บทที่ 6 ถอนหมั้น
วันเวลาผ่านพ้นไปอย่างยากลำบาก การปรับตัวเพื่ออยู่ในร่างของคนอื่นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายอยู่แล้ว ยิ่งต้องมาอยู่ในต่างภพชาติที่แทบจะไม่มีอะไรให้ทำ วันๆ หมดไปอย่างไร้จุดหมาย ความเป็นถงหลานเฟยค่อยๆ กลืนกินดวงจิตของผู้อาศัยร่างอย่างช้าๆ ความทรงจำของเธอถูกเลือนหายและแทนที่ด้วย ความทรงจำที่สุดแสนจะน่าเวทนา ของหญิงสาวผู้อาภัพ
"คุณหนูเจ้าคะ ท่านแม่ทัพกลับมาถึงแล้วนะเจ้าคะ เย็นนี้เชี่ยนหลานบ่าวของคุณหนูเจินบอกว่าให้เชิญคุณหนูไปร่วมทานมื้อค่ำที่ลานกว้างหน้าจวนเจ้าค่ะ" หญิงชราบอกกับผู้เป็นนาย ในหัวของถงหลานเฟยนั้นไม่มีเรื่องอื่นเลย คิดแต่จะถอนหมั้น
"ข้าไปหาเขาได้หรือไม่ หมายถึงแม่ทัพน่ะ"
"ตอนนี้ท่านแม่ทัพเข้าเฝ้าฮ่องเต้เจ้าค่ะ น่าจะใช้เวลานานพอสมควร ไม่แน่กลับออกมาอาจจะถึงเวลามื้อค่ำพอดี" แม้จะไม่ถูกใจคำตอบ แต่คนฟังก็พยักหน้ารับอย่างเข้าใจ
"แล้วคนรักของแม่ทัพที่ติดตามเขาไปล่ะ ตอนนี้อยู่ที่ไหน" คนถูกถามมุ่นคิ้วงุนงง ปกติแล้วเจ้านายของตนไม่เคยสนใจหรือถามไถ่ถึงสตรีผู้นี้เลยสักครั้ง ยิ่งเพิ่งจะผ่านเหตุการณ์ที่นางทำร้ายหมายเอาชีวิตมา ไม่น่าจะไปอยากรับรู้เรื่องราวของอีกฝ่าย ทำไมถึงได้นึกสนใจขึ้นมา
"น่าจะอยู่ที่เรือนของนางเจ้าค่ะ คุณหนูเจินแยกให้นางออกไปอยู่ท้ายจวนห่างจากเรือนใหญ่มาก ตั้งแต่จับได้ว่านาง เข้ามาหาเรื่องคุณหนูเมื่อหลายเดือนก่อน" ผู้เป็นนายเข้าใจทันทีว่าทำไมชุนเหยียนถึงได้ทำสีหน้าตื่นตกใจ เมื่อเธอเอ่ยถึงคนรักของแม่ทัพ 'คงจะทำกับฉันเอาไว้เยอะสินะ' เธอครุ่นคิดในใจ
ลำพังชุนเหยียนที่แก่ชราขนาดนี้ ก็คงปกป้องอะไรเธอไม่ได้ ตัวเธอเองก็ตัวเล็กและดูเปราะบางมาก ยิ่งหนิงเซียงเป็นคนรักของแม่ทัพก็คงจะมีอำนาจมากพอจะปิดปากชุนเหยียนไม่ให้ฟ้องใครได้ แบบนี้สินะองค์เทพถึงได้บอกว่าให้ปกป้องเจ้าของร่าง
"ข้าถูกนางเข้ามาหาเรื่องบ่อยเหรอ" คำถามจากผู้เป็นนายสร้างความอึดอัดให้กับชุนเหยียนไม่น้อย เธอจำได้ดีว่าทุกครั้งที่ถงหลานเฟยถูกหนิงเซียงเข้ามาหาเรื่องรังแก เจ้าตัวจะเอาแต่ร้องไห้ หวาดกลัวจนไม่ออกจากเรือนไปไหน หากไม่ใช่คุณหนูเจินตามให้ออกไปช่วยทำอะไร ก็จะเอาแต่เก็บตัวด้วยความหวาดกลัว
หนิงเซียงเป็นสาวชาวบ้าน ที่เติบโตมาบนพื้นที่สงคราม เธอแกร่งราวกับเป็นบุรุษคนหนึ่ง มีทักษะการต่อสู้เอาตัวรอด ขี่ม้าได้คล่องแคล่ว ล่าสัตว์เก่งเป็นที่ถูกใจแม่ทัพเจินมาก เพราะได้ทำเรื่องสนุกร่วมกันกับคนรัก แม้ว่าความงดงามของนางจะเป็นรองจากถงหลานเฟย แต่อะไรหายอย่างในตัวหนิงเซียงก็มัดใจเจินฮุ่ยหมิงไว้ได้อย่างอยู่หมัด ชนิดที่ว่าเขานั้นไม่เคยมาปรายตามองถงหลานเฟยเลย แม้จะออกปากรับผิดชอบชีวิตของนางด้วยการแต่งงานก็ตาม
