บทที่ 8 บทที่ 8
เมื่อรถแท็กซี่แล่นไปจอดหน้าคฤหาสน์หลังงาม รดาดาวก็ยื่นค่าโดยสารให้คนขับและก้าวลงจากตัวรถ พ่อบ้านของคฤหาสน์โค้งศีรษะให้เพราะจำเธอได้ สาวน้อยยิ้มตอบแล้วบอกถึงวัตถุประสงค์การมาของตัวเอง
“สวัสดีค่ะดิฉันมาขอพบคุณป้าจูเลียค่ะ”
“มาดามไม่อยู่ครับมิส อยู่แต่คุณเอเดน เดี๋ยวผมไปเรียนท่านให้นะครับ”
เรียวปากสีระเรื่อกำลังจะขยับบอกว่าไม่ต้องไปแต่ก็ไม่ทัน เพราะพ่อบ้านก้าวไปถึงห้องโถงของคฤหาสน์เรียบร้อยแล้ว ครั้นจะหนีกลับเลยก็ดูเสียมารยาทเกินไป และรู้ดีว่าถ้าทำเช่นนั้นต้องถูกผู้เป็นอาตำหนิเอาแน่ๆ รดาดาวจึงได้แต่ยืนรอ
เบนจามินหายไปครู่หนึ่งก็กลับมาบอกกับสาวน้อยที่ยืนถือกล่องขนมรออยู่หน้าคฤหาสน์ด้วยน้ำเสียงสุภาพเช่นเดิม
“คุณเอเดนเชิญมิสไปพบที่ห้องนั่งเล่นครับ เดี๋ยวผมจะพาไป”พ่อบ้านผายมือ และเดินนำหน้าเข้าไปข้างใน ทำให้รดาดาวจำต้องเดินตามหลังอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง
ห้องนั่งเล่นของคฤหาสน์โกลเดนกรีนถูกตกแต่งให้มีบรรยากาศชวนสบาย โดยในห้องนั้นทาสีขาว บนเพดานประดับด้วยโคมไฟระย้าแบบทันสมัย เฟอร์นิเจอร์เป็นโทนสีขาว-ดำ เข้ากับสีของห้องอย่างลงตัว มีโทรทัศน์ระบบเอชดีและเครื่องเสียงราคาแพงลิบลิ่วสำหรับสร้างความบันเทิงอย่างครบครัน
“มิสมาแล้วครับคุณเอเดน” พ่อบ้านบอกกับเจ้านายหนุ่มของตน
“อืม” ร่างสูงซึ่งกำลังไล่นิ้วกดรีโมตเปลี่ยนช่องโทรทัศน์ช่องนั้นช่องนี้ไปเรื่อยๆ ตอบรับสั้นๆ และโบกมือเป็นเชิงบอกพ่อบ้านว่าไม่ต้องการอะไรแล้ว เบนจามินจึงเดินเลี่ยงออกไปอย่างรู้หน้าที่
สาวน้อยขยับตัวอย่างเกร็งๆ เมื่อต้องอยู่ตามลำพังสองต่อสองกับผู้ชายมากเสน่ห์ในที่รโหฐานแบบนี้ เธอบอกตัวเองให้รีบทำภารกิจให้เสร็จ แล้วลาเขากลับบ้านไปเสีย ไม่อย่างนั้นอาจจะถูกเล่นงานเอาได้
“อาชมให้นิ่มเอาลูกชุบมาให้คุณป้าจูเลียค่ะ”
เขาปิดโทรทัศน์ ก่อนจะหันมามองใบหน้าสวยหวานนั้นอย่างจริงจัง “แม่ไม่อยู่หรอกนะ”
“ค่ะเมื่อกี้พ่อบ้านบอกนิ่มแล้ว ถ้าอย่างนั้นนิ่มฝากลูกชุบไว้ให้คุณป้าจูเลียด้วยนะคะ และก็คงจะรบกวนคุณแค่นี้”
รดาดาววางกล่องขนมไว้บนโต๊ะแล้วบอกลาเจ้าของคฤหาสน์พร้อมกับยกมือขึ้นไหว้เสร็จสรรพ เพราะไม่กล้าจะยื่นมือไปให้เขาจับตามธรรมเนียมฝรั่ง
ร่างอรชรรีบหมุนตัว กำลังจะก้าวออกจากห้องนั้น แต่กลับถูกเสียงห้าวทุ้มขัดขึ้นเสียก่อน
“เดี๋ยวก่อนสิ ผมจะรู้ได้ยังไงว่าขนมนี่ปลอดภัยสำหรับแม่ผม”
“คุณจะลองชิมก่อนก็ได้นะคะ” เสียงหวานตอบกลับเรียบๆ รู้ว่าเขาตั้งใจรวน
“ตกลง...ผมจะชิมก่อน แต่คุณต้องกลับมานั่งลงและรอจนกว่าผมจะชิมเสร็จ” เอเดนยื่นคำขาดทันที
“ก็ได้ค่ะ นิ่มจะรอจนกว่าคุณจะเห็นว่าขนมของนิ่มปลอดภัย” ว่าแล้วร่างอรชรก็ทรุดตัวนั่งลงที่โซฟาอีกตัว
“เปิดกล่องออกสิ” เสียงห้าวทุ้มนั้นออกคำสั่งในแบบวางอำนาจอย่างที่เขาชอบทำอยู่เป็นนิจ
