บทที่ 7 เนี่ยหลิงอินป่าเขาลำเนาไพร
วันนี้เนี่ยหลิงตื่นแต่เช้าเช่นเคย หลังจากจัดการตัวเองเรียบร้อย ก็เดินเข้าครัวทำอาหารเช้าทันที มันไม่ง่ายเลยที่จะทำอาหารให้เพียงพอ ในแต่ละวัน ด้วยจำนวนสมาชิกครอบครัวมีถึง 10 คน นับว่าเยอะมาก จำนวนอาหารในแต่ละวันจึงต้องใช้จำนวนมากเช่นกัน เฮ้อ คงต้องขึ้นเขาหาของป่าล่าสัตว์ให้มากหน่อย ลำพังเงินที่สามีและน้องชายทั้งสองคนไปรับจ้างในเมืองวันละไม่กี่อิแปะ มันจะไปพอได้อย่างไรเอาวะสู้โว้ย
“ทำอะไรดีหว่า โจ๊กมันเทศแล้วกัน จะทำหมั่นโถวก็ไม่มีแป้ง อ๊ะ ยังมีปลาที่ได้มาเมื่อวานอยู่นี่นา อย่างนั้นก็ทำโจ๊กปลาแล้วกัน ง่าย ๆ”
หลังจากบ่นคนเดียวในครัวเสร็จ เนี่ยหลิงก็ไปจัดการทำความสะอาดปลา ควักไส้ล้างให้สะอาด นำปลามาแล่เอาแต่เนื้อ ส่วนที่หัวและก้างปลานางนำมาทำน้ำซุปสำหรับต้มโจ๊ก หลังจากจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ก็นำขิงมาหั่นฝอยและซอยต้นหอม สำหรับโรยหน้าโจ๊ก และทำกระเทียมเจียวเพิ่ม ทำอาหารแต่ละครั้ง ใช้อาหารจำนวนมากไม่ได้ล่ะ ต้องเร่งหาเงิน หาอาหาร ไม่อย่างนั้นได้ตายรอบสองแน่ ๆ
“อาหลิงเจ้าตื่นมาทำอะไรตั้งแต่เช้า”
“ข้าทำอาหารเช้าเสร็จพอดีท่านแม่ ท่านไปล้างหน้าล้างตาก่อนเจ้าค่ะ”
“ท่านแม่ ท่านแม่ กลิ่นอะไร หอมมากเลย” เสียงของเนี่ยฟงกับมู่เฟยดังมาก่อนที่ตัวจะวิ่งมาถึง ส่วนชินหลงเดินงัวเงียมากอดขาผู้เป็นแม่ พร้อมกับพูดออกมาทั้งที่ยังงัวเงีย
“ท่างแม่ ข้าหิว กินได้หรือยังขอรับ”
เนี่ยหลิงได้แต่ทอดถอนใจ เฮ้อ เด็ก ๆ ผอมแห้ง อาหารไม่เพียงพอ ต่อไปนี้เนี่ยหลิงคนนี้จะพยายามให้มาก คงต้องปฏิวัติในการดำรงชีพใหม่เสียแล้ว
“หลงเอ๋อร์ ลูกไปล้างหน้าล้างตากับพี่ใหญ่พี่รองก่อน แล้วค่อยมากินข้าว ลูกสองคนพาน้องไปล้างหน้าล้างตาแล้วค่อยพาน้องมากินข้าว”
“ขอรับท่านแม่”
เนี่ยหลิงยกหม้อออกไปตั้งที่ห้องโถง พอดีกับที่เหม่ยหลัน
กลับมาจากรดน้ำผักที่หลังบ้าน เนี่ยหลิงจึงได้บอกให้ไปยกถ้วยชามออกมา หลังจากที่ทุกคนมาครบแล้ว ทุกคนต่างก้มหน้าก้มตากิน
“อร่อยมากเลยอาหลิง พ่อไม่ได้กินอะไรอร่อยอีกเลย ตั้งแต่เราย้ายมาอยู่ที่นี่ “