"ไม่บ่อยเจ้าค่ะ แต่ถ้ามาก็ทำคุณหนูขยาดจนไม่กล้าออกจากเรือน"
"แล้วแบบนี้มีคนรู้เรื่องนี้ไหม ไม่สิ...แม่ทัพเจินรู้เรื่องนี้ไหม" สิ่งที่ถงหลานเลยอยากรู้มากที่สุด คือเขารับรู้เรื่องนี้บ้างหรือไม่ หากรู้เขามีการจัดการกับเรื่องนี้หรือเปล่า เพราะเขาเป็นคนทำให้เธอต้องมาตกอยู่ในอันตรายเช่นนี้เอง
"ชุนเหยียนก็มิทราบเจ้าค่ะ แต่คิดว่าคุณหนูเจินน่าจะบอกอยู่บ้าง" ถงหลานเฟยพยักหน้ารับ ขณะที่ทั้งสองกำลังพูดคุยกันอยู่ เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ชุนเหยียนเมื่อได้ยินก็พยุงตัวลุกขึ้นแล้วเดินตรงไปเปิดบานประตู ภาพตรงหน้าทำให้หญิงชราตกใจเป็นอย่างมาก
ชุนเหยียนเมื่อได้ยินก็พยุงตัวลุกขึ้นแล้วเดินตรงไปเปิดบานประตู ภาพตรงหน้าทำให้หญิงชราตกใจเป็นอย่างมาก เพราะบุรุษที่ยืนสวมชุดเกราะอยู่ด้านหลังของประตูคือเจินฮุ่ยหมิง ที่เจ้าตัวคิดว่าน่าจะไปเข้าเฝ้าฮ่องเต้เพื่อรายงานการเดินทางไปชายแดน
ถงหลานเฟยที่จดจำใบห้าของเจ้าของร่างกายกำยำหน้าประตูไม่ได้ ยืนมองดูเขาด้วยสายตาฉงน รอฟังว่าอีกฝ่ายจะพูดอะไร
"ข้าขอคุยกับเจ้านายของเจ้าหน่อยได้หรือไม่" เขาเอ่ยถามชุนเหยียนเป็นเชิงว่าต้องการพูดคุยกับถงหลานเฟยเพียงลำพัง หญิงชรายืนนิ่งเพราะกลัวจะเกิดปัญหาขึ้น ถงหลานเฟยในตอนนี้ไม่ได้เหมือนปกติ เธอจำอะไรไม่ได้ ซ้ำยังเอาแต่พูดเรื่องถอนหมั้นมาตลอดตั้งแต่รู้เรื่องหนิงเซียง หากปล่อยให้อยู่กันลำพัง กลัวว่าเจ้านายของตนจะพูดเรื่องถอนหมั้นขึ้นมา แล้วจะกลายเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โตเอาได้
“ยืนนิ่งอยู่ทำไมเล่าชุนเหยียน” ชายหนุ่มพูดย้ำ เพื่อให้หญิงชรารู้ตัวว่าตนนั้นต้องออกไปจากที่นี่
“คือว่า...ชุนเหยียนมีเรื่องต้องบอกกับท่านแม่ทัพให้ทราบก่อนเจ้าค่ะ”
“งั้นก็ว่ามา ข้ามีอีกหลายเรื่องต้องไปทำ” เจินฮุ่ยหมิงว่าอย่างใจเย็น ความจริงแล้วเขาต้องเขาวังไปรายงานตัวกับฮ่องเต้ก่อน แต่เพราะวันที่ออกเดินทางเขาไม่ได้อยู่ดูถงหลานเฟย ทั้งที่มีบ่าวรับใช้ไปบอกเรื่องที่นางตกบ่อน้ำแล้ว ทำให้รู้สึกผิดต่อคู่หมั้นในเรื่องนี้ ตลอดการเดินทางไปชายแดน เรื่องนี้ก็รบกวนความคิดเขาอยู่ตลอดจนไม่เป็นอันจะทำอะไรได้ ครั้นเมื่อถึงเวลาเดินทางกลับมาจึงตั้งใจเอาไว้ ว่าจะมาหาถงหลานเฟยก่อนจะเข้าไปวังหลวง
“คุณหนูความจำเสื่อมเจ้าค่ะ จำอะไรมิได้เลย” เจินฮุ่ยหมิงพยักหน้ารับ เขารับรู้เรื่องนี้มาจากเจินลี่หลัวก่อนแล้ว ทั้งยังถูกพี่สาวต่อว่ามาชุดใหญ่ เรื่องที่ทิ้งถงหลานเฟยไว้ก้นบ่อน้ำ แล้วพาหนิงเซียงไปชายแดน
