ขย่มสะโพกเร็วขึ้น
เขาสบถออกมาเบาๆ แล้วใช้แขนรวบเอวฉันไว้แน่นขณะที่เริ่มใช้นิ้วคลึงวนที่ปุ่มกระสันของฉัน
“ไม่มีทางหรอก แอนนี่น้อยของพี่ เอาล่ะ เป็นเด็กดีแล้วครางให้พี่ฟังหน่อย”
เขาดึงฉันลงมาจูบก่อนจะพลิกตัวให้ฉันกลับไปอยู่ใต้ร่างเขาอีกครั้ง ทำให้ฉันกรีดร้องออกมากับการเคลื่อนไหวที่กะทันหันของเขา
“เจรัลด์!”
มือของเขาบีบรอบลำคอฉันเบาๆ และนิ้วของเขาก็ไล้ไปตามแนวกราม “เด็กดี”