“อร่อยก็กินเยอะ ๆ เจ้าค่ะท่านพ่อ ข้าทำไว้เยอะมาก ท่านแม่เจ้าคะ วันนี้ข้าอยากให้ท่านแม่และน้องเล็กช่วยทำความสะอาดปลา ให้ข้าหน่อยเจ้าค่ะ ข้าจะขึ้นเขาไปหาของป่า แต่ปลาที่ได้มาเมื่อวาน ยังเหลืออีกเยอะ ไม่แน่ว่าวันนี้คงมีปลาในหลุมดักปลาอีกเยอะ ข้าจะทำปลาตากแห้งไว้เป็นเสบียงหน้าหนาวเจ้าค่ะ”
“ได้ ๆ แม่จะช่วยทำให้ เจ้าทำให้แม่ดูก่อนก็แล้วกัน แม่จะได้ทำตามได้ถูก”
“ท่านแม่ ๆ ข้าอยากขึ้นเขากับท่านแม่”
“ข้าด้วย ๆ ๆ”
“แม่ว่าลูก ๆ อยู่ให้ท่านปู่สอนหนังสือดีหรือไม่ แม่จะให้ท่านพ่อซื้อขนม มาฝากพวกเจ้าดีหรือไม่”
“อาฟง อาเฟย หลงเอ๋อร์ อยู่เรียนคัดอักษรกับปู่ดีกว่านะ
บนเขาอันตราย เอาไว้พวกเจ้าโตกว่านี้ก่อนค่อยไปกับพ่อเจ้าดีหรือไม่”
“ก็ได้ขอรับท่านปู่”
“ท่านพี่เจ้าคะ ข้าวานท่านพี่ไปดูปลาที่หลุมดักปลาหน่อยนะเจ้าคะ จะได้เอามาให้ท่านแม่ทำความสะอาดไว้ ข้ากลับมาจากหาของป่าแล้วข้าจะมาหมักเองเจ้าค่ะ “
“ได้น้องหญิง”
หลังจากอิ่มกันหมดแล้ว ท่านแม่และน้องเล็กเป็นคนทำความสะอาดถ้วยชาม ท่านพ่อไปสอนหนังสือให้หลาน ๆ สามีและน้องชายขึ้นเขาไปดูกับดัก ส่วนเนี่ยหลิงเตรียมของขึ้นเขา หลังจากที่สอนแม่สามีทำปลาแล้ว
เนี่ยหลิงสะพายตะกร้าขึ้นเขา มีเสียมอันเล็ก ๆ ใส่ไปด้วย พร้อมกระบอกไม้ไผ่ที่ใส่น้ำดื่ม มีมันเทศเผาสองหัว ไว้เป็นอาหารเที่ยงและไม่ลืมจะหยิบธนูไปด้วย เดินมาได้สักพักเจอกับชาวบ้านที่ขึ้นเขาไปหาของป่าด้วยเช่นกัน นางเดินมาสักพักรู้สึกถึงสายตาไม่เป็นมิตรมองอยู่ เนี่ยหลิงหันมองพลันเจอเข้ากับชะนีปากแดงหน้าวอกที่ในความทรงจำเดิมคือเด็กสาวข้างบ้านลูกสาวนางหลิว หลิวอิงเถา
หลิวอิงเถาอายุ 19 หนาว ยังไม่ได้ออกเรือน
นางอิจฉาเนี่ยหลิงเพราะนางหลงรักหยางหลงในตอนที่ครอบครัวนี้ย้ายมาอยู่ที่นี่ เมื่อ 6 ปีที่แล้ว ส่วนเนี่ยหลิงขึ้นเขาหาของป่า และได้พบกับหยางหลงบนเขานั่นเอง เจอกันบ่อย ๆ ก็รักกัน ก็เลยแต่งงานกัน ง่าย ๆ แบบนี้แหละ อ่า สายตาเช่นนี้ ยิงลูกตาแตกเลย
ดีไหม ไม่ได้ อ่อนแออ่อนโยนนะ เนี่ยหลิงได้แต่คิด พลันตอนนั้นเอง อิงเถาอดทนมองเนี่ยหลิงไม่ได้เลย พูดออกมา
“โอ๊ะ ข้าก็นึกว่าใครที่ไหน เนี่ยหลิงนี่เอง ได้ข่าวว่าตกเขา ยังไม่ตายอีกหรือ ช่างหนังหนาจริง ข้าล่ะนับถือ”
หื้มมมมมม ว่าจะไม่แล้วนะ เอาซะหน่อยดีไหม แรงมาแรงกลับไม่โกง ร้ายมาร้ายกลับนะจ๊ะ
“ข้าหนังหนาก็ดีกว่าหน้าหนาแบบคนเช่นเจ้านะ หน้าหนาแม้กระทั่งให้ท่าสามีคนอื่น ดีนะสามีข้าหาได้ตาต่ำ”