รดาดาวจึงทำตามความต้องการของเขาโดยไม่คิดจะตอบโต้ เพราะถ้าต่อความยาวสาวความยืดก็รังแต่จะทำให้เสียเวลามากขึ้นเปล่าๆ มือบางแกะฝากล่องออกอย่างระมัดระวัง และนึกได้ว่าในกล่องไม่มีส้อมหรือไม้สำหรับจิ้มลูกชุบเพราะเธอไม่ได้เตรียมมา
“นิ่มขออนุญาตไปหยิบส้อมก่อนนะคะ”
“ไม่ต้องใช้ส้อม ใช้มือของคุณหยิบมันแล้วป้อนใส่ปากผม”
“คุณว่าอะไรนะคะ!” สาวน้อยเบิกตาโพลง
“คุณได้ยินไม่ผิดหรอกรดาดาว” เอเดนย้ำชัด “ขยับมานั่งข้างๆ ผมแล้วก็ทำตามที่ผมบอก”
เจ้าของร่างอ้อนแอ้นจำต้องพาตัวเองย้ายมานั่งข้างๆ ร่างสูงที่นั่งเอนตัวพิงโซฟาแบบสบายๆ หัวใจดวงน้อยเต้นแรงระทึกดุจจะโลดออกมานอกทรวงเสียให้ได้ เพราะรัศมีความเป็นบุรุษเพศที่ผสมผสานด้วยกลิ่นน้ำหอมชั้นเลิศแผ่ซ่านมากระทบทุกประสาทสัมผัสของเธอจนรู้สึกร้อนผะผ่าวเหมือนกำลังจับไข้
รดาดาวรวบรวมความกล้า เอื้อมมือที่สั่นน้อยๆ ไปหยิบเอาลูกชุบสีเขียวที่ทำเป็นรูปแอปเปิล แล้วยื่นไปใกล้ปากของเขา
เอเดนรวบมือเล็กบางนั้นไว้ ดวงตาสีฟ้าฉายประกายกรุ้มกริ่มแพรวพราว ก่อนจะอ้าปากรับขนมชิ้นนั้นเข้าไปแล้วค่อยๆ เคี้ยว โดยที่ไม่ยอมปล่อยมือของเธอให้เป็นอิสระแต่อย่างใด
“เป็นยังไงบ้างคะ” เสียงหวานเอ่ยถามหลังจากที่เอเดนกลืนขนมคำนั้นลงคอ แต่ไม่กล้าดึงมือออกจากการเกาะกุมของเขา
“ก็หวานใช้ได้ แต่ไอ้ที่ติดอยู่บนนิ้วของคุณน่าจะหวานกว่า”
“คะ?”
คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันเป็นเชิงสงสัย แต่เพียงพริบตาเดียวก็ต้องนั่งตัวแข็ง เมื่อเอเดนยกมือเธอขึ้น แล้วอ้าปากร้อนครอบลงบนนิ้วโป้งที่ใช้หยิบขนม ก่อนจะขยับปากรูดเข้าขึ้นลงอย่างแผ่วเบาคล้ายกำลังลิ้มเลียเอาความหวานที่ติดอยู่บนนิ้วของเธอออกให้หมดจดจากนั้นก็เปลี่ยนไปทำเช่นเดียวกันกับนิ้วชี้ของเธอแต่อ้อยอิ่งมากกว่าหลายเท่า เขาทำเหมือนนิ้วของเธอเป็นไอศกรีมแท่งโปรดที่ต้องค่อยๆ ละเลียดกิน
ดวงตาเรียวหวานจดจ้องมองภาพนั้นด้วยความรู้สึกวาบหวามเกินจะบรรยาย อาการซ่านสยิวขมวดเกร็งขึ้นในท้องน้อยและแล่นพล่านไปทั่วทุกอณูกายของเธออย่างรุนแรงจนเกือบหลุดเสียงครางออกมา แต่ก่อนที่รดาดาวจะขายหน้าเอเดนก็หยุดการกระทำของเขาเสียก่อน
“คราวนี้รู้แล้วว่าอร่อยและปลอดภัยแค่ไหน” เสียงของเพลย์บอยตัวพ่อดังขึ้นหลังจากเลาะเล็มเอาความหวานออกจากนิ้วนุ่มจนหมดทุกหยาดหยด
“ถ้าอย่างนั้นนิ่มกลับได้แล้วใช่ไหมคะ”
“ยัง”
“คุณต้องการอะไรอีกคะ”
“อ้าปาก ผมอยากให้คุณชิมขนมของตัวเองบ้าง” พูดจบเอเดนก็เอื้อมมือไปหยิบลูกชุบขึ้นมาจ่อที่ปากเล็กๆ ของเธอ
สาวน้อยคิดว่าเขาต้องบ้าแน่ๆ ที่ทำแบบนั้น หัวใจของเธอยังเต้นผิดจังหวะอยู่เลยจากที่ป้อนขนมให้เขาเมื่อสักครู่ แล้วตอนนี้เขาจะบังคับให้เธอกินขนมโดยเขาเป็นคนป้อน คนเจ้าเล่ห์ต้องอยากให้เธอหัวใจวายตายแน่ๆ ถึงได้แกล้งกันเช่นนี้