พูดจบเนี่ยหลิงก็เดินไปทันทีทิ้งเสียงผีเปรตให้กรีดร้องลั่นตีนเขาไว้เบื้องหลัง ฮ่า ๆ นึกว่าจะแน่ บอกเลยโนสนโนแคร์ เอาเวลาไป
ทำมาหากินดีกว่า เนี่ยหลิงเดินขึ้นเขามาอีกด้านซึ่งเป็นคนละฝั่งของเมื่อวาน ยิ่งเดินลึกเข้าไปยิ่งเห็นป่าที่อุดมสมบูรณ์มาก เดินมาสักพัก
เนี่ยหลิงก็เจอเข้ากับเห็ดหอม แวะเก็บเห็ดหอมจนหมดก็เดินต่อ เจอเห็ดสนอีกจำนวนมาก ยังเจอเห็ดหูหนูดำด้วย หลังจากเก็บสารพัดเห็ดแล้ว เนี่ยหลิงก็เดินต่อทันทีโดยไม่รู้เลยว่าตัวเองหลงเข้ามาในป่าชั้นกลางตั้งแต่ตอนไหน ตอนนั้นเองสายตาของเนี่ยหลิงหันไปเจอเข้ากับหญ้ามรกตเหมันต์สมุนไพรวิญญาณขั้นต่ำ โอ้ มีห้าต้นล่ะ เก็บ ๆ สมบัติจ๋าข้ามาแล้ว ปกติจะเจอแต่สมุนไพรที่ไม่ใช่สมุนไพรวิญญาณ อ่าช่างโชคดีจริง ๆ หลังจากเก็บสมุนไพรทั้งห้าต้นแล้วก็เดินต่อ
สักพักได้ยินเสียงหมูป่าร้องอู๊ดอี๊ด ๆ ไม่รอช้าเดินไปตามเสียงร้องที่
ได้ยิน นางแอบอยู่หลังต้นไม้ใหญ่มองดูฝูงหมูป่าจำนวน 8 ตัว
เนี่ยหลิงเล็งธนูขึ้นอย่างไว เล็งไปที่ตัวใหญ่ที่สุด ฟิ้ววว ปั๊ก
หมูป่าตัวใหญ่ล้มขาดใจตายในดอกเดียว หืม ธนูนี่ดีจริง ๆ ยิงโดนตรงไหนก็ตาย ฮ่า ๆ แต่ว่าจะทำอย่างไรกับหมูนี่ดี แบกลงไปเลยแล้วกัน วันนี้พอแค่นี้ก่อน รีบกลับก่อนที่สัตว์ตัวอื่นจะได้
กลิ่นเลือดดีกว่า เนี่ยหลิงแบกหมูตัวใหญ่เดินลงเขาไป เดินออกมาถึงป่าชั้นนอก นางวางหมูลงนั่งพัก เอาน้ำออกมาดื่มด้วยความเหนื่อยล้า
“โอ้ย เหนื่อย ไม่ไหว ๆ พักก่อน เอ๊ะเหมือนจะลืมว่ามีแหวนมิติ ทำไมโง่ขนาดนี้เนี่ย”
เนี่ยหลิงเก็บหมูเข้าแหวนและเดินหาที่พักเพื่อกินอาหารเที่ยง นางพักใต้ต้นไม้ใหญ่ เมื่อกินมันเผาสองหัวที่เอามาหมดแล้ว จึงได้เริ่มมองหาสิ่งที่รู้จักและกินได้ เดินไปมองหาไป ทันใดนั้นสายตาพลันหันไปเจอกับกวางหลงฝูง ไม่ต้องเอื้อนเอ่ย เนี่ยหลิงขึ้นสายธนูเล็งไปที่กวางทันทีและก็ไม่พลาด กวางชะตาขาดล้มลงขาดใจตายทันที เห็นทีคงต้องแบกลงไป จะเก็บใส่แหวนคงไม่ดี ต้องค่อย ๆ สร้างสถานการณ์ให้ชาวบ้านเห็น ถ้าเกิดอยู่ ๆ มีเงินขึ้นมาก็จะมีปัญหาตามมาได้ เอาล่ะวันนี้คงพอแค่นี้คงไม่ล่าสัตว์ แล้ว เดินดูเผื่อจะเจออะไรอีก วันพรุ่งนี้ค่อยมาเก็บใหม่ วันนี้เป็นการเก็บเกี่ยวที่ไม่เลวเลยจริง ๆ เนี่ยหลิงคิดอย่างมีความสุขและเดินลงเขาไป
